ถ้าท่านไปซื้อก๋วยเตี๋ยวไก่บุฟเฟ่ต์ 49 บาท แล้วได้น่องไก่ชิ้นเดียว ท่านจะทำยังไง?
ดราม่าก๋วยเตี๋ยวไก่บุฟเฟ่ต์ 49 บาท ของหมด เด็กได้น่องไก่ชิ้นเดียว
เมื่อวันที่ 26 พ.ย.66 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์แชร์ประสบการณ์ผ่านกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค ระบุว่า “ก๋วยเตี๋ยวไก่บุฟเฟ่ต์ ราคา 49 บาท วันนี้หลานชายอายุ 10 ขวบ เดินไปซื้อกลับมากินที่บ้าน เดินถือชามก๋วยเตี๋ยวกลับมาบอกว่าที่ร้านบอกว่าของหมดมีของแค่นี้ น่องไก่ชิ้นเท่าปีกบนไก่ ได้น่องเดียว สงสารหลานมาก เด็กผู้ชายกินเก่ง เราสอบถามน้องจึงรู้ว่าทางร้านก็ไม่ได้แจ้งน้องว่าของหมด”
เมื่อเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็ทำเอาชาวเน็ตแห่วิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่ โดยบางคนมองว่า “ถ้าของหมดก็ไม่ต้องซื้อสิ ถ้าจ่ายไปแล้วก็เอาเงินคืน” ส่วนอีกฝ่ายมองว่าเรื่องนี้เป็นความผิดของทางร้านที่ไม่แจ้งลูกค้า อีกทั้งลูกค้าเป็นเพียงเด็ก 10 ขวบ คงไม่กล้าทำอะไร เช่น แบบนี้ ป็นเราให้ฟรีแล้ว ไม่กล้าคิดเงินหรอก ละอายใจ, ของหมดยังจะเปิดบริการอีก, น้อยมากไม่สมราคา, งวดหน้าแม่ค้าคงแถมให้นะ, กล้ารับเงินนะร้านพวกนั้น
จากเรื่องราวดังกล่าว ส่วนตัวผมมองว่าเรื่องนี้เป็นความผิดของทางร้าน เนื่องจากทางร้านไม่ได้แจ้งให้ลูกค้าทราบก่อนว่าของหมดแล้ว ทั้งที่ราคาบุฟเฟ่ต์ก๋วยเตี๋ยวไก่ร้านนี้อยู่ที่ 49 บาท ซึ่งหากเป็นลูกค้าผู้ใหญ่อาจจะสามารถตัดสินใจได้ว่าจะซื้อหรือไม่ แต่ในกรณีนี้ลูกค้าเป็นเด็กอายุเพียง 10 ขวบ คงไม่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ทางร้านจึงควรแจ้งให้ลูกค้าทราบก่อนว่าของหมดแล้ว เพื่อให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจได้ว่าจะซื้อหรือไม่ หรือไม่ก็ปรับราคาให้เหมาะสมกับปริมาณของที่ให้บริการ
นอกจากนี้ การที่ทางร้านรับเงินจากลูกค้าไปทั้งที่ของหมดแล้ว ก็ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดเช่นกัน เนื่องจากเป็นการหลอกลวงลูกค้า ประกอบกับลูกค้าเป็นเด็กอายุเพียง 10 ขวบ คงไม่สามารถเรียกร้องสิทธิได้เท่ากับผู้ใหญ่ จึงเป็นหน้าที่ของทางร้านที่จะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ถือเป็นบทเรียนให้กับผู้บริโภคทุกคนเช่นกัน ในการรับประทานอาหารบุฟเฟ่ต์ควรตรวจสอบปริมาณของที่ให้บริการก่อนตัดสินใจซื้อ หากเห็นว่าของเหลือน้อยหรือใกล้หมดแล้ว ก็ควรพิจารณาอีกครั้งว่าจะซื้อหรือไม่
สำหรับทางร้านก๋วยเตี๋ยวไก่บุฟเฟ่ต์ดังกล่าว อยากให้แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยควรคืนเงินให้กับลูกค้าที่เป็นเด็กอายุ 10 ขวบ และควรปรับปรุงการบริหารจัดการภายในร้านให้ดียิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก
ความคิดเห็นของผู้อ่าน:
ถ้าเป็นท่านท่านจะทำอย่างไร?