มาสงขลาไปไหนดี ? ใครมาเที่ยว เช่ารถขับไปเที่ยว ชิล ชิล ได้นะ ....ชอบแบบไหนก็ไปแบบนั้น หรือจะไปแบบเราก็ตามมาเลยจ้า >>

 

>>> A day trip : หาดใหญ่ , อ.สิงหนคร , เมืองสงขลา

 

( ทำบุญวัดสแตนเลส , เดินชมเลหาดม่วงงาม , นั่งชิล ปล่อยใจที่ ร้านอาหาร Hi-Bye , ไปทะลุมิติข้ามสะพานไม้ไผ่ รอดซุ้มเมืองเก่า บ่อเก๋ง , ตามรอยประวัติศาตร์วัดท้ายยอ โบราณสถานอายุ 200 ปี กลางเกาะยอ , แวะดื่มชิลริมเลวัน cool cool ดูพระอาทิตย์ตก ที่บางลำภู )

 

วัดสแตนเลส มีชื่อเต็มว่า " วัดพระมหาเจย์ดีไตรภพ ไตรมงคล " ตั้งอยู่เขาคอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

 

* เป็นเจย์ดีที่คนหาดใหญ่และประชาชนสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการครองราช 60 ปี ในหลวง ร.9 ใช้เวลาในการสร้างแค่ 160 วัน ชาวต่างชาติโดยเฉพาะจีนสิงคโปร์และชาวจีนมาเลย์เรียกวัดนี้ว่า " King ภูมิพล temple " ใครมาหาดใหญ่ไม่ควรพลาดวันนี้นะจ๊ะ Unseen สวยงามค่ะ

 

* พระเจดีย์ทำจากเหล็กสแตนเลสเส้นกลมจำนวน 60 เส้นตามปีที่ ร.9 ครองราช ตั้งอยู่บนเขาตะหง่านสวยงามเมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องลงมา

กระทบ ที่น่าแปลกใจคือเวลาเดินขึ้นบนพระเจดีย์ เหมือนจะร้อนเพราะเป็นสแตนเลสโดนแสงอาทิตย์ แต่บริเวณด้านในกลับมีลมพัดผ่านเย็นสบาย

 

* พระเจดีย์ไม่มีหน้าต่าง แต่มีประตูวงกลมสร้างรอบองค์เจดีย์ เพื่อให้เดินเข้า -ออก ตามวันเกิดของตัวเอง ......

 

หาดม่วงงาม : ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร

 

ขับรถออกไปนอกเมืองอีกนิด สำหรับคนที่ชอบทะเลสวย หาดทรายขาว เงียบ สงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน เหมาะสำหรับการหิ้วตะกร้ามาปิคนิก แบบเก๋ๆ ยิ่งนัก ที่นี่เป็น Local beach นะคะ ไม่มีโรงแรมหรู ๆ และร้านอาหารเริ่ด ๆ มีที่สำหรับจอดรถและรถเข็นขายอาหารข้างทาง เท่านั้น ใครจะ slow life holiday พกเสื่อ พกหมอน อาหารเครื่องดื่ม มานอนเล่นริมหาดดูเลทั้งวันใต้ต้นมะพร้าวได้เลยจ้า ....

หรือใครอยากค้างอ้างแรม ชุมชนเค้าก็มี home stay ไว้บริการด้วยนะคะ

 

ร้านอาหาร " Hi-Bye " คาเฟ่แนว ๆ อินดี้ ๆ ของสะสมเยอะ ใกล้ๆ หาดม่วงงาม

* เล่นน้ำ ชมหาดแล้วหิว แวะมาที่นี่เลยจ้า มีของกินง่าย ๆ พอให้อิ่มไปได้ 1 มื้อ กับบรรยากาศสุดชิค เหมาะกับสาวแนว ๆ อย่างเราเสียจริง ๆ อาหารรสชาติดีนะ มาลองได้

 

อิ่มแล้วก็ let's go เดินทางกันต่อ จากหาดม่วงงามมาที่บ่อเก๋งไม่ไกลกันมากขับรถมาแค่ 30 นาที

 

ซุ้มประตูบ่อเก๋ง หรือ Borgeng Pavilion (ต.เขาหัวแดง อ.สิงหนคร สงขลา) : ไปข้ามสะพานไม้ไผ่เชื่อมเมืองเก่า รอดซุ้มประตูโบราณที่มีอายุ 100 กว่าปีกันค่ะ

 

*** ความสำคัญของสถานที่แห่งนี้*** คือ

 

> ในสมัยโบราณเป็นปราการหน้าเมือง ใครจะมาเมืองสงขลา (ชื่อเก่า = สิง หะ นคร ) ต้องมาเทียบเรือเข้าเมืองตรงซุ้มประตูนี้ นั่นหมายความว่า ที่นี่ คือที่ตั้งเมืองเก่าของจังหวัดสงขลา ก่อนจะย้ายเมืองไปอยู่ฝั่งบ่อยาง (ที่ตั้งในปัจจุบัน) คงจะอารมณ์เดียวกับการย้ายเมืองจากกรุงธนบุรี ไปฝั่งรัตนโกสินทร์ แต่เหตุผลของการย้ายเมืองสงขลา คือ พื้นที่เมืองเก่าอยู่บนเนินเขา หาแหล่งน้ำจืดในการดำรงชีพยาก เลยมีการย้ายเมืองไปที่ใหม่

