10 อันดับหน่วยรบพิเศษที่เก่งที่สุดในโลก

1. SAS (UK) และ SAS-R

   

    SAS (UK) หรือหน่วยปฏิบัติการพิเศษทางอากาศของอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2484 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเป็นการรวมหน่วยคอมมานโดของอังกฤษจากหลายหน่วยเข้าด้วยกัน หน่วย SAS มีชื่อเสียงจากการปฏิบัติการลับและการลาดตระเวนลึกในยุโรป ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หน่วย SAS ได้รับการปรับปรุงและขยายบทบาทให้ครอบคลุมภารกิจพิเศษที่หลากหลายมากขึ้น เช่น การช่วยเหลือตัวประกัน การต่อต้านการก่อการร้าย และการปฏิบัติการลับ

   SAS-R หรือหน่วยปฏิบัติการพิเศษทางอากาศที่ 22 ของอังกฤษ เป็นหน่วยย่อยของ SAS ที่เชี่ยวชาญในการลาดตระเวนระยะไกล หน่วย SAS-R ได้รับการฝึกฝนอย่างหนักเพื่อปฏิบัติการในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากและอันตราย เช่น ทะเลทราย ภูเขา และป่าไม้ หน่วย SAS-R มักถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศเพื่อรวบรวมข่าวกรองและสนับสนุนปฏิบัติการพิเศษของหน่วย SAS

   ข้อมูลทั่วไป

   • ชื่อเต็ม: Special Air Service (UK)
   • สังกัด: กองทัพบกอังกฤษ
   • ก่อตั้ง: 2484
   • ฐานที่ตั้ง: ฐานสเตอร์ลิง, เฮริฟอร์ด, สหราชอาณาจักร
   • ภารกิจ: การลาดตระเวนลับ การต่อต้านการก่อการร้าย การปฏิบัติโดยตรงและการช่วยเหลือตัวประกัน

   การฝึกฝน

   การฝึกฝนของหน่วย SAS เป็นหนึ่งในการฝึกฝนที่ยากที่สุดในโลก ใช้เวลาประมาณ 2 ปี ประกอบด้วยการฝึกฝนด้านร่างกาย ยุทธวิธี การยิงปืน ภาษา การฝึกซ้อมทางจิตวิทยา และการฝึกฝนในสภาวะจำลองต่างๆ

   ภารกิจ

   หน่วย SAS ได้ปฏิบัติภารกิจพิเศษมากมายทั่วโลก ภารกิจที่มีชื่อเสียง เช่น

   • การช่วยเหลือตัวประกันที่สนามบินโดฮา ประเทศกาตาร์ ในปี พ.ศ. 2528
   • การต่อต้านการก่อการร้ายในสหราชอาณาจักรและต่างประเทศ
   • ปฏิบัติการลับในอิรักและอัฟกานิสถาน

   ความสำเร็จ

   หน่วย SAS ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหน่วยรบพิเศษที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก หน่วย SAS ได้รับรางวัลมากมายสำหรับความสำเร็จในภารกิจพิเศษ

   ชื่อเสียง

   หน่วย SAS มีชื่อเสียงในด้านความเชี่ยวชาญ ความกล้าหาญ และประสิทธิภาพในการปฏิบัติการพิเศษ หน่วย SAS มักถูกเรียกว่า "หน่วยที่ดีที่สุดของทั้งหมด" (best of the best)

2. Navy SEALs

   

    Navy SEALs หรือหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือของสหรัฐอเมริกา เป็นหน่วยรบพิเศษทางทะเลที่มีชื่อเสียงระดับโลก ได้รับการฝึกฝนอย่างหนักเพื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษในทะเล บนบก และทางอากาศ

   ข้อมูลทั่วไป

   • ชื่อเต็ม: Naval Special Warfare Teams
   • สังกัด: กองทัพเรือสหรัฐอเมริกา
   • ก่อตั้ง: 2497
   • ฐานที่ตั้ง: ฐานทัพเรือเพิร์ลฮาร์เบอร์, รัฐฮาวาย, สหรัฐอเมริกา
   • ภารกิจ: การปฏิบัติการพิเศษทางทะเล การต่อต้านการก่อการร้าย การช่วยเหลือตัวประกัน และการปฏิบัติการลับ

   การฝึกฝน

   การฝึกฝนของหน่วย Navy SEALs เป็นหนึ่งในการฝึกฝนที่ยากที่สุดในโลก ใช้เวลาประมาณ 2 ปี ประกอบด้วยการฝึกฝนด้านร่างกาย ยุทธวิธี การยิงปืน ภาษา การฝึกซ้อมทางจิตวิทยา และการฝึกฝนในสภาวะจำลองต่างๆ

   ภารกิจ

   หน่วย Navy SEALs ได้ปฏิบัติภารกิจพิเศษมากมายทั่วโลก ภารกิจที่มีชื่อเสียง เช่น

   • การช่วยเหลือตัวประกันที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาในอิหร่าน ในปี พ.ศ. 2522
   • การโจมตีฐานทัพอัลกออิดะห์ในอัฟกานิสถาน ในปี พ.ศ. 2544
   • การช่วยเหลือตัวประกันที่เรือขนส่งสินค้า MV Maersk Alabama ในปี พ.ศ. 2555

   ความสำเร็จ

   หน่วย Navy SEALs ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหน่วยรบพิเศษที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก หน่วย Navy SEALs ได้รับรางวัลมากมายสำหรับความสำเร็จในภารกิจพิเศษ

   ชื่อเสียง

   หน่วย Navy SEALs มีชื่อเสียงในด้านความเชี่ยวชาญ ความกล้าหาญ และประสิทธิภาพในการปฏิบัติการพิเศษ หน่วย Navy SEALs มักถูกเรียกว่า "มนุษย์กบ" (frogman) และ "หน่วยรบพิเศษที่อันตรายที่สุดในโลก" (the most dangerous special forces in the world)

   การฝึกฝน

   การฝึกฝนของหน่วย Navy SEALs แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่

   • Basic Underwater Demolition/SEAL (BUD/S) ใช้เวลา 24 สัปดาห์ ประกอบด้วยการฝึกฝนด้านร่างกาย ยุทธวิธี การยิงปืน ดำน้ำ และอื่นๆ
   • SEAL Qualification Training (SQT) ใช้เวลา 22 สัปดาห์ ประกอบด้วยการฝึกฝนด้านยุทธวิธี การยิงปืน การลาดตระเวน การเอาตัวรอด และอื่นๆ
   • Advanced SEAL Delivery Vehicle (ASDS) ใช้เวลา 12 สัปดาห์ ประกอบด้วยการฝึกฝนการใช้ยานพาหนะพิเศษในการปฏิบัติการทางทะเล

