งานวิจัยเผยว่า แมวไม่ได้มองว่าเราเป็นทาสและน้องเป็นเจ้าของบ้านนะ น้องแมวอาจมองเราเป็นพ่อแม่ของเขา
งานวิจัยเผยว่า แมวไม่ได้มองว่าเราเป็นทาสและน้องเป็นเจ้าของบ้านนะ น้องแมวอาจมองเราเป็นพ่อแม่ของเขา
แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่คู่กับมนุษย์และมีความคุ้นเคยกับมนุษย์มากที่สุดต้องยอมรับเลยนะครับว่าสัตว์ที่เราเลี้ยงแล้วมันก็ต้องมีความคุ้นเคยกับเราไม่รู้สิว่าแมวจะคิดกับเราอย่างไรแต่มีงานวิจัยเผยออกมาว่า ...แมวไม่ได้มองว่าเราเป็นทาสและน้องเป็นเจ้าของบ้านนะ น้องแมวอาจมองเราเป็นพ่อแม่ของเขา
แล้วอาจจะมองว่าเราซึ่งเป็นเจ้าของที่เลี้ยงดูมันมาคือพ่อแม่ของมันด้วยซ้ำตามบทความข้างล่างนี้นะครับจะแสดงให้รู้ว่าแมวคิดกับคุณอย่างไร
แมวไม่ได้มองว่าเราเป็นทาสและน้องเป็นเจ้าของบ้านนะ งานวิจัยเผยว่า
น้องอาจมองเราเป็นพ่อแม่ของเขา
งานวิจัยนี้ตีพิมพ์ใน Current Biology พบว่าน้องแมวก็มีลักษณะที่จะสร้างความสัมพันธ์กับเราเหมือนกับเด็กทารกและสุนัข นั่นหมายความว่า
แม้ว่าแมวจะดูไม่ค่อยสนใจเราเท่าไหร่
น้องก็สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับเจ้าของของมันได้
งานวิจัยนี้ได้ทดสอบลูกแมว 70 ตัวพร้อมผู้ดูแมวโดยให้แมวและผู้ดูแลยู่ด้วยกันสองนาทีและหลังจากนั้นก็ทิ้งน้องแมวให้อยู่ตามลำพังอีก 2นาที ก่อนให้กลับมารวมตัวใหม่นักวิจัยสังเกตพฤติกรรมของลูกแมวหลังจากกลับมาเจอผู้ดูแลว่ามีลักษณะที่เหมือนกับทารกและสุนัข
60% ของลูกแมวผูกพันธ์กับเจ้าของ
และรู้สึกปลอดภัยขณะที่เจ้าของอยู่กับมันหลังจากที่เจ้าของออกจากห้อง น้องจะเครียดแล้วพอเจ้าของกลับมา ความเครียดก็ลดลง
น้องจะเข้ามาสำรวจเจ้าของมาพัวพันในระดับหนึ่งแทนในขณะที่ 30%
ของแมวเมื่อกลับมาเจอเจ้าของก็ยังคงความเครียดอยู่
ซึ่งผลนี้ที่แสดงให้เห็นว่าแมวมีความรู้สึกทั้งมั่นคงและไม่มั่นคงเหมือนความรู้สึกทารกเด็กที่มีต่อพ่อแม่เวลาพ่อแม่หายไป
หลังจากการทดลองนี้ 2 เดือน
ก็มีการทดสอบแมวกลุ่มเดิมอีกและผลก็ออกมาเช่นเดิม นี่แสดงให้เห็นว่าน้องแมวก็เศร้าเมื่อเราไม่อยู่และรู้สึกผูกพันกับเราเช่นกัน
ใครที่เลี้ยงแมวแล้วจะรู้นะครับว่าแมวมันมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกันไปแต่ละตัวนิสัยจะไม่เหมือนกัน บางตัวก็อดอ้อนบางตัวก็จรจ้องรอจะกินอย่างเดียว
บางตัวก็ทำสกปรกขี้ฉี่เรี่ยราดมันก็แล้วแต่นะครับ สัตว์เลี้ยงถ้าเราเลี้ยงมันแบบไหนมันก็จะเป็นแบบนั้นตามใจมากไม่ดีเลี้ยงแมว
เลี้ยงหมาก็เหมือนเลี้ยงเด็กเราจะต้องดุทำโทษ ดัดนิสัยมันบ้างมันจะได้จำตามใจมากไม่ดี
อ้างอิงจาก: vice/en/article,YouTube