เรื่องเล่าประสบการณ์พรีเซนต์
สวัสดีครับเพื่อนๆ ผมจะมาเล่าประสบการณ์พรีเซนต์ที่สุดน่าอายเท่าที่ตนเองเคยมีมา
เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของประสบการณ์ของแอดเอง โปรดใช้วิจารณญาณในการดูด้วยนะครับ
เรื่องมีอยู่ว่าผมมีอายุ 18 ปี จบมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 กำลังเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ผมเองต้อง
ปรับตัวต่างๆไม่ว่าการเดินทางการเข้าเรียนหรือเพื่อนๆต่างแดน มีวิชาที่ผมเองต้องตามลงทะเบียน
เรียนต่างๆผมเลยลงตามที่ผมเองอยากลงอยากฝึกskills อยากรู้จักวิชาแล้วนำไปปรับปรงพัฒนาตนเอง
แล้วมีวิชาอยู่วิชานึงผมและตื่นเต้นมาก
คือ "วิชาการเป็นผู้นำ" โอ้วววววววววว
แค่ชื่อผมเองก็เกรงๆแล้วครับ😧(เสียงในหัวผม:มั่วแต่กลัวจะกล้าพัฒนาตนเองได้ไงวะ)
อาทิตย์แรก ที่ได้เรียนผมช่วงนั้นอาจไม่ได้ชินกับการมาตึกสักเท่าไหร่วิชาการเป็นผู้นำผมอยู่
ตึกสองโชคดีเรียน ใกล้ตึกประจำตัวเอกผมอยู่ตึกสามเวลาเรียนผมเรียนเก้าโมงถึงสิบเอ็ดโมงสี่สิบ
นาทีคาบแรกเรียนยังไม่มีอะไรมากอาจารย์ก็บอกเนื้อหาวิชาการสอนคราวๆชิลๆ
อาทิตย์ที่สอง อาจารย์มาพร้อมกับแผ่นงานกระดาษใหญ่ ใหญ่เท่าฟิวเจอร์บอร์ดเลยตอนแรก
หวั่นไหวหน่อยๆเหมือนจะมีงานกลุ่มส่วนตัวไม่ชอบงานกลุ่มมากเท่าไหร่ชอบงานเดี่ยวครับ อาจารย์ก็
สอนๆไปเกี่ยวกับผู้นำ จนกระทั่ง! อาจารย์ให้จับกลุ่มให้พรีเซนต์โดยมีจับให้มีกัน 3 คน เพื่อนๆจำฟิว
เจอร์บอร์ดได้มั้ยที่อาจารย์เอามานั้นแหละ แกเอามาให้เขียนพรีเซ้นท์งานกลุ่ม(แย่ละไอเรามาเดี่ยวสัก
ด้วยละสิ ทีนี้ว้าวุ่นเข้าไปกันใหญ่)
แล้วอาจารย์บอกรอเขียนเสร็จพร้อมกันจะได้พรีเซนท์พร้อมกันด้วย ใจเราก็เต้นไม่หยุดเลยเหมือนกำลัง
จะตุยย คนอื่นพรีเซ้นท์กันใหญ่มีเนื้อมีเหตุผลน่าฟังเอาเรามีแต่เนื้อความเหตุผลหนีออกหัวไป🤓 ใน
ที่สุดถึงตาเราแล้วอ้ากกกกกกกกกกกกกก
แค่เริ่มถือไมค์มาก็สั่นแล้วเหมือนลมบ้าหมูเลย เราก็พูดตามสคริปต์ที่เราท่องในใจ แต่กลับกลายเป็น
ว่าลืมหมดลืมจริงๆผมเล่นพูดติดๆขัดๆมากจนจับต้นชันปลายไม่ถูกเลย จนอาจารย์แล้วเพื่อนๆเงียบกัน
หมดซึ่งผมเองก็รู้สึกไม่ดีเลยที่บรรยากาศเป็นแบบนั้น ผมก็กัดฟันสู้พูดทั้งติดขัดกับเพื่อนจนจบแล้วไป
นั่งเข้าที ทำให้ผมกลัวจนไม่กล้าทำอะไรอีกเลยกลัวความอับอายกลัวไม่กล้าโชว์ตัว จากที่ไม่กล้ากลาย
เป็นกลัวไปเลย
หลังจากนั้นสองถึงสามวันหลังพรีเซนต์อยู่ความกลัวนึกถึงเรื่องราวการพรีเซนต์แวบขึ้นมาอีก
แล้วครับท่านผู้ชม จนผมเครียดแต่อีกแวบนึกทำไมผมไม่หาสาเหตุแล้วบอกเป็นเรื่องที่ดีวะ
เรามาแก้ไขหาสาเหตุก่อนสาเหตุที่ผมกลัว ก็เพราะเรายังไม่มีข้อมูลการพรีเซนต์มากพอ ประสบการณ์