   การฝึกฝนของหน่วย Navy SEALs นั้นยากและอันตรายมาก ผู้สมัครจะต้องผ่านการทดสอบร่างกายและจิตใจอย่างเข้มงวด อัตราการคัดออกของการฝึกฝนนั้นสูงมาก ประมาณ 75%

   ภารกิจ

   หน่วย Navy SEALs มีหน้าที่หลักในการปฏิบัติการพิเศษทางทะเล ซึ่งรวมถึง

   • การช่วยเหลือตัวประกัน
   • การต่อต้านการก่อการร้าย
   • การปฏิบัติโดยตรง
   • การลาดตระเวน
   • สงครามพิเศษ

   หน่วย Navy SEALs มักถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจในสภาพแวดล้อมที่อันตรายและยากลำบาก เช่น ทะเลทราย ภูเขา และป่าไม้

3. Shayetet 13 (Israel)

   

    Shayetet 13 (Israel) หรือหน่วยรบพิเศษทางทะเลของอิสราเอล เป็นหน่วยรบพิเศษที่มีชื่อเสียงที่สุดของอิสราเอล ได้รับการฝึกฝนอย่างหนักเพื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษในทะเล บนบก และทางอากาศ

   ข้อมูลทั่วไป

   • ชื่อเต็ม: Shayetet 13 (Israeli Navy Commandos)
   • สังกัด: กองทัพเรืออิสราเอล
   • ก่อตั้ง: 2492
   • ฐานที่ตั้ง: ฐานทัพเรือ Atlit, อิสราเอล
   • ภารกิจ: การปฏิบัติการพิเศษทางทะเล การต่อต้านการก่อการร้าย การช่วยเหลือตัวประกัน และการปฏิบัติการลับ

   การฝึกฝน

   การฝึกฝนของหน่วย Shayetet 13 เป็นหนึ่งในการฝึกฝนที่ยากที่สุดในโลก ใช้เวลาประมาณ 2 ปี ประกอบด้วยการฝึกฝนด้านร่างกาย ยุทธวิธี การยิงปืน ภาษา การฝึกซ้อมทางจิตวิทยา และการฝึกฝนในสภาวะจำลองต่างๆ

   ภารกิจ

   หน่วย Shayetet 13 ได้ปฏิบัติภารกิจพิเศษมากมายทั่วโลก ภารกิจที่มีชื่อเสียง เช่น

   • การช่วยเหลือตัวประกันที่เรือขนส่งสินค้า MV Achiator ในปี พ.ศ. 2517
   • การต่อต้านการก่อการร้ายในอิสราเอล
   • ปฏิบัติการลับในอิรักและซีเรีย

   ความสำเร็จ

   หน่วย Shayetet 13 ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหน่วยรบพิเศษที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก หน่วย Shayetet 13 ได้รับรางวัลมากมายสำหรับความสำเร็จในภารกิจพิเศษ

   ชื่อเสียง

   หน่วย Shayetet 13 มีชื่อเสียงในด้านความเชี่ยวชาญ ความกล้าหาญ และประสิทธิภาพในการปฏิบัติการพิเศษ หน่วย Shayetet 13 มักถูกเรียกว่า "หน่วยรบพิเศษที่อันตรายที่สุดในโลก" (the most dangerous special forces in the world)

   การฝึกฝน

   การฝึกฝนของหน่วย Shayetet 13 แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่

   • Basic Underwater Demolition/SEAL (BUD/S) ใช้เวลา 24 สัปดาห์ ประกอบด้วยการฝึกฝนด้านร่างกาย ยุทธวิธี การยิงปืน ดำน้ำ และอื่นๆ
   • Shayetet 13 Qualification Training (SQT) ใช้เวลา 22 สัปดาห์ ประกอบด้วยการฝึกฝนด้านยุทธวิธี การยิงปืน การลาดตระเวน การเอาตัวรอด และอื่นๆ
   • Advanced Shayetet 13 Training (AST) ใช้เวลา 12 สัปดาห์ ประกอบด้วยการฝึกฝนการใช้ยานพาหนะพิเศษในการปฏิบัติการทางทะเล

   การฝึกฝนของหน่วย Shayetet 13 นั้นยากและอันตรายมาก ผู้สมัครจะต้องผ่านการทดสอบร่างกายและจิตใจอย่างเข้มงวด อัตราการคัดออกของการฝึกฝนนั้นสูงมาก ประมาณ 75%

   ภารกิจ

   หน่วย Shayetet 13 มีหน้าที่หลักในการปฏิบัติการพิเศษทางทะเล ซึ่งรวมถึง

   • การช่วยเหลือตัวประกัน
   • การต่อต้านการก่อการร้าย
   • การปฏิบัติโดยตรง
   • การลาดตระเวน
   • สงครามพิเศษ

   หน่วย Shayetet 13 มักถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจในสภาพแวดล้อมที่อันตรายและยากลำบาก เช่น ทะเลทราย ภูเขา และป่าไม้

   ตัวอย่างภารกิจ

   • การช่วยเหลือตัวประกันที่เรือขนส่งสินค้า MV Achiator ในปี พ.ศ. 2517 หน่วย Shayetet 13 ได้ช่วยเหลือตัวประกันชาวอิสราเอล 10 คนจากกลุ่มโจรก่อการร้ายที่จับตัวประกันบนเรือขนส่งสินค้า
   • การต่อต้านการก่อการร้ายในอิสราเอล หน่วย Shayetet 13 มีส่วนสำคัญในการต่อต้านการก่อการร้ายในอิสราเอล โดยได้ทำการโจมตีเป้าหมายของกลุ่มก่อการร้ายหลายครั้ง
   • ปฏิบัติการลับในอิรักและซีเรีย หน่วย Shayetet 13 ได้ทำการปฏิบัติการลับในอิรักและซีเรีย เพื่อรวบรวมข่าวกรองและโจมตีเป้าหมายของศัตรู

   ความสำเร็จ

   หน่วย Shayetet 13 ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหน่วยรบพิเศษที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก หน่วย Shayetet 13 ได้รับรางวัลมากมายสำหรับความสำเร็จในภารกิจพิเศษ

