สวยปัง ไร้พุง ด้วยวิธีง่ายๆ

พุงเป็นส่วนที่เป็นปัญหารบกวนใจของหลายๆคน เพราะทำให้เสียบุคคลิก ความมั่นใจในการแต่งตัวลดลง นอกจากนี้พุงยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพด้วย สังคมปัจจุบันที่ทุกอย่างต้องเร่งรีบแข่งกับเวลา ทำให้คนหันมาทานอาหารฟาสท์ฟู้ดเพื่อประหยัดเวลา และไม่ค่อยออกกำลังกาย ไขมันส่วนเกินจึงไปสะสมตามส่วนต่างๆของร่างกาย โดยเฉพาะหน้าท้องจนเกิดเป็นพุง ซึ่งพุงก็มีหลายแบบ บทความนี้จะพาไปรู้จักแบบต่างๆของพุงรวมทั้งวิธีการกำจัดพุงส่วนเกินในแต่ละแบบ

แบบที่1. พุงที่เกิดจากความเครียด (Stress Belly)

พุงประเภทนี้มีสาเหตุเกิดขึ้นจากความเครียด การทำงานหนัก รับประทานอาหารไม่เป็นเวลาบ่อยๆ รับประทานไม่ครบมื้อ รับประทานแป้งหรืออาหารฟาสท์ฟู้ดเป็นประจำ กินอาหารไขมันสูง ดื่มกาแฟและดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน นอนไม่เป็นเวลา ทำให้เกิดภาวะลำไส้ทำงานผิดปกติ เมื่อมีความเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอร์ (Cortisol) ซึ่งคอร์ติซอลนี้จะทำให้เกิดการสะสมไขมันที่ช่องท้องและเป็นสัญญาณของโรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome) หรือโรคลำไส้ที่ทำให้เกิดอาการปวดท้อง แน่นท้อง ไม่สบายท้อง มีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย ท้องผูก ท้องเสีย  ถ้ามีปริมาณไขมันในช่องท้องสูงจะส่งผลต่อความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานและโรคหัวใจอีกด้วย นอกจากนี้เมื่อระดับคอร์ติซอลพุ่งสูง บางครั้งยังทำให้เกิดภาวะการกินเพราะความเครียดได้ คือร่างกายไม่ได้หิว แต่บำบัดอารมณ์และความเครียดด้วยการกิน ทำให้กินเกินปริมาณที่ร่างกายต้องการ ยิ่งทำให้น้ำหนักขึ้นและไขมันสะสมมากขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง

ลักษณะของพุงแบบนี้คือบริเวณหน้าท้องจะยื่นออกมาแลดูห้อยคล้อยเป็นชั้นๆอยู่ระหว่างสะดือและกระบังลม

วิธีลดพุงที่เกิดจากความเครียด

เกิดจากระบบการเผาผลาญพลังงานไม่ดี ดังนั้นควรพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อลดอัตราความเครียด เพราะถ้าเกิดอาการเครียดจนนอนไม่หลับ ระบบเผาพลาญพลังงานจะทำงานไม่เป็นปกติ และอาจก่อให้เกิดการสะสมของน้ำตาล และคาร์โบไฮเดรตเอาไว้มากขึ้น ควรหยุดการกินที่เกินความจำเป็น กินอาหารเช้าที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพื่อช่วยลดอาการอยากอาหาร ลดการบริโภคคาเฟอีน เพราะคาเฟอีนมีผลทำให้คอร์ติซอลเพิ่มสูงขึ้น หรือหาวิธีผ่อนคลายความเครียด เช่น ไปนวดผ่อนคลาย, ทำงานอดิเรกที่ชอบ, ออกกำลังกายประเภทโยคะเพื่อผ่อนคลายจิตใจและสร้างความแข็งแรงให้ร่างกาย ควรออกกำลังกายเบาๆ อย่างน้อย 30-40 นาที ทุกวัน หากไม่สะดวกอย่างน้อยหาเวลาว่างออกกำลังกายให้ได้ 3-4 ครั้ง

แบบที่2. พุงเป็นชั้นๆ (Alcohol Belly)

พุงแบบนี้เกิดจากการนั่งมากเกินไป อย่างเช่นผู้ที่ทำงานออฟฟิศ การรับประทานจุกกินจิก และขาดการออกกำลังกายอย่างเพียงพอ การรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมาก รับประทานคาร์โบไฮเดรตประเภทข้าว แป้ง ขนมปัง รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะเหล้า เบียร์ หรือเครื่องดื่มอะไรก็ตามที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำ เพราะแอลกอฮอล์จะส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร ทำให้อาหารย่อยได้ยากขึ้น และเมื่ออาหารไม่ย่อย ก็จะเกิดเป็นพุงกลมๆ ป่องๆ และที่สำคัญแอลกอฮอล์ยังมีแคลอรี่และน้ำตาลสูง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้อ้วนลงพุง