การพรีเซนต์ไม่มี เราเห็นคนอื่นเก่งกว่าเลยด้อยค่าตนเอง นี้แหละเหตุผลของเราแล้วเอาไงดีจะแก้ไขยัง
ไงให้ลืมดีเนี้ย ในหัวผมตอนนั้นคือผมควรทำให้ดีกว่าครั้งที่แล้วใช่ครับ "ต้องทำให้ได้ดีกว่าครั้งที่แล้ว"
อาทิตย์ที่สาม อาทิตย์นี้ยังมีบาดแผลกว่าต่อครั้งที่แล้วผมต้องมั่นใจเข้าไว้ววววววว
แล้วอาทิตย์ที่สามนี้มีงานกลุ่มอีกแล้วครับท่าน จับคู่2คนแผ่นกระดาษเท่าฟิวเจอร์บอร์ดกติกาเหมือน
เดิม ครูให้นักเรียนเขียนให้เสร็จแล้วพรีเซนต์พร้อมกัน(เสียงในหัว:เอาวะรอบนี้ต้องดีขึ้น)
ถึงกลุ่มผมพรีเซนต์แล้ว ในกลุ่มผมเสนอตัวแล้วว่าจะพรีเซนต์เองถึงแม้ใจเรายังกล้าๆกลัวๆ
ผมได้เริ่มกล่าวพรีเซนต์ช่วงแรกพูดตามสคริปต์ที่ท่องจำได้ ได้เร็วจนฟังแถบไม่ทันแล้วยังมีติดอ่างอยู่
บ้างผมก้มหน้าพูดๆและไม่กล้าสบตาเพื่อนๆ จนตัวเองเงยหน้าขึ้นมามอง คือแบบเห้ยยยยยยย
แต่ละคนในห้องก็ไม่ได้สนใจเราขนาดนั้นนี้ ไม่มีใครจะจับผิดเรานะ จะกลัวอะไร ทำไมเราต้องกลัว
ผมเลยค่อยๆพูดให้ช้าลง ช้าลง จนอยู่ระดับพอดี แล้วพรีเซนต์เสร็จกลับไปที่นั่ง ผมได้นั่งลงสักครู่แล้ว
อยู่ๆก็ยิ้มแล้ว(เสียงในหัว:เออก็ทำได้เหมือนกันนี่หว่า) รู้สึกดีแบบพูดไม่ถูก ขอบอกว่าดีจนเพื่อนถาม
เลยว่ายิ้มไรเมาป่าว(เพื่อนผมติดกวน)
เพื่อนๆจำได้มั้ยครับที่ผมบอกว่าทำไงให้ลืม
ผมขอยืนยันได้ว่ามันไม่มีวันที่ลืมได้จริงๆครับ มันอยู่เป็นความทรงจำในรูปแบบประสบการณ์ไปแล้ว
กลายเป็นเรารู้ว่าเราพลาดตรงไหนแก้ไขตรงไหน ผมเชื่อว่าพรีเซนต์ที่ผ่านมามันแค่เริ่มต้นและผมพร้อม
ที่จะผิดพลาดและแก้ไขอยู่เสมอ💪🏻
สรุป
มันอาจไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดก็ได้ บ้างอย่างเราแค่กลัวกับการที่เราไม่รู้ผมอยากจะบอกเพื่อนๆว่า
เพื่อนๆไม่ต้องกลัวจากการเรียนรู้อะไรใหม่ๆนะครับ แล้วที่สำคัญอย่ากลัวที่จะผิดพลาด ถ้าคุณไม่เคย
ผิดพลาดเลยคุณเองจะไม่มีความประสบความสำเร็จ
ท้ายรูปนี้คือ หนุ่มนักศึกษากำลังหัดพรีเซนต์ผมอยู่ด้านซ้าย🤦🏻♂️
เขมรวิเคราห์ "จุดอ่อนของ T-50TH คืออะไร?"
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
"ซินแสดัง" เผยดวงเมืองประเทศไทย ปี 2569..ยิ่งรบ ยิ่งแข็งแกร่ง ศัตรูแพ้ราบคาบ
เกาหลีแฉเอง! จีนเมินช่วยกัมพูชา ทัพฟ้าไทยจัดเต็มบินถล่มรังลับในเขมร
จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน
ปิดตำนาน 10 ปี "น้องคะน้า หรือ โมโมโนกิ คานะ" อำลาวงการทั้งน้ำตา
ทางบุญลุ้นทางรวย:พิธีเสกพระปิดตา ณ โบสถ์มหาอุด 1,000 ปี วัดป่าเลไลยก์
นักร้องเคป็อประดับตำนานเผย "ผมไม่ค่อยชอบเพลงฮิตอย่าง APT ของโรเซ่"
Body Gratitude การกล่าวขอบคุณร่างกาย ที่ให้เราได้ใช้ร่างกายในการดำเนินชีวิต โดยไม่ได้จำกัดแค่ความงาม เพื่อลดการเปรียบเทียบกับผู้อื่น และ สุขภาพจิตที่ดีขึ้น