4. The Delta Force 

   

   The Delta Force หรือหน่วยรบพิเศษเดลต้า ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2514 โดยกองทัพบกสหรัฐอเมริกา เป็นหน่วยรบพิเศษที่มีความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติการพิเศษ เช่น การช่วยเหลือตัวประกัน การต่อต้านการก่อการร้าย และการปฏิบัติการลับ

   ข้อมูลทั่วไป

   • ชื่อเต็ม: 1st Special Forces Operational Detachment – Delta (Airborne)
   • สังกัด: หน่วยบัญชาการปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐอเมริกา (USSOCOM)
   • ก่อตั้ง: 2514
   • ฐานที่ตั้ง: Fort Bragg, North Carolina, สหรัฐอเมริกา
   • ภารกิจ: การปฏิบัติการพิเศษ การช่วยเหลือตัวประกัน การต่อต้านการก่อการร้าย และการปฏิบัติการลับ

   การฝึกฝน

   การฝึกฝนของหน่วย Delta Force เป็นหนึ่งในการฝึกฝนที่ยากที่สุดในโลก ใช้เวลาประมาณ 2 ปี ประกอบด้วยการฝึกฝนด้านร่างกาย ยุทธวิธี การยิงปืน ภาษา การฝึกซ้อมทางจิตวิทยา และการฝึกฝนในสภาวะจำลองต่างๆ

   ภารกิจ

   หน่วย Delta Force ได้ปฏิบัติภารกิจพิเศษมากมายทั่วโลก ภารกิจที่มีชื่อเสียง เช่น

   • การช่วยเหลือตัวประกันที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาในอิหร่าน ในปี พ.ศ. 2522
   • การโจมตีฐานทัพอัลกออิดะห์ในอัฟกานิสถาน ในปี พ.ศ. 2544
   • การช่วยเหลือตัวประกันที่เรือขนส่งสินค้า MV Maersk Alabama ในปี พ.ศ. 2555

   ความสำเร็จ

   หน่วย Delta Force ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหน่วยรบพิเศษที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก หน่วย Delta Force ได้รับรางวัลมากมายสำหรับความสำเร็จในภารกิจพิเศษ

   ชื่อเสียง

   หน่วย Delta Force มีชื่อเสียงในด้านความเชี่ยวชาญ ความกล้าหาญ และประสิทธิภาพในการปฏิบัติการพิเศษ หน่วย Delta Force มักถูกเรียกว่า "หน่วยรบพิเศษที่อันตรายที่สุดในโลก" (the most dangerous special forces in the world)

   การฝึกฝน

   การฝึกฝนของหน่วย Delta Force แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่

   • Selection and Assessment (SFA) ใช้เวลา 6 สัปดาห์ ประกอบด้วยการทดสอบร่างกาย จิตใจ และทักษะต่างๆ
   • Operator Training Course (OTC) ใช้เวลา 18 สัปดาห์ ประกอบด้วยการฝึกฝนด้านยุทธวิธี การยิงปืน การลาดตระเวน การเอาตัวรอด และอื่นๆ
   • Advanced Operator Training (AOT) ใช้เวลา 12 สัปดาห์ ประกอบด้วยการฝึกฝนด้านทักษะเฉพาะทาง เช่น การจู่โจมทางอากาศ การดำน้ำลึก และการต่อต้านการก่อการร้าย

   การฝึกฝนของหน่วย Delta Force นั้นยากและอันตรายมาก ผู้สมัครจะต้องผ่านการทดสอบร่างกายและจิตใจอย่างเข้มงวด อัตราการคัดออกของการฝึกฝนนั้นสูงมาก ประมาณ 80%

   ภารกิจ

   หน่วย Delta Force มีหน้าที่หลักในการปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งรวมถึง

   • การช่วยเหลือตัวประกัน
   • การต่อต้านการก่อการร้าย
   • การปฏิบัติโดยตรง
   • การลาดตระเวน
   • สงครามพิเศษ

   หน่วย Delta Force มักถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจในสภาพแวดล้อมที่อันตรายและยากลำบาก เช่น ทะเลทราย ภูเขา และป่าไม้

   ตัวอย่างภารกิจ

   • การช่วยเหลือตัวประกันที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาในอิหร่าน ในปี พ.ศ. 2522 หน่วย Delta Force ได้ช่วยเหลือตัวประกันชาวอเมริกัน 52 คนจากกลุ่มโจรก่อการร้ายที่จับตัวประกันที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาในอิหร่าน
   • การโจมตีฐานทัพอัลกออิดะห์ในอัฟกานิสถาน ในปี พ.ศ. 2544 หน่วย Delta Force ได้ทำการโจมตีฐานทัพของกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ในอัฟกานิสถาน เพื่อกำจัดอุซามะ บิน ลาดิน
   • การช่วยเหลือตัวประกันที่เรือขนส่งสินค้า MV Maersk Alabama ในปี พ.ศ. 2555 หน่วย Delta Force ได้ช่วยเหลือตัวประกันชาวอเมริกัน 2 คนจากกลุ่มโจรก่อการร้ายที่จับตัวประกันบนเรือขนส่งสินค้า

   ความสำเร็จ

   หน่วย Delta Force ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหน่วยรบพิเศษที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก หน่วย Delta Force ได้รับรางวัลมากมายสำหรับความสำเร็จในภารกิจพิเศษ

5. US Army Rangers 

   

   • ชื่อเต็ม: กรมทหารจู่โจมที่ 75 (75th Ranger Regiment)

   • สังกัด: กองทัพบกสหรัฐอเมริกา

   • ก่อตั้ง: 2492

   • ฐานที่ตั้ง: Fort Benning, Georgia, สหรัฐอเมริกา

   • ภารกิจ: การปฏิบัติการพิเศษทางบก การต่อต้านการก่อการร้าย การช่วยเหลือตัวประกันและการปฏิบัติการลับ

   • การฝึกอบรม: โรงเรียนทหารจู่โจม (Ranger School) ใช้เวลา 61 วัน ประกอบด้วยการฝึกอบรมด้านร่างกาย ยุทธวิธี การยิงปืน ดำน้ำลึก และการเอาตัวรอด

   • ภารกิจ: หน่วยจู่โจมกองทัพบกสหรัฐฯ มีส่วนร่วมในภารกิจพิเศษมากมายทั่วโลก ภารกิจที่มีชื่อเสียง เช่น