ลักษณะของพุงแบบนี้คือพุงจะมีลักษณะกลม หรือมีอีกชื่อหนึ่งเรียกว่า ‘อ้วนลงพุง’

วิธีลดพุงเป็นชั้น

งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารประเภทแป้ง น้ำตาล หรือขนมขบเคี้ยวต่างๆ เนื่องจากมีส่วนที่จะทำให้ไขมันหน้าท้องเพิ่มได้ ควรรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำทดแทน กินผักและผลไม้ให้มากขึ้น เพื่อให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีมากขึ้น หลีกเลี่ยงอาหารมันๆ ทอดๆ โดยควรใช้วิธีต้มหรือนึ่งแทน พร้อมกับออกกำลังกายอย่างเหมาะสมต่อวัย เช่น ออกกำลังกายตามยูทูป เล่นโยคะ หรือเดินในสวนสาธารณะก็ได้

แบบที่3. พุงป่องช่วงล่าง (Hormonal Belly)

พุงแบบนี้เกิดในคนที่ยุ่งตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงานหรือธุรกิจที่รัดตัว มีการใช้ชีวิตแบบนั่งๆ นอนๆ หรือไม่ค่อยได้ออกกำลังกายนั่นเอง  แต่คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำก็ยังมีพุงแบบนี้ได้เช่นกัน การออกกำลังกายเป็นประจำแต่ยังคงมีพุงที่ท้องส่วนล่างอยู่นั้น อาจเกิดจากการออกกำลังกายที่ทำแต่ท่าเดิมๆซ้ำๆ อาจจะออกกำลังกายส่วนอื่นๆ แต่ไม่ได้เน้นช่วงหน้าท้องและแกนกลางลำตัว หรืออาจจะออกกำลังกายช่วงหน้าท้องและแกนกลางลำตัวแล้ว แต่ทำท่าผิด ทำให้การออกกำลังกายในส่วนนั้นๆ ไม่ได้ผล และอาจเกิดจากการกินขนมหวานมากเกินไป รวมถึงการกินแป้งขัดสี เช่น ข้าว ขนมปัง ข้าวเหนียว เส้นก๋วยเตี๋ยว ฯลฯและกินอาหารที่มีน้ำตาลสูง คนที่มีหุ่นผอมเพรียวหรือน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่มีไขมันส่วนเกินที่หน้าท้อง นอกจากทำให้เขาดความมั่นใจเพราะพุงแล้ว ยังมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจอีกด้วย

ลักษณะของพุงแบบนี้ส่วนมากพบในผู้หญิง ที่รูปร่างส่วนอื่นๆ ดูผอม สมส่วน พุงด้านบนเรียบปกติ แต่มีพุงน้อยๆด้านล่างห้อย ยื่นย้อยออกมา หรือที่เรียกว่าพุงหมาน้อย

วิธีลดพุงป่องช่วงล่าง

ลดการกินคาร์โบไฮเดรตลงรับประทานอาหารที่มีกากใยมากๆ อย่างเช่นธัญพืช, ผลไม้หรือผักใบเขียว จะช่วยให้ระบบการขับถ่ายทำงานดี ลดอาการบวมอืดที่บริเวณหน้าท้องได้ เปลี่ยนจากการออกกำลังเฉพาะช่วงหน้าท้อง เป็นการออกกำลังกายแบบ Circuit Training เป็นการออกกำลังกายที่ผสมกันระหว่าง การเพิ่มความแข็งแกร่งและการออกกำลังกายแบบแอโรบิค ส่วนมากจะเป็นการฝึกท่าบอดี้เวท เช่น Squat หรือ Lung 30 วินาที สลับกับการ วิ่ง หรือปั่นจักรยาน 30 วินาที การออกกำลังกายแบบนี้ช่วยเผาผลาญไขมันได้ดีและบริหารกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายอีกด้วย เมื่อร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดี จะทำให้ช่วยลดปริมาณไขมันที่หน้าท้องลงได้

แบบที่4. พุงคุณแม่ (Mommy Belly)

เป็นพุงที่พบในคุณแม่หลังการคลอดบุตร หรืออาจเกิดจากการที่มีอาการมดลูกหย่อน โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์ เพื่อให้มดลูกเข้าอู่ พุงจึงจะกลับคืนสู่สภาพปกติ ระหว่างนี้ยังไม่จำเป็นต้องรีบออกกำลังกาย ให้คุณแม่พักผ่อนจนกว่าร่างกายจะเข้าที่จะดีกว่า

