สิ่งที่ทำตอนเช้าเเล้วดีต่อสุขภาพกายเเละจิต
- ตื่นนอนให้ตรงเวลาทุกวัน
ถึงแม้ว่าจะเป็นวันหยุดเราก็ควรตื่นนอนให้ตรงเวลาทุกวัน แปลว่าเราควรนอนเป็นเวลาในทุก ๆ วัน การตื่นนอนที่ดี คือการตื่นนอนโดยไม่ต้องใช้นาฬิกาปลุก ซึ่งมักจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเราได้นอนอย่างเต็มอิ่ม ถ้าอยากจะตื่นเช้า เราก็ควรเข้านอนเร็วขึ้น เพื่อให้เรามีเวลานอนที่เพียงพอ
- ดื่มน้ำเปล่าทันทีหลังตื่นนอน
ดื่มน้ำตอนเช้าสักครึ่งแก้วหลังจากตื่นนอนโดยดื่มก่อนแปรงฟัน สามารถช่วยร่างกายเราได้หลายอย่างเลยค่ะ อย่างแรกเลยก็คือได้ทดแทนน้ำที่เราขาดไปตอนกลางคืน เพราะเมื่อเรานอนหลับ 6 - 8 ชั่วโมง ร่างกายก็จะขาดน้ำซึ่งการที่เราดื่มน้ำเข้าไปก็จะทำให้เราสดชื่นได้ อย่างที่สองนั่นก็คือเป็นการช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ สามารถเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้นซึ่งส่งผลไปถึงการลดน้ำหนักและการควบคุมน้ำหนักได้ อย่างที่สามนั่นก็คือการดื่มน้ำก่อนการแปรงฟัน สามารถทำให้ร่างกายได้รับแบคทีเรียที่ดี ซึ่งสามารถช่วยทำให้ระบบย่อยและระบบขับถ่ายของเราดีขึ้นได้ค่ะ
- วางแผนการทำงานในวันนั้น
เพื่อลดความสับสน เราควรใช้เวลาสั้น ๆ ในช่วงเช้าเขียนรายการสิ่งที่ต้องทำในวันนั้น และวางแผนการทำงานให้ดี เพื่อทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น บางครั้งเราอาจจะต้องมีการเตรียมตัวเตรียมพร้อมอะไรบางอย่าง ก็จะทำให้เราไม่ลืมและทำงานสำคัญต่าง ๆ สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
- นั่งสมาธิหรืออยู่กับปัจจุบัน
ช่วงเช้า ลองหาเวลาเงียบ ๆ สัก 5-10 นาที นั่งสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ หรืออย่างน้อย ๆ ก็ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง อยู่กับปัจจุบัน ไม่ต้องคิดฟุ้งซ่านไปในอดีตหรืออนาคต ถ้าเราเริ่มวันใหม่ด้วยความสงบ ทั้งวันเราจะมีสมาธิในการทำงานเพิ่มมากขึ้น
- ดื่มกาแฟร้อนหรือชาร้อน
ดื่มกาแฟร้อนหรือชาร้อน ซึ่งจะเป็นชาอะไรก็ได้และต้องไม่ผสมนมไม่ผสมน้ำตาลค่ะ การดื่มเครื่องดื่มประเภทนี้สามารถทำให้ร่างกายได้รับคาเฟอีน ซึ่งจะส่งผลดีสำหรับคนที่ต้องการออกกำลังในตอนเช้า คาเฟอีนสามารถทำให้เรามีแรงในการออกกำลังได้มากขึ้น สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเมตาบอลิซึม และทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันได้มากกว่าปกติ อย่างไรก็ตามแนะนำให้ดื่มกาแฟหรือชา เพียง 1 - 2 แก้วต่อวันก็เพียงพอและควรดื่มในช่วงเช้าเท่านั้นค่ะ เพราะคาเฟอีนมีฤทธิ์ในการกระตุ้นร่างกายให้ตื่นตัว หากดื่มมากเกินไปอาจส่งผลให้ใจสั่น มือสั่น รวมถึงหากดื่มในเวลาบ่ายหรือเย็นอาจทำให้เรานอนไม่หลับได้ค่ะ
- ออกกำลังกายตอนท้องว่าง