     • การช่วยเหลือตัวประกันที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาในอิหร่าน ในปี พ.ศ. 2522

        

     • การโจมตีฐานทัพอัลกออิดะห์ในอัฟกานิสถาน ในปี พ.ศ. 2544

        

     • การช่วยเหลือตัวประกันที่เรือขนส่งสินค้า MV Maersk Alabama ในปี พ.ศ. 2555

        

   • ความสำเร็จ: หน่วยจู่โจมกองทัพบกสหรัฐฯ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหน่วยรบพิเศษที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก หน่วยจู่โจมกองทัพบกสหรัฐฯ ได้รับรางวัลมากมายสำหรับความสำเร็จในภารกิจพิเศษ

   • ชื่อเสียง: หน่วยจู่โจมกองทัพบกสหรัฐฯ มีชื่อเสียงในด้านความเชี่ยวชาญ ความกล้าหาญ และประสิทธิภาพในการปฏิบัติการพิเศษ หน่วยจู่โจมกองทัพบกสหรัฐฯ มักถูกเรียกว่า "หน่วยรบพิเศษที่อันตรายที่สุดในโลก"

   หน่วยจู่โจมกองทัพบกสหรัฐฯ ประกอบด้วยทหารอาสาสมัครที่ผ่านการคัดเลือกและฝึกอบรมอย่างเข้มงวด หน่วยจู่โจมกองทัพบกสหรัฐฯ มีหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติการพิเศษทางบก เช่น การช่วยเหลือตัวประกัน การต่อต้านการก่อการร้าย และการปฏิบัติการลับ หน่วยจู่โจมกองทัพบกสหรัฐฯ ได้มีส่วนร่วมในภารกิจพิเศษมากมายทั่วโลกและได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหน่วยรบพิเศษที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก

6. MI-6

   MI-6 หรือหน่วยสืบราชการลับลับของสหราชอาณาจักร ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2443 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยเป็นการรวมหน่วยสืบราชการลับของสหราชอาณาจักรจากหลายหน่วยเข้าด้วยกัน MI-6 มีหน้าที่รับผิดชอบในการรวบรวมข่าวกรองจากต่างประเทศและดำเนินการปฏิบัติการลับ

   ข้อมูลทั่วไป

   • ชื่อเต็ม: Secret Intelligence Service (UK)
   • สังกัด: กระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักร
   • ก่อตั้ง: 2443
   • ฐานที่ตั้ง: Vauxhall Cross, กรุงลอนดอน, สหราชอาณาจักร
   • ภารกิจ: การรวบรวมข่าวกรองจากต่างประเทศ การดำเนินการปฏิบัติการลับ และการต่อต้านการก่อการร้าย

   การฝึกอบรม

   การฝึกอบรมของ MI-6 เป็นหนึ่งในการฝึกอบรมที่ยากที่สุดในโลก ใช้เวลาประมาณ 2 ปี ประกอบด้วยการฝึกอบรมด้านร่างกาย ภาษา วัฒนธรรม ยุทธวิธี การยิงปืน และอื่นๆ

   ภารกิจ

   MI-6 ได้มีส่วนร่วมในภารกิจลับมากมายทั่วโลก ภารกิจที่มีชื่อเสียง เช่น

   • การช่วยเหลือตัวประกันที่สนามบินโดฮา ประเทศกาตาร์ ในปี พ.ศ. 2528
   • การต่อต้านการก่อการร้ายในสหราชอาณาจักรและต่างประเทศ
   • ปฏิบัติการลับในอิรักและอัฟกานิสถาน

   ความสำเร็จ

   MI-6 ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหน่วยสืบราชการลับที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก MI-6 ได้รับรางวัลมากมายสำหรับความสำเร็จในภารกิจลับ

   ชื่อเสียง

   MI-6 มีชื่อเสียงในด้านความเชี่ยวชาญ ความกล้าหาญ และประสิทธิภาพในการปฏิบัติการลับ MI-6 มักถูกเรียกว่า "หน่วยสืบราชการลับที่อันตรายที่สุดในโลก"

   การฝึกอบรม

   การฝึกอบรมของ MI-6 แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่

   • Selection and Assessment (SFA) ใช้เวลา 6 สัปดาห์ ประกอบด้วยการทดสอบร่างกาย จิตใจ และทักษะต่างๆ
   • Basic Intelligence Officer Course (BIOC) ใช้เวลา 18 สัปดาห์ ประกอบด้วยการฝึกอบรมด้านภาษา วัฒนธรรม ยุทธวิธี การยิงปืน และอื่นๆ
   • Advanced Intelligence Officer Course (AIOC) ใช้เวลา 12 สัปดาห์ ประกอบด้วยการฝึกอบรมด้านทักษะเฉพาะทาง เช่น การต่อต้านการก่อการร้าย การจารกรรม และอื่นๆ

   การฝึกฝนของ MI-6 นั้นยากและอันตรายมาก ผู้สมัครจะต้องผ่านการทดสอบร่างกายและจิตใจอย่างเข้มงวด อัตราการคัดออกของการฝึกฝนนั้นสูงมาก ประมาณ 75%

   ภารกิจ

   MI-6 มีหน้าที่หลักในการรวบรวมข่าวกรองจากต่างประเทศ ดำเนินการปฏิบัติการลับ และการต่อต้านการก่อการร้าย ภารกิจของ MI-6 ครอบคลุมหลากหลายด้าน เช่น

   • การรวบรวมข่าวกรองด้านการเมือง เศรษฐกิจ และความมั่นคง
   • การดำเนินการปฏิบัติการลับเพื่อโค่นล้มรัฐบาลต่างประเทศ
   • การต่อต้านการก่อการร้าย

   MI-6 มักถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจในสภาพแวดล้อมที่อันตรายและยากลำบาก เช่น พื้นที่สงครามและประเทศที่มีความเสี่ยงสูง

   ตัวอย่างภารกิจ

   • การช่วยเหลือตัวประกันที่สนามบินโดฮา ประเทศกาตาร์ ในปี พ.ศ. 2528 MI-6 ได้ช่วยเหลือตัวประกันชาวอังกฤษ 10 คนจากกลุ่มโจรก่อการร้ายที่จับตัวประกันที่สนามบินโดฮา ประเทศกาตาร์
   • การต่อต้านการก่อการร้ายในสหราชอาณาจักรและต่างประเทศ MI-6 ได้มีส่วนสำคัญในการต่อต้านการก่อการร้ายในสหราชอาณาจักรและต่างประเทศ โดยได้ทำการโจมตีเป้าหมายของกลุ่มก่อการร้ายหลายครั้ง
   • ปฏิบัติการลับในอิรักและอัฟกานิสถาน MI-6 ได้ทำการปฏิบัติการลับในอิรักและอัฟกานิสถาน เพื่อรวบรวมข่าวกรองและโจมตีเป้าหมายของศัตรู

