ลูกของพ่อ
กานต์คบกับอรมาหลายปี จนได้แต่งงานกัน โดยกานต์มักจะพูดกับอรเสมอว่าเขาอยากใช้ชีวิตกับอรแค่สองคนและไม่ต้องการที่จะมีลูก ถึงแม้ฐานะทางบ้าน หน้าที่การงานของเขาจะพร้อมมากแค่ไหนก็ตาม อรเองก็ตามใจสามีแม้ว่าลึกๆเธอก็อยากมีเจ้าตัวน้อยสักคนก็ตาม
จนกระทั่ง
อร : กานต์ คืออรมีเรื่องจะต้องบอกกานต์
กานต์ : เรื่องอะไรเหรอครับ
อร : อรท้อง
กานต์ : อะไรนะ จะท้องได้ไง ในเมื่ออรเองก็กินยาคุมอยู่ตลอด และกานต์ก็บอกแล้วไง กานต์ไม่ชอบเด็ก กานต์ไม่อยากมีลูก
กานต์ตวาดอรเสียงดังลั่นอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
อร : อรก็ไม่รู้เขาคงอยากมาเกิดกับเรามั๊งคะ
กานต์ : อย่ามาไร้สาระนะอร ถ้ายังอยากจะอยู่ด้วยกันก็ไปจัดการให้เรียบร้อย แต่ถ้าไม่เราก็ต่างคนต่างอยู่!!
อร : ทำไมกานต์พูดแบบนี้ละคะ นี่ลูกของเรานะ
กานต์ : ผมไม่ได้อยากมี อรอยากมีอรก็เลี้ยงเอง เลือกเอา ....ผมโอนเงินไปให้แล้ว ไปจัดการให้เรียบร้อย
อรแทบไม่อยากจะเชื่อว่าสามีคนที่เธอหวังจะฝากทั้งชีวิตเอาไว้กำลังสั่งให้เธอไปฆ่าลูกของตัวเอง
เธอเคยคิดว่ากานต์ไม่ชอบเด็กแต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะใจร้ายขนาดนี้
อรตัดสินใจโทรปรึกษาเพื่อนสนิท ซึ่งเพื่อนของเธอก็แนะนำว่าให้เธอเก็บเด็กเอาไว้ ถ้ากานต์จะใจร้ายถึงขนาดว่าจะทิ้งเธอเพียงเรื่องแค่นี้เธอก็ต้องยอมรับ เพราะยังไงเด็กเขาก็ไม่รู้เรื่อง
อรทำใจอยู่หลายวันก่อนจะตัดสินใจคุยกับกานต์อีกครั้ง
กานต์ : บอกแล้วไงว่าให้ไปเอาออก สรุปจะเก็บมันไว้ใช่ไหม
อร : แต่เขาเป็นลูกเรานะคะ
กานต์ : ถ้าอรอยากเก็บเขาไว้ก็ตามใจ แต่ผมจะไม่ขอรับผิดชอบอะไรเด็กคนนี้แม้แต่นิดเดียว แล้วก็อย่ามาหาว่าผมใจร้ายก็แล้วกัน
ตั้งแต่วันนั้นกานต์ก็หายออกจากบ้านไปหลายวัน ทิ้งอรให้อยู่บ้านตามลำพัง อาการแพ้ท้องของอรเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ทั้งอาเจียน หน้ามืด ทานอาหารไม่ได้ จนอรต้องขอให้เพื่อนสนิทที่ชื่อ จัน ของเธอมาอยู่ด้วย
จัน : ทำไมกานต์มันเป็นคนแบบนี้วะ
อร : เขาไม่ชอบเด็ก
จัน : แต่เด็กที่ว่าก็ลูกมันปะ ตอนเอากันไม่เห็นบอกว่าไม่ชอบเลย แล้วแกสองคนก็เป็นผัวเมียกันแล้วนะ
อร : ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันไม่อยากฆ่าลูกแต่ฉันก็ไม่อยากเลิกกับกานต์
จัน : เออๆ ฉันเข้าใจ แกอย่าคิดมาก กินข้าว กินยา แล้วพักผ่อน เดี๋ยวฉันกลับไปเอาเสื้อผ้ามาอยู่เป็นเพื่อน
จันรีบออกจากบ้านของอรเพื่อไปเก็บเสื้อผ้ามาอยู่ดูแลเพื่อนสนิท โดยเธอไม่รู้เลยว่า คืนนั้นจะเป็นคืนสุดท้ายของเด็กผู้โชคร้ายคนนั้น
