ปิล็อก บ้านอิต่อง มีอะไร?

" ปิล็อก บ้านอิต่อง มีอะไร ? "

ปิล็อก ก็เป็นเหมืองเก่าที่เคยเจริญรุ่งเรืองในอดีตที่อยู่ในหมู่บ้านอิต่อง โดยมีชาวต่างชาติเข้ามาสัมปทานและนำความเจริญเข้ามาสู่ชุมชน ชุมชนดั้งเดิมคือ ชาวมอญบนภูเขาสูงระดับเมฆหมอก มีชายแดนติดกับพม่า ทำให้การค้าขาย ขนส่งในอดีตจะใช้เส้นทางผ่านพม่ามากกว่าไทย ในวันนี้ ปิล็อก คงเหลือไว้แค่ความทรงจำที่สวยงามและหมู่บ้านที่เงียบสงบ ที่ผู้คนต่างพากันเข้าไปเยี่ยมเยียนหมู่บ้านในเขาบนดอยสูงแห่งนี้

" ทำไมต้อง ปิล็อก อีต่อง ? "

ก็เป็นธรรมดา ของคนที่ชอบการเดินทาง ที่ไหนเขาว่าสวย ที่ไหนเขาว่าเด็ด เราก็อยากไปเปิดประสบการณ์ชีวิตกับเขาสักครั้ง จะเป็นไรไป why not ?.... ข้อมูลก็หาอ่านบ้าง โดยส่วนตัวจะไม่อ่านอะไรมากมายจนกลายเป็นกรูรู ก่อนได้เห็นสถานที่จริง เพราะมันทำให้ขาดอรรถรส ในการเดินทาง (ใครเป็นเหมือนกันบ้าง ? ) เน้นไปเจอกับประสบการณ์จริง มันก็จะตื่นเต้นและได้อรรรสมากกว่า ที่แบบว่า "อ่านมาละ ต้องเป็นแบบนี้แน่ ๆ มันไม่อินว่ามะ " .....let's go !

" ประสบการณ์ ของฉันที่ อิต่อง "

เหมืองปิล็อก บ้านอิต่อง อยู่ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นะจ๊ะ

ฉันขับรถจาก กทม. ถึง กาญจนบุรี และมายังทองผาภูมิ ก็ประมาณ 333 กม. คนที่ไม่มีรถ ก็มีรถตู้ รถทัวร์ มาถึง ทองผาภูมิ แล้วต่อรถ 2 แถวถึงในหมู่บ้านอีต่องได้เลยนะจ๊ะ

แต่เราเอารถมาจอดไว้ที่บ้านน้า และต้องคุยกันใหม่ว่าจะขึ้นปิล้อกกันอย่างไร เพราะช่วงนี้เป็นหน้าฝน และวันที่ไปฝนตกตลอดวัน ที่ต้องวางแผนดีๆ เพราะคนถิ่นเขาบอกว่าช่วงนี้ทางบนเขามีการสร้างถนนและฝนตกเอารถเก๋งขึ้นไม่ชินทางจะอันตราย คนที่เคยขับรถไปแม่ฮ่องสอนลองนึกภาพดูนะ ทางประมาณเดียวกัน แต่มีเลนเดียว บางช่วงเป็นลูกรัง บางช่วงเป็นหลุมบ่อ แฉะจากฝนตกหนัก 2 ข้างทางคือ เหวและหุบเขา แต่ความดีงามคือ เราจะเห็นภูเขาและทะเลหมอกตลอดเส้นทาง 70 กม.และ 300 กว่าโค้ง ทีเดียวล่ะ

และในที่สุดเราก็ต้องเปลี่ยนจากรถเก๋งเป็นกะบะและให้คนถิ่นขับรถขึ้นไปส่งพวกเรา ระหว่างทางก็มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายที่ที่เราแวะ เช่น เขื่อนวชิราลงกรณ์ น้ำตกจ๊อกกระดิ่น อารมณ์คนที่อยู่ดอยอย่างเราคิดมาตลอดชีวิตว่า บ้านช้านสวย บ้านช้านมีหมอก บ้านช้านอากาศดี ธรรมชาติสวยงาม นี่ขอเปลี่ยนความคิดในทันใดเมื่อเจอบรรยากาศในหน้าฝนและหน้าหนาวของเมืองนี้ คิดในใจว่า "หนาวนี้กรูจะมาที่นี่ " 555

เมื่อนั่งรถกันมาเหมือนเต้นอยู่ในผับมาตลอดทางก็ถึง บ้านอีต่อง สักที โอ้แม่เจ้า ....มันเงียบและคลาสสิกนะ มีนักท่องเที่ยวเดินไปมา แต่ไม่เสียงดัง ไม่พลุกพล่าน .....แล้วนี่เขามาดูอะไรกันน้อ ? ก็แค่มีบ้าน มีสระน้ำ มีวิถีชุมชนเล็กๆ มีวัด มีเหมืองร้าง และซากเครื่องมือ เออว่ะ ! แต่นี่ล่ะมันคือเสน่ห์ หมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่บนเขาสูงอุณหภูมิเย็นตลอดทั้งปี ด้วยความสูงระดับเมฆหมอก เราจะเห็นก้อนเมฆลอยผ่านหมู่บ้านตลอดทั้งวัน สวยยยยง่ะ นั่งมองเฉยๆ ยังเพลินเล้ยเธ้อ...

