กินกาแฟยังไงไม่ให้อ้วน
กาแฟ เป็นเครื่องดื่มโปรดของใครหลายๆคน ซึ่งปัจจุบันเป็นเครื่องดื่มที่หากินได้ง่ายมาก เพราะมีขายอยู่ทุกที่ แม้ว่าจะเป็นตามตรอกซอกซอย ก็ยังมีให้ซื้อได้ตลอดเวลา มื้อเช้าของหลายคนมักจะเริ่มด้วยกาแฟ บางคนถึงขั้นหมดแรงถ้าไม่ได้ทานเลยทีเดียว แก้วแรกของมื้อเช้าผ่านไป แก้วที่สองก็ตามมาในระหว่างวัน ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เช่น คิดงานไม่ออก ง่วงนอน หรือทานคู่กับอาหารว่างในระหว่างพักเบรคตอนประชุม บางคนติดนิสัยต้องทานกาแฟหลังมื้ออาหาร
นับรวมแล้ววันนึงก็หลายแก้ว ในกาแฟแต่และแก้วนั้นประกอบไปด้วย น้ำตาล นม และครีมเทียม ซึ่งแต่ละอย่างล้วนอุดมไปด้วยแคลอรี่ที่สูงมากๆ แถมบางเมนูมีการใส่วิปครีม ไซรัป หรือน้ำเชื่อมกลิ่นต่างๆเพิ่มก็ยิ่งทำให้แคลอรี่สูงเพิ่มขึ้นไปอีก เป็นเมนูที่ควรจะหลีกเลี่ยงสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก เราลองมาดูกันว่ากาแฟแต่ละเมนูให้พลังงานเท่าไหร่ และต้องออกกำลังกายยังไง เพื่อที่จะเผาพลาญพลังงานจากกาแฟให้ออกไป ไม่มาเก็บสะสมไว้ในร่างกาย
เมนูที่ 1. กาแฟเอสเปรสโซ
กาแฟเอสเปรสโซ เป็นกาแฟที่มีต้นกำเนิดจากประเทศอิตาลี ใช้วิธีการชงแบบใช้แรงอัด ทำให้เอสเปรสโซมีรสชาติกาแฟที่เข้มข้นและหนักแน่น ต่างจากกาแฟทั่วไปซึ่งชงแบบผ่านน้ำหยด โดยจะเสิร์ฟมาเป็นช็อตเล็กๆ สำหรับคอกาแฟที่ไม่ต้องการการปรุงแต่ง เพราะไม่มีส่วนผสมอื่นเป็นกาแฟล้วนๆ ให้พลังงานเพียง 13 Kcalเท่านั้น จึงไม่ต้องกลัวอ้วนไม่ว่าจะดื่มมากแค่ไหน แต่ควรระวังในเรื่องของปริมาณคาเฟอีนที่ร่างกายอาจจะได้รับมากเกินไป
วิธีการเผาพลาญพลังงาน
เดินธรรมดาต่อเนื่องแค่ 5 นาที ก็สามารถกำจัดพลังงานจากกาแฟแก้วนี้ออกไปได้หมดแล้ว
เมนูที่ 2. กาแฟอเมริกาโน
กาแฟอเมริกาโน เป็นเมนูที่ใช้น้ำร้อนผสมกับเอสเปรสโซ โดยเกิดขึ้นในยุคสงครามโลกที่ทหารอเมริกาเดินทางไปอิตาลี แล้วอยากดื่มกาแฟ แต่เอสเปรสโซมีรสชาติเข้มข้นเกินไป จึงเติมน้ำร้อนจนกลายเป็นเมนูอเมริกาโนที่มีรสชาติกำลังดีไม่ขมจนเกินไป เป็นเมนูที่ให้พลังงานต่ำเช่นเดียวกับกาแฟเอสเปรสโซ โดยกาแฟอเมริกาโนไซส์มาตรฐาน 1 แก้ว จะให้พลังงาน 15 Kcal
วิธีการเผาพลาญพลังงาน
เดินธรรมดาต่อเนื่องแค่ 5 นาที ก็สามารถเผาผลาญพลังงานที่ได้รับจากกาแฟอเมริกาโน 1 แก้วออกไปได้หมด
เมนูที่ 3. กาแฟคาปูชิโน