จัน : อร ฉันกลับมาแล้ว ทำไมปิดบ้านมืดเลยวะแก ฉันเห็นรถกานต์จอดอยู่หน้าบ้าน มันกลับมาแล้วเหรอ
กานต์ : บ้านผม ถ้าผมไม่กลับ ผมจะไปไหนได้
จัน : ยังกล้าพูดเนอะ ปล่อยเมียนอนไม่สบายตั้งหลายวัน ทั้งๆที่ก็รู้ว่าเมียท้องแทนที่จะดูแล
กานต์ : เมียผม ผมดูแลเองได้ ต่อไปคงไม่ต้องขอให้คุณมาช่วยแล้วละ ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว
จัน : หมายความว่าไงจัดการเรียบร้อย...มึงทำอะไรเพื่อนกู
กานต์ : เรื่องของผัวเมีย คุณอย่ามายุ่งดีกว่า
จันรับรู้ถึงความไม่ชอบมาพากลจึงรีบวิ่งไปที่ห้องนอนของอร
จัน : อร !!! แกเป็นอะไร แล้วนี่เลือดอะไร
อร : จันช่วยด้วย ฉันปวดท้องงงง
จัน : แปปนะแกฉันเรียกรถพยาบาลให้
จันรีบกดเบอร์โทรฉุกเฉินติดต่อให้มารับอรที่บ้าน สภาพอรตอนนี้ดูน่าเป็นห่วง เธอนอนงอตัวบิดไปมาสองมือกุมท้องไว้แน่น เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากหว่างขาส่งกลิ่นคาวชวนเวียนหัว
จัน : ไอ้กานต์ มึงทำอะไรเพื่อนกู!!!
กานต์ : เรื่องของผังเมียอย่าเสือก
จัน : กูจะส่งมึงเข้าคุก ให้สารเลว นั่นลูกนั่นเมียมึงนะ
.
.
หมอ : ตอนนี้คุณแม่ปลอดภัยดีนะครับแต่ว่าเด็กในท้องเราช่วยเอาไว้ไม่ได้ หมอขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ
อร : ไอ้กานต์ ไอ้สารเลว มึงมันไม่ใช่คน
กานต์ : ก็ไม่ได้อยากให้มันเกิดมันเสือกมาเกิดเอง แล้วอรก็ใจเสาะไม่กล้าเอามันออกเอง ผมในฐานะสามี ช่วยขนาดนี้ ก็ควรขอบคุณไม่ใช่เหรอ
จัน : ไอ้กานต์ ...
จันได้แต่ยืนกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ เธอไม่คิดว่ามาก่อนเลยว่ากานต์คนที่เขาเคยรู้จักจะเป็นคนที่ใจร้ายได้ถึงขนาดนี้
เธอได้แต่โทษตัวเองว่าถ้าเธอไม่กลับไปที่บ้านอรก็อาจจะไม่ต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้
วันต่อมา
จัน : อรเป็นไงบ้าง
อร : ยังปวดอยู่เลย แต่ลูก....เขาไม่อยู่แล้วใช่ไหม
จัน : แก....ใจเย็นๆนะ เขาไม่อยู่กับแกแล้ว เพราะไอ้สารเลวนั่นคนเดียว
กานต์ : อ่าว ฟื้นแล้วเหรอ ผมซื้อของมาเยี่ยม เห็นหมอบอกว่าพรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้ว
อร : กานต์ทำแบบนี้ทำไม
กานต์ : ทำอะไร ..ก็อรไม่เชื่อฟังที่กานต์บอก กานต์ก็แค่จัดการให้มันเรียบร้อย อรควรขอบคุณกานต์นะ
อร : นั่นลูกเรานะกานต์
กานต์ : หยุดพูดถึงสักทีได้ไหม น่ารำคาญแค่เลือดก้อนเดียวจะอะไรนักหนา
จัน : มึงนี่มันเลวจริงๆ
อร : กานต์ใจร้ายมากนะ....ไม่กลัวบาปกรรมหรือไง
