คำเรียกเวลาแบบไทย “โมง-ทุ่ม” มาจากไหน ใครกำหนด?
คำเรียกเวลาแบบไทย “โมง-ทุ่ม” มาจากไหน ใครกำหนด?
ในสมัยก่อน คนไทยยังไม่มีนาฬิกาใช้อย่างในปัจจุบัน จึงต้องมีการตีฆ้องหรือกลองเป็นสัญญาณบอกเวลา ฆ้องและกลองที่ใช้ตีสัญญาณบอกเวลานั้นมีลักษณะแตกต่างกัน ฆ้องมีเสียงดังกังวาน เหมาะกับการตีบอกเวลาในตอนกลางวัน ส่วนกลองมีเสียงดังกึกก้อง เหมาะกับการตีบอกเวลาในตอนกลางคืน
คำว่า “โมง” มาจากเสียงของฆ้อง เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ตีสัญญาณบอกเวลาตอนกลางวัน ส่วนคำว่า “ทุ่ม” เรียกตามเสียง “กลอง” อุปกรณ์ที่ใช้ตีสัญญาณบอกเวลาตอนกลางคืน
คำว่า “โมง” ปรากฏในเอกสารไทยครั้งแรกในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ปรากฏในหนังสือ “ไตรภูมิพระร่วง” ซึ่งเป็นวรรณคดีเรื่องแรกของไทย คำว่า “ทุ่ม” ปรากฏในเอกสารไทยครั้งแรกในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ปรากฏในหนังสือ “ประชุมพงศาวดารภาคที่ 3”
หอกลองที่หน้าหับเผย เป็นหอก่ออิฐถือปูน 4 ชั้น (ปัจจุบันเป็นที่ตั้งกรมการรักษาดินแดน) ตึกที่เห็นเป็นแถวทางซ้ายมือของหอกลอง คือตึกแถวถนนเจริญกรุง ภาพนี้ถ่ายจากพระที่นั่งภูวดลทัศไนย (หอนาฬิกา) ในพระบรมมหาราชวัง (ภาพจากหนังสือกรุงเทพฯ ในอดีต)
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้ออกประกาศเรื่อง “วิธีนับทุ่มโมงยาม” เพื่อเป็นการกำหนดวิธีการเรียกเวลาแบบไทยให้ชัดเจนขึ้น ประกาศดังกล่าวระบุว่า
เวลากลางวันให้นับเป็น “โมง” เรียงลำดับจาก 1 โมง ถึง 6 โมง เวลากลางคืนให้นับเป็น “ทุ่ม” เรียงลำดับจาก 1 ทุ่ม ถึง 6 ทุ่ม
ในปัจจุบัน คำเรียกเวลาแบบไทย “โมง-ทุ่ม” ยังคงใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวัน แต่คำเรียกเวลาแบบสากล “นาฬิกา” ก็ได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น
ตัวอย่างการใช้คำเรียกเวลาแบบไทย “โมง-ทุ่ม”
- เวลา 10.00 น. ของวันหนึ่ง เรียกว่า “หกโมงเช้า”
- เวลา 18.00 น. ของวันหนึ่ง เรียกว่า “หกโมงเย็น”
ความสำคัญของคำเรียกเวลาแบบไทย “โมง-ทุ่ม”
คำเรียกเวลาแบบไทย “โมง-ทุ่ม” เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของไทยที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนไทยในอดีต คำเรียกเวลาเหล่านี้ยังคงมีคุณค่าและควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ เพื่อให้คนไทยรุ่นหลังได้เรียนรู้และสืบทอดต่อไป
อ้างอิงจาก:
หนังสือ “พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554”
บทความ “คำเรียกเวลาแบบไทย “โมง-ทุ่ม” มาจากไหน ใครกำหนด?” เผยแพร่โดยเว็บไซต์ศิลปวัฒนธรรม
บทความ “คำเรียกเวลาแบบไทย “โมง-ทุ่ม” มรดกทางวัฒนธรรมที่สะท้อนวิถีชีวิต” เผยแพร่โดยเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
เสธ.เดือด มีแต่พื้นที่ของกูกับของมึง..เท่านั้น
"DJ Sakura Soh" กับบทบาทใหม่ในวงการ JAV
ทหารอีแตะกัมพูชา ลงคลิปยิงปืน ค. และเครื่องยิงลูกระเบิดโจมตีทหารไทยในแนวหน้า
เผยคลิป ทหารไทยใช้ปืนใหญ่ยิงทำลายบังเกอร์ทหารกัมพูชาบริเวณหน้าบ้านเรือนในพื้นที่บ้านหนองจาน หลังพบฝ่ายกัมพูชาใช้เป็นฐานปฏิบัติการยิงปืน ค. ตอบโต้ฝ่ายไทย
ชายคนหนึ่งจับ "สัตว์ประหลาด" ในน้ำจืดขนาดมหึมาได้ 2 ครั้งในวันเดียว!!
เกาหลีแฉเอง! จีนเมินช่วยกัมพูชา ทัพฟ้าไทยจัดเต็มบินถล่มรังลับในเขมร
ทหารอีแตะกัมพูชา ลงคลิปยิงปืน ค. และเครื่องยิงลูกระเบิดโจมตีทหารไทยในแนวหน้า
ภรรยาของผู้นำกัมพูชา เข้าร่วมพิธีศwของบรรดาทหารที่เสียชีวิตในปะทะตามแนวชายแดนกับไทย
ทำไมหลายคนอกหักในวันเทศกาล ต้องเจ็บปวดเพราะโดนบอกเลิกในวันสำคัญ ควรรับมือยังไงถ้าต้องอกหักในวันพิเศษ
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
สิ้นพระเกจิผู้เมตตา "หลวงพ่อเจริญ" ละสังขารอย่างสงบ
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
ทึ่งทั่วโลก : "ทะเลสาบเพโท" ทะเลสาบสีฟ้าเทอร์ควอยซ์แสนสดใสที่มองจากมุมสูงแล้วมีรูปร่างเหมือน "หัวสุนัขจิ้งจอก" ด้วยน๊า
จะว่าไปแล้ว "น้ำผึ้ง" นั้นคือ อุจจาระของผึ้งหรือไม่ ?
ทึ่งทั่วไทย : "สะพานท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย" (Bali Hai Pier) ในยามค่ำคืน
เตือนแล้วนะ! 3 ผลไม้ที่ "เซลล์มะเร็ง" โปรดปราน หมอยังไม่กล้าแตะ แต่หลายคนกินทุกวันโดยไม่รู้ตัว