จะเลือกเรียนต่อในประเทศหรือไปเรียนต่อต่างประเทศดีนะ
การตัดสินใจว่าควรจะศึกษาต่อในประเทศหรือไปศึกษาต่อต่างประเทศเป็นเรื่องสำคัญและยากที่จะต้องตัดสินใจ หากคุณเป็นนักศึกษาหรือผู้ปกครองที่กำลังพิจารณาเรื่องการศึกษาต่อของบุตรหลาน ควรพิจารณาและศึกษาข้อดีและข้อเสียทั้งสองทางให้ละเอียดรอบคอบ ในบทความนี้จะสรุปและเปรียบเทียบระหว่างการศึกษาต่อในประเทศและการศึกษาต่อต่างประเทศในหลายแง่มุม เพื่อช่วยให้คุณมีข้อมูลเบื้องต้นในการตัดสินใจได้ถูกต้องเหมาะสมกับความต้องการและตรงตามเป้าหมาย เพราะการตัดสินใจครั้งนี้จะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตและพัฒนาการอาชีพในอนาคต
1. คุณภาพของการศึกษา:
การศึกษาในประเทศ: ระบบการศึกษาในประเทศมักมีคุณภาพที่ดี และมีมาตรฐานการสอนที่เข้มงวด เพราะถูกควบคุมให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ มีโอกาสเรียนรู้จากอาจารย์ที่มีความรู้และประสบการณ์ที่เหมาะสมตามมาตรฐานการศึกษาในประเทศ
การศึกษาต่างประเทศ: มักมีคุณภาพที่สูง โดยมีการรับรองมาตรฐานระหว่างประเทศและอาจมีโอกาสในการเรียนรู้จากอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในสาขาวิชาของคุณ แต่ต้องตระหนักไว้ว่าไม่ใช่ทุกสถาบันที่จะมีคุณภาพเท่าเทียมกัน ขึ้นอยู่กับสถาบันที่คุณเลือกเรียน ดังนั้นควรหาข้อมูลของแต่ละสถาบันเพื่อดูว่าตรงกับแนวทางที่คุณสนใจหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการได้สัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมและภูมิประเทศที่หลากหลาย
2. ต้นทุนและการเงิน:
การศึกษาในประเทศ: มีค่าเรียนและค่าใช้จ่ายสำหรับการศึกษาที่ต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการศึกษาต่างประเทศ มีโอกาสได้รับทุนการศึกษาจากรัฐหรือสถาบันการศึกษา และโอกาสที่จะทำงานระหว่างการศึกษาเพื่อหารายได้เพิ่มเติม นอกจากนี้ คุณยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องที่อยู่และการเดินทาง
การศึกษาต่างประเทศ: มักมีค่าเรียนและค่าใช้จ่ายสำหรับการศึกษาค่อนข้างสูง นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่นค่าที่พัก, ค่าอาหาร, ค่าเดินทาง, ค่าประกัน รวมถึงค่ากิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวันที่สูงกว่าในประเทศ แต่ก็มีโอกาสที่คุณจะได้รับทุนการศึกษาจากสถาบันการศึกษาหรือองค์กรที่เหมาะสม รวมถึงโอกาสในการทำงานหารายได้เพื่อมาช่วยลดรายจ่ายบางส่วน
3. ขั้นตอนเริ่มต้นการสมัครเรียน:
การศึกษาในประเทศ: การเริ่มต้นการศึกษาในประเทศเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายและรวดเร็ว ไม่ต้องรอการอนุมัติวีซ่าหรือกระบวนการอื่น ๆที่ต้องใช้เวลา แต่คุณจะต้องรู้ระยะเวลาและความต้องการของแต่ละสถาบัน
การศึกษาต่างประเทศ: การสมัครเรียนต่อต่างประเทศมักมีขั้นตอนที่ค่อนข้างซับซ้อน เพราะคุณต้องใช้เวลาในการเปรียบเทียบสรรหาสถาบันที่เหมาะสม, ดำเนินกระบวนการในการขอวีซ่า, จัดการเอกสาร, และการสมัครเรียนภายในกำหนด ซึ่งแต่ละสถาบันมีกำหนดวันปิดรับสมัคร ถ้ายื่นเอกสารไม่ทันหรือยื่นเอกสารไม่ครบตามวันเวลาที่กำหนดก็จะทำให้เสียเวลา ต้องรอการเปิดรับสมัครรอบต่อไป
4. ความคุ้มครองด้านสุขภาพ:
การศึกษาในประเทศ: มีความคุ้มครองทางสาธารณสุขที่ครอบคลุมด้านสุขภาพ คุณจะได้รับการคุ้มครองสิทธิการรักษาพยาบาลจากรัฐบาลตามสิทธิ