ตรงสะพานเดินเข้าหมู่บ้านก็จะมีคนเขียนป้ายมาห้อยไว้ ไม่ใช่สถานที่ศักดิ์อะไรนะ คืออารมณ์ใครอยากเขียนอะไรก็เขียนลงไป เราไม่ได้เขียนอะไร ....แต่ไปเปิดอ่านป้ายชาวบ้านเขาก็ขำดี บางคนบอกอยากแต่งงานกับนักร้องเกาหลีบ้าง บางคนก็มาขอให้เมียอย่าดุมาก 555

เดินทางเกือบค่อนวัน หิวสิ...พากันเดินเข้าไปในหมู่บ้าน มีร้านเล็กๆ น่ารักเยอะนะ คิดในใจอาหารก็ต้องแพงมากแน่ๆ มาใกลขนาดนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวด้วย (เตรียมใจไว้เลยจ้า) เราเดินเข้าไปร้านอาหารร้านนึง บรรยายกาศโอเคนะ มีระเบียงติดน้ำด้วย ก็สั่งอาหารธรรมดาๆ และเครื่องดื่มมากิน แล้วนั่งชิลกับบรรยายกาศรอบๆ พอสั่งเชคบิล ตกใจ กับราคาอาหารทั้งหมด 185 บาทกับอาหารตามสั่ง 3 จาน และเครื่องดื่ม นี่ถือบิลเดินไปถามเคาเตอร์เลยจ้าว่าคิดผิดไหมเธอ ? เขาบอกไม่ผิด เลยถามเขาไปว่าทำไมราคาปกติ เหมือนข้างล่างเลย เขาบอกว่าที่นี่มีการจัดการควบคุมเรื่องราคาอาหาร หากร้านไหนหรือใครไม่ปฏิบัติตามก็จะโดนสั่งปิด ไม่ให้ดำเนินธุรกิจต่อไป ....OMG! 

ชุมชนเข้มแข็งมาก ชักอยากเผือก ผีนักวิชาการท่องเที่ยวเข้าสิง 555 เดินไปคุยหาข่าวกับคนพื้นที่สิจ๊ะ ได้ความมาว่า หมู่บ้านแห่งนี้เข้มแข็งมาก ใช้งบสนับสนุนจากรัฐน้อยมาก มีแต่โรงเรียนที่อยู่ในพระราชูปถัมภ์ของพระเทพฯ ท่านเสด็จทางเฮลิคอปเตอร์มาเยี่ยมราษฎร ที่นี่ทุกปี เงินส่วนใหญ่ที่พัฒนามาจากชุมชนเอง ผู้ใหญ่บ้านที่นี่มี power มาก เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมสัมพันธ์ของชนกลุ่มน้อย ต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่ หากเอ่ยไหว้วานเรื่องใดผู้คนจะยินดีทำให้เสมอ ที่สำคัญผู้ใหญ่บ้านนักพัฒนาท่านนี้เป็นผู้หญิงค่ะ พูดได้หลายภาษาทั้งภาษาชนกลุ่มน้อย ภาษาอังกฤษ โอ้โห เริดดด!

ที่นี่มีการจัดการ การท่องเที่ยวโดยชุมชน เพื่อชุมชนอย่างแท้ทรู ธุระกิจต่างๆ ที่เราเห็นในหมู่บ้านนั้น เขาไม่อนุญาตให้ใครเข้ามาทำนะคะ คนที่จะขายของ เปิดร้านอาหาร ต้องเป็นคนถิ่นที่นี่เท่านั้น ไม่เอานายทุน ส่วนเรื่องใครจะจีบหนุ่ม จีบสาว แต่งงานเป็นเขย เป็นสะใภ้ เพื่อเข้ามาทำธุระกิจกันก็อีกเรื่องนึงจ้า ! ไม่ใช่ว่าจะไม่มีของแพงที่ อีต่อง นะ ที่พักค่ะ ที่พักราคาค่อนข้างสูง เพราะที่พักมีน้อย และคนมาเที่ยวมีเยอะ สายลุย นอนเต้นท์ก็ดีงามไปอีกแบบนะคะ ใครมาช่วง ธันวาคม มกราคม หรือ วันหยุด เสาร์อาทิตย์ ต้องวางแผนดีๆ เน้อ

"สิ่งที่อยากสัมผัส แต่ยังไม่ได้สัมผัส"

2.อยากกินเค้ก " ป้าแหม่ม " เป็นเค้ก homemade ของ ฝรั่งหญิงชราท่านนึง ที่สามีเป็นคนที่นี่แต่เสียชีวิตไปแล้ว ป้าแหม่ม ก็ยังอยู่และอบเค้กขาย เปิดบ้านเป็นร้านเค้ก ใครมาต้องมาลองเค้กที่นี่ เสียดายวันที่ไปเขาปิดง่ะ

สัญญาว่าจะกลับไปอีกนะ "ปิล็อก อีต่อง "

กรกฎาคม 62