ลักษณะของพุงแบบนี้ที่เห็นได้ชัดเจนคือพุงจะยื่นๆ ผิวหนังหย่อนคล้อยและกล้ามเนื้อหย่อนคล้อยบริเวณหน้าท้อง

วิธีลดพุงคุณแม่

ไม่นอนดึกหรือนอนผิดเวลาบ่อยๆ ร่างกายจะได้หลั่งฮอร์โมนที่ช่วยเผาผลาญอาหารออกมา งดออกกำลังกายแบบหักโหมในช่วง 6-8 สัปดาห์แรกหลังคลอด อาจออกกำลังกายเบาๆ ด้วยการเดิน ก่อนเข้านอนก็ ออกกำลังกาย อย่างเช่นแขม่วหน้าท้อง เพื่อช่วยให้ร่างกายเผาผลาญอาหารได้ดีขึ้น ให้เลือกทานอาหารที่ดีประโยชน์ เพื่อบำรุงและฟื้นฟูร่างกาย หรือเลือกทานอาหารคลีน กินอาหารอย่าง น้ำมันตับปลา เพื่อเพิ่มฮอร์โมนเผาพลาญไขมัน ในร่างกายรวมถึงกินไขมันที่มีประโยชน์ เช่น ไขมันจากถั่ว น้ำมันมะกอก เป็นประจำทุกวัน เมื่อร่างกายแข็งแรง เข้าที่แล้ว ให้เริ่มออกกำลังกายประเภท Floor Exercise เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของแกนกลางลำตัว

แบบที่5. พุงป่อง (Bloated Belly)

พุงแบบนี้พบได้ทั้งคนที่มีรูปร่างอ้วนและผอม มักเกิดในคนที่มีอาการท้องอืด มีแก๊สในกระเพาะหรืออาหารไม่ย่อย ซึ่งเกิดจากอาหารที่รับประทานเข้าไป บางครั้งเกิดจากการรับประทานอาหารมากๆ เป็นประจำ เพราะไม่ทราบว่าทำให้ตัวเองท้องอืด ต้องสังเกตว่า เมื่อทานอาหารชนิดไหนแล้วเกิดอาการท้องอืดมากกว่าปกติ ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนั้น เพราะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดแก๊สสะสมในกระเพาะอาหาร การกินอาหารที่ย่อยยาก เช่น ของทอด แกงกะทิ ผักสด ฯลฯ ก็มีส่วนทำให้มีแก๊สในกระเพาะสะสมเอาไว้ พุงแบบนี้จะไม่ค่อยอันตรายเท่าแบบอื่นๆ เพราะสามารถแก้ไขได้ง่ายเพียงแค่เปลี่ยนวิธีการกินอาหาร

ลักษณะของพุงแบบนี้ จะคล้ายกับHormonal Belly คือพุงป่อง แต่จะมีลักษณะของพุงที่ไม่กลมเท่า โดยพุงจะแฟ่บและเรียบแบนในตอนเช้าพอช่วงบ่ายพุงจะเริ่มใหญ่ขึ้น เป็นพุงกลมๆป่องๆ

วิธีลดพุงป่อง

รับประทานอาหารมื้อเช้าอย่างสม่ำเสมอ ทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น ผัก ผลไม้สด และถั่ว เพื่อช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย หลังจากกินอาหารแล้ว ให้เดินเล่นสักพักช่วยให้กระเพาะอาหารทำงานได้ดีขึ้น งดรับประทานอาหารตอนกลางคืน เพราะการเข้านอนหลังจากทานมื้อดึก ไม่นานพอที่จะให้อาหารย่อยหมด ทำให้ยิ่งเกิดอาการท้องอืดได้ง่ายและควรรับประทานอาหารที่ช่วยขับลมบ้าง พร้อมกับหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ท้องอืด เช่น นม เค้ก และขนมปัง อีกทั้งควรหมั่นสังเกตตัวเองว่าท้องอืดจากอาหารอะไร แล้วพยายามหลีกเลี่ยงอาหารชนิดนั้น ดื่มน้ำระหว่างวันให้มากๆ เพราะน้ำจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น

สำหรับวิธีลดพุงให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี จะต้องมีวินัยและปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ นอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารแล้ว การออกกำลังกาย ก็จำเป็นเช่นกัน อดทนไม่นานเกินรอพุงป่องๆก็จะหายไป คุณจะมีหุ่นสวยไร้พุง รับปีใหม่ที่จะถึงนี้