การศึกษาต่างประเทศ:ไม่มีความคุ้มครองทางสาธารณสุข คุณต้องเป็นผู้ดูแลความคุ้มครองสุขภาพของคุณเองซึ่งค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและต้องเรียนรู้เกี่ยวกับระบบการดูแลสุขภาพของประเทศที่ไปศึกษา
5. ประสบการณ์และการเรียนรู้การปรับตัว:
การศึกษาในประเทศ: ให้คุณเรียนรู้เนื้อหาที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและตลาดแรงงานในประเทศ มักเน้นการพัฒนาทักษะที่เป็นประโยชน์ในการหางานในประเทศ คุณไม่ต้องมีการปรับตัวมากนักเพราะอยู่ในสภาพแวดล้อมท้องถิ่นที่คุ้นเคย อาจได้รับการช่วยเหลือจากครอบครัวและเพื่อนในกรณีฉุกเฉินหรือสำคัญ ทำให้มีความกดดันทางอารมณ์ที่น้อยกว่า
การศึกษาต่างประเทศ: เปิดโอกาสให้คุณได้รับประสบการณ์ที่มีค่ามากมายรวมถึงความรู้เฉพาะทางที่อาจไม่สามารถหาได้ในประเทศ แต่การอยู่ห่างจากบ้านและครอบครัวอาจทำให้คุณรู้สึกเหงาและมีความกดดันทางอารมณ์ การเรียนรู้ที่จะอดทนและปรับตัวในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างเพื่อก้าวข้ามอุปสรรคทางวัฒนธรรม ภูมิประเทศ และการสร้างเครือข่ายใหม่จะช่วยทำให้คุณเติบโตและพัฒนาทักษะที่ทำให้สามารถรับมือกับสภาวะทางสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในอนาคต
6. การพัฒนาภาษา:
การศึกษาในประเทศ: มักมีเนื้อหาที่เน้นสถานการณ์และความจำเป็นในประเทศ คุณอาจได้รับความรู้และทักษะที่เชื่อมโยงกับสภาพการณ์ทางสังคมและวัฒนธรรมในประเทศ แต่อาจไม่มีโอกาสพัฒนาทักษะทางภาษาต่างประเทศได้เต็มที่เพราะไม่ได้มีการใช้ภาษาสื่อสารในชีวิตประจำวัน
การศึกษาต่างประเทศ: เสมือนกับการเปิดประตูของโลก คุณมีโอกาสในการศึกษาเรื่องที่น่าสนใจที่ไม่สามารถเรียนรู้ได้ในประเทศ นอกจากนี้ คุณมีโอกาสสร้างเครือข่ายที่ช่วยในการพัฒนาทักษะทางภาษา เพราะคุณต้องใช้ภาษาต่างประเทศในการสื่อสารอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้คุณยังมีโอกาสเพิ่มทักษะในการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรมอีกด้วย
7. การสร้างเครือข่าย:
การศึกษาในประเทศ: การเรียนในประเทศทำให้คุณมีโอกาสสร้างเครือข่ายท้องถิ่นและเชื่อมโยงกับผู้คนในสาขาวิชาของคุณในประเทศซึ่งอาจมีประโยชน์ต่ออาชีพการงานในอนาคต แต่บางครั้งอาจจะขาดข้อมูลที่เป็นสากล
การศึกษาต่างประเทศ: ได้พบกับคนที่มาจากหลายที่ ทำให้คุณได้รับประสบการณ์ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและทัศนคติที่หลากหลาย การทำความเข้าใจและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมต่าง ๆ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญในการศึกษาต่อต่างประเทศ ทำให้คุณมีมุมมองที่กว้างและเป็นสากลมากขึ้น รวมถึงการได้สร้างเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วโลก
การศึกษาในประเทศและการศึกษาต่างประเทศมีคุณภาพที่สูงแต่มีลักษณะและมุมมองที่แตกต่างกัน คุณควรพิจารณาความต้องการและเป้าหมายส่วนบุคคลของคุณ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับทางเลือกทั้งสองและคิดให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับการศึกษาต่อ หากคุณต้องการการศึกษาที่คุณภาพได้ตามเกณฑ์มาตรฐานในประเทศและมีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม การศึกษาในประเทศอาจดีกว่า อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการประสบการณ์และสร้างทักษะที่ต้องใช้ในการปรับตัวในสถานการณ์ที่หลากหลายรวมถึงการพัฒนาทักษะระหว่างประเทศ การศึกษาต่างประเทศอาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