กานต์ : ไม่กลัว บาปกรรมบ้าบออะไร ไร้สาระ ทำไมอีเด็กผีนั่นจะมาตามหักคอกานต์เพราะทำให้มันไม่ได้เกิดเหรอ ก็มาดิ มันจะมีปัญญาอะไรแค่ก้อนเลือดก้อนเดียว
อร : ก็ขอให้กานต์ได้เจอในสิ่งที่กานต์อยากเจอแล้วกัน แล้วถ้าวันนั้นมาถึงคำว่าขอโทษมันก็คงสายเกินไป
หลังจากพักรักษาตัวไม่นาน อรก็กลับมาแข็งแรงและสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับกานต์ก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก แต่ด้วยเหตุผลทางธุรกิจและสังคมทำให้ทั้งสองคนต้องทนคบกันต่อไป
กานต์ : คืนนี้ผมไม่กลับบ้านนะ ไม่ต้องรอ
อร : ค่ะ
กานต์ : นี่!!!ใจคอคุณจะไม่ถามหน่อยเหรอว่าผัวจะไปไหน
อร : มันก็เรื่องของคุณ ไม่ใช่เรื่องของอร
กานต์ : อย่าให้มันมากนักนะอร
อร : มากเหรอคะ มันน้อยเกินไปด้วยซ้ำกับสิ่งที่อรต้องเจอ
อรพลักจนกานต์เสียหลักชนฝาผนังก่อนที่เธอจะเดินหนีเข้าห้องนอร ปล่อยให้กานต์ยืนกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ
กานต์ : ขนาดตายห่าไปตั้งแต่ยังไม่เกิดยังสร้างปัญหาขนาดนี้ ดีแล้วทีามึงไม่ได้เกิดมา อิเด็กเปรต
กานต์เดินออกจากบ้านไปโดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีเงาดำบางอย่างกำลังติดตามเขาออกไป
กานต์ขับรถอกจากบ้านตรงไปยังคอนโด ที่ที่เขาชอบมาหลบพักผ่อนและหนีหน้าภรรยาในช่วงเวลาที่ทั้งสองคนทะเลาะกันแทบจะรายวัน
ก๊อกๆๆๆ
กานต์ : ใครวะ!!!
เสียงเคาะประตูดังขึ้น กานต์ลุกไปเปิดประตูดูแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า
ก๊อกๆๆ
กานต์ : ใครวะ!!!
และก็เป็นอีกครั้งที่กานต์เปิดประตูออกไปแล้วพบว่าไม่มีใครอยู่บริเวณนั้น
จากที่กำลังหงุดหงิดเพราะทะเลาะกับอร มันก็ยิ่งทำให้เขาโมโหมากขึ้นอีกหลายเท่าที่โดยใครก็ไม่รู้มารบกวนเขาแบบนี้
กานต์ : อย่าให้กูจับตัวได้นะ กูจะตบยันพ่อแม่มึงเลย
'พ่อ!!!!!!"
เสียงคล้ายเด็กผู้หญิงร้องเรียกพ่อที่ข้างหูของกานต์จนเขารีบหันมองด้วยความตกใจ
"พ่อจ๋า!!!!"
กานต์ : เห้ยยยใครวะ
กานต์เริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย ถึงแม้เขาจะไม่เชื่อเรื่องผี วิญญาณ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าสิ่งที่เขาได้ยินมันไม่ปกติ
"ทำไมพ่อทำร้ายหนูละ"
พรึ่บ!!!!!
จู่ๆไฟในห้องก็ดับลง พร้อมกับปรากฏเงาดำอยู่กลางห้อง
กานต์ : มึงเป็นใคร ออกไปจากห้องกูเลยนะไม่งั้นกูแจ้งตำรวจแน่
กานต์ยังคงพยายามหลอกตัวเองว่าสิ่งที่เขาเผชิญอยู่คือใครสักคนที่แอบเข้าห้องมาและพยายามทำให้เขากลัว
"พ่อไม่อยากเจอหนูเหรอ"
เงาดำค่อยๆเคลื่อนตัวเข้ามาหากานต์ช้าๆ
"แต่หนูอยากเจอพ่อนะ"
"หนูอยากอยู่กับพ่อ"
"แต่พ่อฆ่าหนูทำไม!!!!!"