กาแฟคาปูชิโน เป็นเมนูที่มีการผสมเอสเปรสโซกับนมร้อนและฟองนม โดยมีอัตราส่วนของเอสเปรสโซ 1 ส่วน ผสมกับนมร้อน 1 ส่วน และฟองนมอีก 1 ส่วน อยู่ด้านบน ความโดดเด่นของคาปูชิโนคือกลิ่นหอมของกาแฟที่ผสมผสานกับนมจนเกิดเป็นรสชาติที่หอมกรุ่น หวานมันเป็นเอกลักษณ์ และฟองนมนุ่มๆ อยู่ข้างบน ที่อาจจะเปื้อนบริเวณริมฝีปากเวลากิน แต่ว่ามันก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของการดื่มกาแฟชนิดนี้ กาแฟคาปูชิโน ให้พลังงาน 120 Kcal
วิธีการเผาพลาญพลังงาน
เดินธรรมดาต่อเนื่อง 45 นาที หรือวิ่ง 20 นาที หรือว่ายน้ำ 15นาที ก็สามารถเผาผลาญพลังงานที่ได้รับออกไปได้หมด
เมนูที่ 4. กาแฟลาเต้
กาแฟลาเต้ เป็นกาแฟใส่นมที่ประกอบด้วยเอสเปรสโซหนึ่งหรือสองชอต เติมนมอุ่นๆ ข้างบนจะเติมฟองนมหนาประมาณ 1 ซม. และมักมีลายลาเต้อาร์ท(Latte art) สวยๆ อยู่ปนฟองนม กาแฟลาเต้สูตรมาตรฐานนั้นมีส่วนผสมเพียงแค่ 2 อย่างเท่านั้น ก็คือกาแฟและนม ซึ่งมีแคลลอรี่อยู่ที่ 190 Kcal แต่ถ้าเติมไซรัปหรือน้ำเชื่อมกลิ่นต่างๆ เช่น caramel , hazelnutหรือ vanilla ลงไป จำนวนแคลอรี่อาจจะเพิ่มสูงถึง 500 Kcal ได้เลย
วิธีการเผาพลาญพลังงาน
เดินธรรมดาต่อเนื่อง 60 นาที หรือวิ่ง 30 นาที ก็จะสามารถเผาผลาญพลังงานที่ได้รับ จากกาแฟลาเต้สูตรมาตรฐาน ไปได้หมด แต่ถ้าเติมน้ำตาลหรือไซรัปก็ต้องเพิ่มเวลาออกกำลังกายมากขึ้น
เมนูที่ 5. กาแฟมอคค่า
กาแฟมอคค่า เป็นกาแฟใส่นมที่มีเอสเปรสโซหนึ่งช็อตผสมกับผงช็อกโกแลตหรือช็อกโกแลตไซรัป แล้วใส่นมหรือครีม กาแฟมอคค่าจะค่อนข้างได้รับความนิยมในกลุ่มสาวๆ เนื่องจากมีรสช็อกโกแลตและนมที่เข้มข้น แต่เป็นกาแฟที่ให้พลังงานสูงสุดในบรรดากาแฟทั้งหมดเลยก็ว่าได้ เพราะในกาแฟมอคค่า 1 แก้วนั้น ให้พลังงานไม่ต่ำกว่า 330 Kcal ยิ่งถ้าใครสั่งเป็นกาแฟเย็น เพิ่มไซรัปและวิปครีมปิดหน้าด้วยละก็ แคลอรี่อาจจะขึ้นไปเกือบเท่าตัวหรือประมาณเท่ากับน้ำอัดลมจำนวน 4 กระป๋องเลย
วิธีการเผาพลาญพลังงาน
เดินธรรมดาต่อเนื่อง 2 ชั่วโมง หรือวิ่ง 1 ชั่วโมง สำหรับมอคค่าที่ไม่ได้เติมไซรัปหรือเพิ่มวิปครีม
สำหรับคอกาแฟทั้งหลาย ดื่มกาแฟแล้วออกกำลังกายตามนี้ จะช่วยเผาผลาญแคลอรี่จากกาแฟ แต่อย่าลืมว่าทุกวันนั้นเราก็ทานอาหารอย่างอื่นด้วย ดังนั้นต้องออกกำลังกายเพิ่มจากนี้เพื่อเผาผลาญพลังงานจากอาหารอื่นๆด้วยนะคะ