   ความสำเร็จ

   MI-6 ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหน่วยสืบราชการลับที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก MI-6 ได้รับรางวัลมากมายสำหรับความสำเร็จในภารกิจลับ

7. U.S. Army Green Berets

   

   • ชื่อเต็ม: United States Army Special Forces

   • สังกัด: กองทัพบกสหรัฐอเมริกา

   • ก่อตั้ง: 2488

   • ฐานที่ตั้ง: Fort Bragg, North Carolina, สหรัฐอเมริกา

   • ภารกิจ: การปฏิบัติการพิเศษทางบก การต่อต้านการก่อการร้าย การช่วยเหลือตัวประกันและการปฏิบัติการลับ

   • การฝึกอบรม: โรงเรียนฝึกหน่วยรบพิเศษ (Special Forces Qualification Course (SFQC)) ใช้เวลาประมาณ 2 ปี ประกอบด้วยการฝึกอบรมด้านร่างกาย ยุทธวิธี การยิงปืน ภาษา การฝึกซ้อมทางจิตวิทยา และการฝึกฝนในสภาวะจำลองต่างๆ

   • ภารกิจ: หน่วยรบพิเศษกองทัพบกสหรัฐฯ มีส่วนร่วมในภารกิจพิเศษมากมายทั่วโลก ภารกิจที่มีชื่อเสียง เช่น

     • การช่วยเหลือตัวประกันที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาในอิหร่าน ในปี พ.ศ. 2522
     • การโจมตีฐานทัพอัลกออิดะห์ในอัฟกานิสถาน ในปี พ.ศ. 2544
     • การช่วยเหลือตัวประกันที่เรือขนส่งสินค้า MV Maersk Alabama ในปี พ.ศ. 2555

   • ความสำเร็จ: หน่วยรบพิเศษกองทัพบกสหรัฐฯ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหน่วยรบพิเศษที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก หน่วยรบพิเศษกองทัพบกสหรัฐฯ ได้รับรางวัลมากมายสำหรับความสำเร็จในภารกิจพิเศษ

   • ชื่อเสียง: หน่วยรบพิเศษกองทัพบกสหรัฐฯ มีชื่อเสียงในด้านความเชี่ยวชาญ ความกล้าหาญ และประสิทธิภาพในการปฏิบัติการพิเศษ หน่วยรบพิเศษกองทัพบกสหรัฐฯ มักถูกเรียกว่า "หน่วยรบพิเศษที่อันตรายที่สุดในโลก"

   หน่วยรบพิเศษกองทัพบกสหรัฐฯ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "กรีนเบอเรต์" (Green Berets) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2488 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หน่วยรบพิเศษกองทัพบกสหรัฐฯ ได้รับการฝึกฝนอย่างหนักเพื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษ เช่น การช่วยเหลือตัวประกัน การต่อต้านการก่อการร้าย และการปฏิบัติการลับ

   หน่วยรบพิเศษกองทัพบกสหรัฐฯ ประกอบด้วยทหารอาสาสมัครที่ผ่านการคัดเลือกและฝึกอบรมอย่างเข้มงวด หน่วยรบพิเศษกองทัพบกสหรัฐฯ มีหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติการพิเศษทางบก เช่น การช่วยเหลือตัวประกัน การต่อต้านการก่อการร้าย และการปฏิบัติการลับ หน่วยรบพิเศษกองทัพบกสหรัฐฯ ได้มีส่วนร่วมในภารกิจพิเศษมากมายทั่วโลกและได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหน่วยรบพิเศษที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก

   การฝึกอบรม

   การฝึกอบรมของหน่วยรบพิเศษกองทัพบกสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในการฝึกอบรมที่ยากที่สุดในโลก ใช้เวลาประมาณ 2 ปี ประกอบด้วยการฝึกอบรมด้านร่างกาย ยุทธวิธี การยิงปืน ภาษา การฝึกซ้อมทางจิตวิทยา และการฝึกฝนในสภาวะจำลองต่างๆ

   การฝึกอบรมของหน่วยรบพิเศษกองทัพบกสหรัฐฯ แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่

   • Selection and Assessment (SFA) ใช้เวลา 6 สัปดาห์ ประกอบด้วยการทดสอบร่างกาย จิตใจ และทักษะต่างๆ
   • Special Forces Qualification Course (SFQC) ใช้เวลา 18 สัปดาห์ ประกอบด้วยการฝึกอบรมด้านยุทธวิธี การยิงปืน การลาดตระเวน การเอาตัวรอด และอื่นๆ
   • Special Forces Advanced Course (SFAC) ใช้เวลา 12 สัปดาห์ ประกอบด้วยการฝึกอบรมด้านทักษะเฉพาะทาง เช่น การจู่โจมทางอากาศ การดำน้ำลึก และการต่อต้านการก่อการร้าย

   การฝึกฝนของหน่วยรบพิเศษกองทัพบกสหรัฐฯ นั้นยากและอันตรายมาก ผู้สมัครจะต้องผ่านการทดสอบร่างกายและจิตใจอย่างเข้มงวด อัตราการคัดออกของการฝึกฝนนั้นสูงมาก ประมาณ 75%

   ภารกิจ

   หน่วยรบพิเศษกองทัพบกสหรัฐฯ มีหน้าที่หลักในการปฏิบัติการพิเศษทางบก ภารกิจของหน่วยรบพิเศษกองทัพบกสหรัฐฯ ครอบคลุมหลากหลายด้าน เช่น

   • การช่วยเหลือตัวประกัน
   • การต่อต้านการก่อการร้าย
   • การปฏิบัติการลับ
   • การฝึกอบรมกองกำลังติดอาวุธของต่างประเทศ
   • ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

   หน่วยรบพิเศษกองทัพบกสหรัฐฯ มักถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจในสภาพแวดล้อมที่อันตรายและยากลำบาก เช่น พื้นที่สงครามและประเทศที่มีความเสี่ยงสูง