 

> ซากโบราณที่ยังคงหลงเหลือให้เห็น ก็คือ อาคารที่พักของผู้รักษาป้อม บ่อน้ำและซุ้มประตูโบราณ

 

> ซุ้มประตูมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ สันหลังคาโค้งงอนเหมือนประตูเข้าบ้านคนจีน จากหลักฐานเค้าบอกว่าได้รับอิทธิพลมาจากจีนเขตหมิ่นหนาน แสดงให้เห็นว่ามีชาวจีนฮกเกี้ยนอพยพมาตั้งถิ่นฐานในบริเวณเขาหัวแดงแห่งนี้ โดยส่วนตัวคิดว่าชาวจีนมีอิทธิพลมากในสงขลาและหาดใหญ่เพราะมีตึกที่เป็นสถาปัตยกรรมจีนเยอะมากและอาหารขึ้นชื่อหลายอย่างเป็นอาหารจีน ปัจจุบันนี้ บ่อเก๋ง ถูกปล่อยร้าง แต่มีชาวบ้านร่วมใจกันสร้างสะพานไม้ไผ่ ที่ยื่นออกไปในทะเลเชื่อมกับซุ้มประตูโบราณให้ผู้คนที่ผ่านไป ผ่านมาและนักเดินทางได้แวะมาถ่ายรูป ชมความงามและตามรอยประวัติศาตร์กัน เราก็เป็นคนนึงนะที่มาตามรอยประวัติศาสตร์ที่มีเรื่องราวปะติดปะต่อยังเหลืออยู่บ้างในเซลล์สมอง 555 ดีใจที่ได้มาค่ะ !

 

Next stop ค่ะ >> วัดท้ายยอ << ต.เกาะยอ จ.สงขลา ที่นี่ก็ห่างจาก บ่อเก๋งแค่ 20 นาที

 

( โบราณสถานเก่าแก่ อายุ 200 ปี ที่ตั้งอยู่กลางทะเล บนเกาะยอ ทะเลสาบสงขลา ทะเลอ่าวไทย )

 

* วัดนี้สร้างตอนปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา-กรุงธนบุรี

เท่าที่เดิน ดูรอบวัด อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างก็ยังเปิดใช้งานอยู่ มีการสร้างอาคารใหม่เพิ่มเติมแค่ไม่กี่หลังยังคงสภาพเดิม และมีความรู้สึกเหมือนได้หลุดไปในสมัยโบราณจริง ๆ เลย

 

* กุฏิเจ้าอาวาสเรือนไทยทรงปั้นหยา สร้างในช่วงรัชกาลที่ 3 เป็นสถาปัตยกรรมไทยพื้นถิ่นภาคใต้ผสมผสานอิทธิพลจีน อาคาร 3 หลังเชื่อมติดกัน ทุกวันนี้ยังเป็นกุฏิเจ้าอาวาสคนปัจจุบันอีกด้วย สวยคลาสสิกมากกก จากซุ้มประตูกุฏิถ้ามองตรงจะเป็นประตูวัด ที่เปิดออกไปติดทะเลพอดี เป็นมุมสวยที่ให้อารมณ์ความรู้สึกดีแบบบอกไม่ถูกเลยล่ะ บอกตัวเองในใจเลยว่า " ฉันจะต้องมาที่นี่อีกครั้ง " น่าเสียดายที่มาวันนี้ฝนตกหนัก ด้วยความที่หลงไหลในสถาปัตยกรรมของวัด ฉันยอมเดินตากฝนชื่นชมความงามรอบ ๆ วัด จนตัวเปียก อินจนกลับมานั่งในรถ ยังนั่งมองอาคารรอบๆ ผ่านกระจกรถอยู่นานเลยทีเดียว

 

* เจย์ดีวัดนี้เป็นทรงลงกา สร้างในสมัย ร.4

 

เที่ยวแป็บ ๆ ก็เย็นแล้ว บรรยากาศโพล้เพล้ เมืองทะเลแบบนี้ ต้องไปหาอะไรกินดูพระ อาทิตย์ตกสวยๆ ริมเลสิค้า ....เราไปจบกันที่ร้าน " บางลำภู " ในตัวเมืองสงขลา ร้านนี้ห่างออกมาจากตัวหาดสมิหลานะคะ เราอยากได้อารมณ์ผับ open air จิบเบียร์ดูพระอาทิตย์ตกดินริมเล มีดนตรีสดเพราะ ๆ ฟัง แค่นี้ชีวิตการท่องเที่ยว แบบ One day trip ก็ปิด Job อย่างสวยงามแล้วค่ะ .....เจอกัน trip หน้าค่ะ