กล้องวงจรปิดหนึ่งตัวช่วย ด้านความเชื่อมั่นท่องเที่ยวไทย
ขณะที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยมีความหวังว่าจะฟื้นตัว โดยรัฐบาลใหม่เริ่มนำร่องนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว ด้วยการประกาศยกเว้นวีซาให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนและคาซัคสถาน เป็นเวลา 5 เดือน ระหว่างวันที่ 25 ก.ย. 2566 - 29 ก.พ. 2567 เพื่อหวังดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักกลุ่มนี้ให้เข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
แต่ก็ถูกเตะสกัดขาทันใดหลังออกมาตรการไปได้เพียง 9 วัน กับเหตุการณ์สะเทือนขวัญกราดยิงในห้างดังใจกลางกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ในสื่อโซเชียลของจีนอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบทันทีต่อความเชื่อมั่นในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย ไม่เพียงในหมู่ชาวจีน แต่ยังทำให้นักท่องเที่ยวชาติอื่น ๆ เช่น เกาหลี และญี่ปุ่น ต่างต้องทบทวนแผนการเดินทางมายังไทยด้วย
กลายเป็นว่าแทนที่รัฐบาลจะได้เดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ต่อไป ก็ต้องหันมาเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาอย่างเร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่เกิดเหตุอาชญากรรม มาตรการหนึ่งที่เข้ามามีบทบาทสำคัญและถูกพูดถึงก็คือ ระบบกล้องวงจรปิด CCTV ที่มีไว้ใช้ในการป้องกันและติดตามเหตุต่าง ๆ โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งชุมชน ที่มีผู้คนรวมกลุ่มกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งการติดตั้งกล้อง CCTV ถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ที่จะสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ความปลอดภัยในชุมชนยังเป็นตัวชี้วัดอย่างหนึ่งของการเป็นสมาร์ทซิตี้หรือเมืองอัจฉริยะ ที่เป็นจุดดึงดูดด้านการท่องเที่ยวอีกด้วย
สำหรับประเทศที่มีกล้องวงจรปิดมากที่สุดในโลกคือจีน เฉพาะแค่เมืองฉงชิ่งเมืองเดียวก็มีกล้อง CCTV มากกว่า 2.5 ล้านตัว หรืออย่างสิงคโปร์หนึ่งในเมืองอัจฉริยะของโลกที่มีประชากรเพียงแค่ 6 ล้านคน แต่กลับมีกล้องมากกว่าหนึ่งแสนตัว ส่วนเมืองหลวงของไทย อย่างกรุงเทพฯ นั้น มีรายงานว่า จำนวนกล้องวงจรปิดมีอยู่ประมาณ 53,000 ตัว แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าใช้ได้จริงกี่ตัว เพราะแต่ละครั้งที่เกิดเหตุ และต้องการหลักฐานจากภาพวงจรปิด มักเกิดปรากฏการณ์ซ้ำซากที่ว่า “กล้องในจุดเกิดเหตุเสีย หรือใช้การไม่ได้” อยู่เสมอ
แน่นอนว่าระบบกล้องวงจรปิดไม่ใช่มาตรการสำคัญมาตรการเดียวที่จะช่วยสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้คน ยังจำเป็นต้องมีมาตรการอื่น ๆ ทั้งที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและตัวบุคคลร่วมด้วย เช่น ระบบส่งข้อความ SMS เตือนภัยหรือแจ้งเหตุ แอปพลิเคชั่นให้ข้อมูลและข้อความแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ระหว่างเกิดเหตุฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ด้านระบบรักษาความปลอดภัยที่พร้อมอยู่เสมอ ตลอดจนการบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วน ฯลฯ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ระบบกล้องวงจรปิด CCTV เป็นระบบพื้นฐานที่ควรต้องมีในทุกพื้นที่ ไม่ใช่แค่เฉพาะในกรุงเทพฯ หรือแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเท่านั้น แต่ควรมีและใช้งานได้จริงในทุกตรอกซอกซอยทั่วประเทศ
แม้เหตุการณ์ร้ายไม่สามารถคาดเดาได้และไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่สิ่งที่ทำได้ก็คือ รัฐบาลในฐานะผู้ปกครองประเทศ ควรจะออกนโยบายอย่างจริงจัง เข้มงวด และเร่งด่วน เพื่อแสดงความจริงใจในการเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีอยู่มากมาย เข้ามาช่วยยกระดับด้านความปลอดภัยให้สูงขึ้นเป็นมาตรฐานใหม่ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นและส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย เพราะลำพังแค่มาตรการจูงใจด้านฟรีวีซ่า เพื่อหวังให้คนเข้ามาเที่ยวมากขึ้น แต่ละเลยการปกป้อง คุ้มครอง ดูแล และให้ความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้เห็นประจักษ์ ย่อมไม่สามารถดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาอย่างเต็มร้อย ซึ่งนั่นย่อมไม่ใช่แนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่แท้จริง

