   ตัวอย่างภารกิจ

   • การช่วยเหลือตัวประกันที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาในอิหร่าน ในปี พ.ศ. 2522 หน่วยรบพิเศษกองทัพบกสหรัฐฯ ได้ช่วยเหลือตัวประกันชาวอเมริกัน 52 คนจากกลุ่มโจรก่อการร้ายที่จับตัวประกันที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาในอิหร่าน
   • การโจมตีฐานทัพอัลกออิดะห์ในอัฟกานิสถาน ในปี พ.ศ. 2544 หน่วยรบพิเศษกองทัพบกสหรัฐฯ ได้ทำการโจมตีฐานทัพของกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิด
8. Spetsnaz (Russian Special Purpose Forces) 

   • ชื่อเต็ม: Russian Special Purpose Forces

   • สังกัด: กองกำลังติดอาวุธของรัสเซีย

   • ก่อตั้ง: 2492

   • ฐานที่ตั้ง: ทั่วประเทศรัสเซีย

   • ภารกิจ: การปฏิบัติการพิเศษ การต่อต้านการก่อการร้าย การช่วยเหลือตัวประกัน และการปฏิบัติการลับ

   • การฝึกอบรม: การฝึกอบรมของ Spetsnaz เป็นหนึ่งในการฝึกอบรมที่ยากที่สุดในโลก ใช้เวลาประมาณ 2 ปี ประกอบด้วยการฝึกอบรมด้านร่างกาย ยุทธวิธี การยิงปืน ภาษา การฝึกซ้อมทางจิตวิทยา และการฝึกฝนในสภาวะจำลองต่างๆ

   • ภารกิจ: Spetsnaz ได้มีส่วนร่วมในภารกิจพิเศษมากมายทั่วโลก ภารกิจที่มีชื่อเสียง เช่น

     • การยึดครองโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลในปี พ.ศ. 2536
     • การช่วยเหลือตัวประกันที่โรงละคร Dubrovka ในมอสโกในปี พ.ศ. 2544
     • การยึดครองอาคารผู้โดยสารที่ 3 สนามบินโดโมเดโดโวในมอสโกในปี พ.ศ. 2559

   • ความสำเร็จ: Spetsnaz ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหน่วยรบพิเศษที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก Spetsnaz ได้รับรางวัลมากมายสำหรับความสำเร็จในภารกิจพิเศษ

   • ชื่อเสียง: Spetsnaz มีชื่อเสียงในด้านความเชี่ยวชาญ ความกล้าหาญ และประสิทธิภาพในการปฏิบัติการพิเศษ Spetsnaz มักถูกเรียกว่า "หน่วยรบพิเศษที่อันตรายที่สุดในโลก"

   Spetsnaz (Russian: Спецназ) เป็นหน่วยรบพิเศษของรัสเซีย ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2492 โดยกองทัพบกโซเวียต Spetsnaz ได้รับการฝึกฝนอย่างหนักเพื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษ เช่น การช่วยเหลือตัวประกัน การต่อต้านการก่อการร้าย และการปฏิบัติการลับ

   Spetsnaz ประกอบด้วยทหารอาสาสมัครที่ผ่านการคัดเลือกและฝึกอบรมอย่างเข้มงวด Spetsnaz มีหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติการพิเศษในทุกสาขาวิชา ภารกิจของ Spetsnaz ครอบคลุมหลากหลายด้าน เช่น

   • การช่วยเหลือตัวประกัน
   • การต่อต้านการก่อการร้าย
   • การปฏิบัติการลับ
   • สงครามพิเศษ
   • การฝึกอบรมกองกำลังติดอาวุธของต่างประเทศ
   • ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

   Spetsnaz มักถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจในสภาพแวดล้อมที่อันตรายและยากลำบาก เช่น พื้นที่สงครามและประเทศที่มีความเสี่ยงสูง

   การฝึกอบรม

   การฝึกอบรมของ Spetsnaz เป็นหนึ่งในการฝึกอบรมที่ยากที่สุดในโลก ใช้เวลาประมาณ 2 ปี ประกอบด้วยการฝึกอบรมด้านร่างกาย ยุทธวิธี การยิงปืน ภาษา การฝึกซ้อมทางจิตวิทยา และการฝึกฝนในสภาวะจำลองต่างๆ

   การฝึกอบรมของ Spetsnaz แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่

   • Selection and Assessment (SFA) ใช้เวลา 6 สัปดาห์ ประกอบด้วยการทดสอบร่างกาย จิตใจ และทักษะต่างๆ
   • Basic Special Forces Course (BFSC) ใช้เวลา 18 สัปดาห์ ประกอบด้วยการฝึกอบรมด้านยุทธวิธี การยิงปืน การลาดตระเวน การเอาตัวรอด และอื่นๆ
   • Advanced Special Forces Course (ASFC) ใช้เวลา 12 สัปดาห์ ประกอบด้วยการฝึกอบรมด้านทักษะเฉพาะทาง เช่น การจู่โจมทางอากาศ การดำน้ำลึก และการต่อต้านการก่อการร้าย

   การฝึกฝนของ Spetsnaz นั้นยากและอันตรายมาก ผู้สมัครจะต้องผ่านการทดสอบร่างกายและจิตใจอย่างเข้มงวด อัตราการคัดออกของการฝึกฝนนั้นสูงมาก ประมาณ 75%

   ภารกิจ

   Spetsnaz ได้มีส่วนร่วมในภารกิจพิเศษมากมายทั่วโลก ภารกิจที่มีชื่อเสียง เช่น

   • การยึดครองโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลในปี พ.ศ. 2536 Spetsnaz ได้เข้าควบคุมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลหลังจากเกิดอุบัติเหตุนิวเคลียร์ในปี พ.ศ. 2536 เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของรังสี
   • การช่วยเหลือตัวประกันที่โรงละคร Dubrovka ในมอสโกในปี พ.ศ. 2544 Spetsnaz ได้ช่วยเหลือตัวประกัน 850 คนจากกลุ่มโจรก่อการร้ายที่จับตัวประกันที่โรงละคร Dubrovka ในมอสโก
   • การยึดครองอาคารผู้โดยสารที่ 3 สนามบินโดโมเดโดโวในมอสโกในปี พ.ศ. 2559 Spetsnaz ได้ยึดครองอาคารผู้โดยสารที่ 3 สนามบินโดโมเดโดโวในมอสโกเพื่อช่วยเหลือตัวประกัน 374 คนจากกลุ่มโจรก่อการร้ายที่จับตัวประกัน

