เขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ประเทศไทยมีเขื่อนอยู่มากมาย กระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยแบ่งตามภาคได้ดังนี้
- ภาคเหนือ 13 แห่ง ได้แก่ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล, เขื่อนแม่ปิง, เขื่อนแม่กวงอุดมธารา, เขื่อนแม่วัง, เขื่อนแม่ลาว, เขื่อนแม่กวง, เขื่อนแม่วะ, เขื่อนแม่กวงน้อย, เขื่อนแม่มอก, เขื่อนแม่งัด, เขื่อนแม่กวงใหญ่, และเขื่อนแม่งัดน้อย
- ภาคกลาง 10 แห่ง ได้แก่ เขื่อนเจ้าพระยา, เขื่อนภูมิพล, เขื่อนศรีนครินทร์, เขื่อนปราณบุรี, เขื่อนแก่งกระจาน, เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์, เขื่อนขุนด่านปราการชล, เขื่อนคลองหลวง, เขื่อนลำพระเพลิง, และเขื่อนลำตะคอง
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 แห่ง ได้แก่ เขื่อนอุบลรัตน์, เขื่อนสิรินธร, เขื่อนปากมูล, เขื่อนลำปาว, เขื่อนลำนางรอง, เขื่อนลำโดมน้อย, เขื่อนลำตะคองใหญ่, เขื่อนลำนางรอง, และเขื่อนลำมูลบน
- ภาคตะวันออก 2 แห่ง ได้แก่ เขื่อนหนองปลาไหล และเขื่อนรัชชประภา
- ภาคตะวันตก 2 แห่ง ได้แก่ เขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนท่าทุ่งนา
เขื่อนในประเทศไทยส่วนใหญ่สร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการชลประทาน การผลิตไฟฟ้า การป้องกันน้ำท่วม และการท่องเที่ยว โดยเขื่อนที่สำคัญในประเทศไทย ได้แก่
- เขื่อนภูมิพล เขื่อนคอนกรีตอัดน้ำแบบหินแกนแกนกลางที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่บนแม่น้ำปิง จังหวัดตาก เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าที่สำคัญของประเทศ
- เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนคอนกรีตอัดน้ำแบบหินแกนแกนกลางที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่บนแม่น้ำแควใหญ่ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าที่สำคัญของประเทศ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม
- เขื่อนสิรินธร เขื่อนคอนกรีตอัดน้ำแบบหินแกนแกนกลาง ตั้งอยู่บนแม่น้ำโขง จังหวัดอุบลราชธานี เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าที่สำคัญของประเทศ
- เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนคอนกรีตอัดน้ำแบบหินแกนแกนกลาง ตั้งอยู่บนแม่น้ำโขง จังหวัดขอนแก่น เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าที่สำคัญของประเทศ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม
เขื่อนในประเทศไทยมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ โดยช่วยเพิ่มความมั่นคงทางพลังงาน ป้องกันน้ำท่วม และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ
10 อันดับเขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย:
- เขื่อนภูมิพล (ตาก) - เขื่อนคอนกรีตอัดน้ำแบบหินแกนแกนกลางที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สูง 154 เมตร ยาว 486 เมตร เก็บน้ำได้ 13,400 ล้านลูกบาศก์เมตร
เขื่อนภูมิพล (ตาก)
- เขื่อนศรีนครินทร์ (กาญจนบุรี) - เขื่อนคอนกรีตอัดน้ำแบบหินแกนแกนกลางที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สูง 135 เมตร ยาว 324 เมตร เก็บน้ำได้ 12,300 ล้านลูกบาศก์เมตร
เขื่อนศรีนครินทร์ (กาญจนบุรี)
- เขื่อนสิรินธร (อุบลราชธานี) - เขื่อนคอนกรีตอัดน้ำแบบหินแกนแกนกลาง สูง 100 เมตร ยาว 300 เมตร เก็บน้ำได้ 4,800 ล้านลูกบาศก์เมตร
เขื่อนสิรินธร (อุบลราชธานี)
- เขื่อนอุบลรัตน์ (ขอนแก่น) - เขื่อนคอนกรีตอัดน้ำแบบหินแกนแกนกลาง สูง 100 เมตร ยาว 280 เมตร เก็บน้ำได้ 4,500 ล้านลูกบาศก์เมตร
เขื่อนอุบลรัตน์ (ขอนแก่น)
- เขื่อนบางลาง (ยะลา) - เขื่อนดินเหนียวแกนคอนกรีต สูง 100 เมตร ยาว 1,800 เมตร เก็บน้ำได้ 2,000 ล้านลูกบาศก์เมตร
เขื่อนบางลาง (ยะลา)
- เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ (ลพบุรี-สระบุรี) - เขื่อนดินเหนียวแกนคอนกรีต สูง 100 เมตร ยาว 2,000 เมตร เก็บน้ำได้ 1,900 ล้านลูกบาศก์เมตร
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ (ลพบุรีสระบุรี)
- เขื่อนลำปาว (กาฬสินธุ์) - เขื่อนดินเหนียวแกนคอนกรีต สูง 100 เมตร ยาว 1,800 เมตร เก็บน้ำได้ 1,700 ล้านลูกบาศก
เขื่อนลำปาว (กาฬสินธุ์)
- เขื่อนรัชประภา (สุราษฎร์ธานี) - เขื่อนคอนกรีตอัดน้ำแบบหินแกนแกนกลาง สูง 60 เมตร ยาว 1,500 เมตร เก็บน้ำได้ 1,400 ล้านลูกบาศก์เมตร
เขื่อนรัชประภา (สุราษฎร์ธานี)
- เขื่อนวชิราลงกรณ (กาญจนบุรี) - เขื่อนคอนกรีตอัดน้ำแบบหินแกนแกนกลาง สูง 70 เมตร ยาว 1,200 เมตร เก็บน้ำได้ 1,200 ล้านลูกบาศก์เมตร
เขื่อนวชิราลงกรณ (กาญจนบุรี)
- เขื่อนแม่ลาว จังหวัดเชียงราย เก็บน้ำได้ 7,200 ล้านลูกบาศก์เมตร
เขื่อนเหล่านี้มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ โดยช่วยเพิ่มความมั่นคงทางพลังงาน ป้องกันน้ำท่วม และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ
เขื่อนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ
เขื่อนภูมิพล ตั้งอยู่บนแม่น้ำปิง จังหวัดตาก เขื่อนแห่งนี้มีปริมาณน้ำที่เก็บไว้ 13,400 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นเขื่อนคอนกรีตอัดน้ำแบบหินแกนแกนกลางที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
เขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก
เขื่อนภูมิพลสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์หลายประการ รวมถึงการผลิตไฟฟ้า การชลประทาน และการป้องกันน้ำท่วม เขื่อนแห่งนี้ผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 1,500 เมกะวัตต์ และเป็นแหล่งน้ำจืดที่สำคัญสำหรับภาคเหนือและภาคกลางของประเทศไทย เขื่อนภูมิพลยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกด้วย