การออกกำลังกายตอนท้องว่างหรือก่อนรับประทานอาหารเช้า ร่างกายจะสามารถดึงไขมันที่สะสมไว้ เช่น ไขมันรอบเอวและไขมันต้นขาต้นแขนออกมาใช้ได้ดีค่ะ แต่หากเราออกกำลังกายหลังรับประทานอาหารไปแล้ว ร่างกายก็จะใช้พลังงานจากอาหารแทนที่จะดึงไขมันสะสมออกมาเผาผลาญ ซึ่งสำหรับใครที่อยากจะลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก การออกกำลังกายตอนท้องว่างจึงเป็นอีกวิธีที่ช่วยเราได้ค่ะ และเราก็ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายหนัก อาจจะวิ่งเหยาะ ๆ แค่ 20 - 30 นาทีก็ได้ แต่ใช้วิธีออกกำลังอย่างต่อเนื่อง 4-5 วันต่อสัปดาห์แบบนี้จะดีกว่าค่ะ
- เลือกรับประทานมื้อเช้าด้วยอาหารโปรตีนสูง
หลังจากที่ออกกำลังกายแล้วก็ได้เวลารับประทานอาหารสักทีค่ะ ซึ่งเราแนะนำให้เลือกกินอาหารที่มีโปรตีนสูง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ ไข่ เต้าหู้ ถั่ว เพราะอาหารที่มีโปรตีนสูงนั้นช่วยให้เราอิ่มได้นาน ช่วยลดความอยากอาหารและป้องกันไม่ให้เรากินอาหารอื่น ๆ มากเกินไป นอกจากนี้ยังส่งผลทำให้เราสามารถลดไขมันในร่างกายได้อีกด้วยค่ะ โดยเฉพาะไขมันที่สะสมบริเวณหน้าท้องและรอบเอว การกินอาหารที่มีโปรตีนสูงหลังจากออกกำลังกายยังสามารถช่วยให้ร่างกายได้นำสารอาหารไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอและช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ส่งผลให้เราสามารถลดน้ำหนักลงได้และทำให้เราผอมเร็วขึ้นได้ด้วยค่ะ
8.เปิดเพลงฟังในช่วงเช้า
การเปิดเพลงฟังในตอนเช้านั้นเป็นกิจกรรมที่ไปกระตุ้นการหลั่งสารโดพามีน ช่วยทำให้เรามีอารมณ์ที่ดีขึ้น ร่างกายสดชื่น สดใส และทำให้มีความตื่นตัวมากขึ้น โดยเฉพาะการฟังเพลงคลอเบา ๆ ในตอนเช้า ขณะที่เราทำกิจวัตรประจำวันไปด้วยก่อนออกไปทำงาน หรือไปเรียน จะช่วยทำให้สดชื่น มีพลังบวก และช่วยให้สมองผ่อนคลายได้อีกด้วย
- การขับถ่ายตอนเช้า
การขับถ่ายตอนเช้าถือเป็นเรื่องสำคัญมาก จริง ๆ แล้วคนเราควรที่จะขับถ่ายทุกวัน เพื่อเอาของเสียออกจากร่ายกายหรือการนำของเก่าทิ้งออกไป รวมถึงเป็นการสร้างระบบขับถ่ายที่ดีต่อร่างกาย ซึ่งช่วงเวลาการขับถ่ายที่สำคัญที่สุดในตอนเช้าคือ ช่วงเวลา 05.00 น.-07.00 น. ซึ่งเป็นเวลาของลำไส้ใหญ่ทำงานในการขับกากอาหารออกจากร่างกาย เพราะระหว่างที่เราหลับนั้นลำไส้เล็ก และลำไส้ใหญ่ยังทำหน้าที่ในการย่อยอาหาร และดูดซึมสารอาหารอยู่
- ออกไปรับวิตามินดีในยามเช้า เสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง
วิตามินดีจากแสงแดด จะช่วยให้ร่างกายของเราแข็งแรง โดยเฉพาะกระดูก ป้องกันโรคกระดูกพรุน และยังเสริมภูมิคุ้มกันโรคได้อีกด้วย เมื่อตื่นเช้ามาก็เปิดหน้าต่าง เปิดผ้าม่าน ให้แสงแดดได้สัมผัสกับผิวของเราสักหน่อย หรือจะออกไปเดินเล่น วิ่งจ๊อกกิ้ง ออกกำลังกายไปในตัว ในช่วงเวลา 06.00-08.00 น. เพื่อให้ผิวได้รับแสงแดดในยามเช้า สัก 15 นาที