   ความสำเร็จ

   Spetsnaz ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหน่วยรบพิเศษที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก Spetsnaz ได้รับรางวัลมากมายสำหรับความสำเร็จในภารกิจ

9. MARSOC 

   • ชื่อเต็ม: Marine Corps Forces Special Operations Command

   • สังกัด: นาวิกโยธินสหรัฐฯ

   • ก่อตั้ง: 2548

   • ฐานที่ตั้ง: Camp Lejeune, North Carolina, สหรัฐอเมริกา

   • ภารกิจ: การปฏิบัติการพิเศษทางบก การต่อต้านการก่อการร้าย การช่วยเหลือตัวประกันและการปฏิบัติการลับ

   • การฝึกอบรม: การฝึกอบรมของ MARSOC ใช้เวลาประมาณ 2 ปี ประกอบด้วยการฝึกอบรมด้านร่างกาย ยุทธวิธี การยิงปืน ภาษา การฝึกซ้อมทางจิตวิทยา และการฝึกฝนในสภาวะจำลองต่างๆ

   • ภารกิจ: MARSOC ได้มีส่วนร่วมในภารกิจพิเศษมากมายทั่วโลก ภารกิจที่มีชื่อเสียง เช่น

     • การช่วยเหลือตัวประกันที่เรือขนส่งสินค้า MV Maersk Alabama ในปี พ.ศ. 2555
     • การช่วยเหลือตัวประกันที่จังหวัด Helmand ประเทศอัฟกานิสถาน ในปี พ.ศ. 2557
     • การปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ในปี พ.ศ. 2565

   • ความสำเร็จ: MARSOC ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหน่วยรบพิเศษที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก MARSOC ได้รับรางวัลมากมายสำหรับความสำเร็จในภารกิจพิเศษ

   • ชื่อเสียง: MARSOC มีชื่อเสียงในด้านความเชี่ยวชาญ ความกล้าหาญ และประสิทธิภาพในการปฏิบัติการพิเศษ MARSOC มักถูกเรียกว่า "หน่วยรบพิเศษของนาวิกโยธิน"

   MARSOC (Marine Corps Forces Special Operations Command) เป็นหน่วยรบพิเศษของนาวิกโยธินสหรัฐฯ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2548 เพื่อตอบสนองต่อภัยคุกคามการก่อการร้ายที่เพิ่มขึ้น MARSOC ได้รับการฝึกฝนอย่างหนักเพื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษ เช่น การช่วยเหลือตัวประกัน การต่อต้านการก่อการร้าย และการปฏิบัติการลับ

   MARSOC ประกอบด้วยทหารอาสาสมัครที่ผ่านการคัดเลือกและฝึกอบรมอย่างเข้มงวด MARSOC มีหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติการพิเศษทางบก ภารกิจของ MARSOC ครอบคลุมหลากหลายด้าน เช่น

   • การช่วยเหลือตัวประกัน
   • การต่อต้านการก่อการร้าย
   • การปฏิบัติการลับ
   • การฝึกอบรมกองกำลังติดอาวุธของต่างประเทศ
   • ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

   MARSOC มักถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจในสภาพแวดล้อมที่อันตรายและยากลำบาก เช่น พื้นที่สงครามและประเทศที่มีความเสี่ยงสูง

   การฝึกอบรม

   การฝึกอบรมของ MARSOC เป็นหนึ่งในการฝึกอบรมที่ยากที่สุดในโลก ใช้เวลาประมาณ 2 ปี ประกอบด้วยการฝึกอบรมด้านร่างกาย ยุทธวิธี การยิงปืน ภาษา การฝึกซ้อมทางจิตวิทยา และการฝึกฝนในสภาวะจำลองต่างๆ

   การฝึกอบรมของ MARSOC แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่

   • Selection and Assessment (SFA) ใช้เวลา 6 สัปดาห์ ประกอบด้วยการทดสอบร่างกาย จิตใจ และทักษะต่างๆ
   • Basic Special Operations Course (BSOC) ใช้เวลา 18 สัปดาห์ ประกอบด้วยการฝึกอบรมด้านยุทธวิธี การยิงปืน การลาดตระเวน การเอาตัวรอด และอื่นๆ
   • Advanced Special Operations Course (ASOC) ใช้เวลา 12 สัปดาห์ ประกอบด้วยการฝึกอบรมด้านทักษะเฉพาะทาง เช่น การจู่โจมทางอากาศ การดำน้ำลึก และการต่อต้านการก่อการร้าย

   การฝึกฝนของ MARSOC นั้นยากและอันตรายมาก ผู้สมัครจะต้องผ่านการทดสอบร่างกายและจิตใจอย่างเข้มงวด อัตราการคัดออกของการฝึกฝนนั้นสูงมาก ประมาณ 75%

   ภารกิจ

   MARSOC ได้มีส่วนร่วมในภารกิจพิเศษมากมายทั่วโลก ภารกิจที่มีชื่อเสียง เช่น

   • การช่วยเหลือตัวประกันที่เรือขนส่งสินค้า MV Maersk Alabama ในปี พ.ศ. 2555 MARSOC ได้ช่วยเหลือตัวประกัน 17 คนจากกลุ่มโจรก่อการร้ายที่จับตัวประกันบนเรือขนส่งสินค้า MV Maersk Alabama
   • การช่วยเหลือตัวประกันที่จังหวัด Helmand ประเทศอัฟกานิสถาน ในปี พ.ศ. 2557 MARSOC ได้ช่วยเหลือตัวประกัน 4 คนจากกลุ่ม Taliban ที่จับตัวประกันในจังหวัด Helmand ประเทศอัฟกานิสถาน
   • การปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ในปี พ.ศ. 2565 MARSOC ได้ปฏิบัติการต่อต้านกลุ่ม Abu Sayyaf ในภาคใต้ของฟิลิปปินส์

   ความสำเร็จ

   MARSOC ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหน่วยรบพิเศษที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก MARSOC ได้รับรางวัลมากมายสำหรับความสำเร็จในภารกิจพิเศษ

10. Berets Verts หรือ French Naval Commandos 

    • ชื่อเต็ม: Commandos Marine

    • สังกัด: Marine Nationale (กองทัพเรือฝรั่งเศส)

    • ก่อตั้ง: 2492

    • ฐานที่ตั้ง: ทั่วประเทศฝรั่งเศส

    • ภารกิจ: การปฏิบัติการพิเศษทางทะเล การต่อต้านการก่อการร้าย การช่วยเหลือตัวประกันและการปฏิบัติการลับ

    • การฝึกอบรม: การฝึกอบรมของ Berets Verts เป็นหนึ่งในการฝึกอบรมที่ยากที่สุดในโลก ใช้เวลาประมาณ 2 ปี ประกอบด้วยการฝึกอบรมด้านร่างกาย ยุทธวิธี การยิงปืน ภาษา การฝึกซ้อมทางจิตวิทยา และการฝึกฝนในสภาวะจำลองต่างๆ

    • ภารกิจ: Berets Verts ได้มีส่วนร่วมในภารกิจพิเศษมากมายทั่วโลก ภารกิจที่มีชื่อเสียง เช่น

      • การช่วยเหลือตัวประกันที่สถานทูตฝรั่งเศสในลิเบีย ในปี พ.ศ. 2541
      • การช่วยเหลือตัวประกันที่เรือขนส่งสินค้า MV Faina ในปี พ.ศ. 2554
      • การปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ในปี พ.ศ. 2565

    • ความสำเร็จ: Berets Verts ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหน่วยรบพิเศษที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก Berets Verts ได้รับรางวัลมากมายสำหรับความสำเร็จในภารกิจพิเศษ

    • ชื่อเสียง: Berets Verts มีชื่อเสียงในด้านความเชี่ยวชาญ ความกล้าหาญ และประสิทธิภาพในการปฏิบัติการพิเศษ Berets Verts มักถูกเรียกว่า "หน่วยรบพิเศษของกองทัพเรือฝรั่งเศส"

    Beret Verts (French: Commandos Marine) เป็นหน่วยรบพิเศษของกองทัพเรือฝรั่งเศส ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2492 Berets Verts ได้รับการฝึกฝนอย่างหนักเพื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษ เช่น การช่วยเหลือตัวประกัน การต่อต้านการก่อการร้าย และการปฏิบัติการลับ

    Beret Verts ประกอบด้วยทหารอาสาสมัครที่ผ่านการคัดเลือกและฝึกอบรมอย่างเข้มงวด Berets Verts มีหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติการพิเศษทางทะเล ภารกิจของ Berets Verts ครอบคลุมหลากหลายด้าน เช่น

    • การช่วยเหลือตัวประกัน
    • การต่อต้านการก่อการร้าย
    • การปฏิบัติการลับ
    • การฝึกอบรมกองกำลังติดอาวุธของต่างประเทศ
    • ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

    Beret Verts มักถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจในสภาพแวดล้อมที่อันตรายและยากลำบาก เช่น พื้นที่สงครามและประเทศที่มีความเสี่ยงสูง

    การฝึกอบรม

    การฝึกอบรมของ Berets Verts เป็นหนึ่งในการฝึกอบรมที่ยากที่สุดในโลก ใช้เวลาประมาณ 2 ปี ประกอบด้วยการฝึกอบรมด้านร่างกาย ยุทธวิธี การยิงปืน ภาษา การฝึกซ้อมทางจิตวิทยา และการฝึกฝนในสภาวะจำลองต่างๆ

    การฝึกอบรมของ Berets Verts แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก ได้แก่

    • Selection and Assessment (SFA) ใช้เวลา 6 สัปดาห์ ประกอบด้วยการทดสอบร่างกาย จิตใจ และทักษะต่างๆ
    • Basic Special Operations Course (BSOC) ใช้เวลา 18 สัปดาห์ ประกอบด้วยการฝึกอบรมด้านยุทธวิธี การยิงปืน การลาดตระเวน การเอาตัวรอด และอื่นๆ
    • Advanced Special Operations Course (ASOC) ใช้เวลา 12 สัปดาห์ ประกอบด้วยการฝึกอบรมด้านทักษะเฉพาะทาง เช่น การจู่โจมทางอากาศ การดำน้ำลึก และการต่อต้านการก่อการร้าย

    การฝึกฝนของ Berets Verts นั้นยากและอันตรายมาก ผู้สมัครจะต้องผ่านการทดสอบร่างกายและจิตใจอย่างเข้มงวด อัตราการคัดออกของการฝึกฝนนั้นสูงมาก ประมาณ 75%

    ภารกิจ

    Beret Verts ได้มีส่วนร่วมในภารกิจพิเศษมากมายทั่วโลก ภารกิจที่มีชื่อเสียง เช่น

    • การช่วยเหลือตัวประกันที่สถานทูตฝรั่งเศสในลิเบีย ในปี พ.ศ. 2541 Berets Verts ได้ช่วยเหลือตัวประกันชาวฝรั่งเศส 10 คนจากกลุ่มโจรก่อการร้ายที่จับตัวประกันที่สถานทูตฝรั่งเศสในลิเบีย
    • การช่วยเหลือตัวประกันที่เรือขนส่งสินค้า MV Faina ในปี พ.ศ. 2554 Berets Verts ได้ช่วยเหลือตัวประกันชาวยูเครน 20 คนจากกลุ่มกบฏในโซมาเลียที่จับตัวประกันบนเรือขนส่งสินค้า MV Faina
    • การปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ในปี พ.ศ. 2565 Berets Verts ได้ปฏิบัติการต่อต้านกลุ่ม Abu Sayyaf ในภาคใต้ของฟิลิปปินส์

    ความสำเร็จ

    Beret Verts ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหน่วยรบพิเศษที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก Berets Verts ได้รับรางวัลมากมายสำหรับความสำเร็จในภารกิจพิเศษ

การจัดอันดับนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ประสบการณ์ การฝึกฝน ความสำเร็จในภารกิจ และชื่อเสียง อย่างไรก็ตาม การจัดอันดับนี้เป็นเพียงความเห็นของผู้เขียนเท่านั้น ไม่มีการจัดอันดับอย่างเป็นทางการใดๆ ที่รับรองว่าหน่วยรบพิเศษเหล่านี้เป็นหน่วยที่เก่งที่สุดในโลก

หน่วยรบพิเศษเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนอย่างหนักเพื่อปฏิบัติภารกิจพิเศษที่อันตรายและท้าทาย เช่น การช่วยเหลือตัวประกัน การต่อต้านการก่อการร้าย และการปฏิบัติการลับ หน่วยรบพิเศษเหล่านี้มักถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจในสภาพแวดล้อมที่อันตรายและยากลำบาก ซึ่งต้องใช้ทักษะและความกล้าหาญในระดับสูง