กานต์ : เห้ยยยยยยย
ด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆเงาดำก็พุ่งตรงมาที่กานต์จนเขาถอยหลังหนีแล้วสะดุดขาตัวเองล้มลงไปกองที่พื้น
"พ่อมาอยู่กับหนูไหม"
เงาดำคืบคลานเข้ามาหากานต์ช้าๆ ราวกับมนต์สะกดเมื่อกานต์ไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้ เขาได้แต่นั่งจ้องเงาดำที่เคลื่อนตัวมาใกล้ก่อนที่เงานั้นจะค่อยๆหายเข้าไปในปากของกานต์
กานต์เหลือกตาโพลงด้วยความทุกข์ทรมาน เลือดสีแดงสดค่อยๆไหลออกจากจมูกและหู สติของกานต์มีเพียงเลือนลาง คล้ายมีใครอีกคนอยู่ในร่างเพราะในตอนนี้เขาไม่สามารถบังคับตัวเองได้ สองขาเดินลากช้าๆออกไปยืนริมระเบียง พร้อมปรากฎรอยยิ้มชวนสยอง
ตุ๊บบบบ
ร่างของกานต์ลอยละลิ่วจากชั้นบนตกลงมากระแทกพื้นเสียงดัง ใจหนึ่งที่ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วเขาภาวนาขอให้ตัวเองตายๆไปซะ แต่มันคงจะง่ายเกินไป เมื่อมีเสียงกระซิบเบาๆในหู
"ดีใจไหมคะพ่อเราจะได้อยู่ด้วยกันแล้วนะ"
กานต์ : ไม่......พ่อขอโทษ ......
หน่วยกู้ภัยพาร่างคนบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน หมอและพยาบาลพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อยื้อชีวิตคนเจ็บเอาไว้
หมอ : สวัสดีค่ะ คุณอิงอร ภรรยาคุณ กานต์นิพนต์ ใช่ไหมคะ
อร : ใช่ค่ะ
หมอ : สามีของคุณเกิดอุบัติเหตุตอนนี้อยู่โรงพยาบาลครับ
อร : ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันรีบไป
ไม่นานอรก็เดินทางมาถึงโรงพยาบาล เธอเฝ้ามแงดูหมอและพยาบาลวิ่งเข้าออกห้องฉุกเฉินเพื่อยื้อชีวิตสามีของเธอ
เสี้ยวนาทีหนึ่งที่ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก อรเหลือบมองไปเห็นร่างของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งนั่งทับอยู่บนตัวจองกานต์พร้อมกับส่งยิ้มให้เธอ เธอรู้ได้ทันทีว่าเด็กคนนั้นเป็นใคร
อร : อย่าให้พ่อเขาตายนะลูก ให้มันอยู่ชดใช้กรรมที่มันทำให้แม่ต้องเจ็บ และทำให้หนูต้องตาย ให้มันทรมานไปตลอดชีวิต
.
.
.
กานต์ลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมด้วยความรู้สึกเจ็บไปทั้งตัว
อร : ฟื้นแล้วเหรอคะ อรดีใจนะคะที่คุณยังไม่ตาย
อรพูดด้วยน้ำสียงราบเรียบ
กานต์ : ลูก....
เสียงของกานต์แหบพร่าเขาพยายามจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่สามารถทำได้
อร : อรบอกแล้วไงคะ ว่าต่อให้กานต์มาขอโทษตอนนี้มันก็สายเกิดไป
อรแสยะยิ้มมองใบหน้าสามีที่นอนอยู่บนเตียง
ขาทั้งสองข้างของกานต์ไม่สามารถกลับมาใช้งานได้ เขาต้องกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต
เงาสีดำของเด็กหญิงผู้โชคร้ายปรากฎอยู่ข้างเตียงคนไข้ในวันนี้ที่ได้กลับมาอยู่กับพ่อของเขาอีกครั้ง
"หนูดีใจนะคะที่ได้กลับมาอยูากับพ่อ"
"เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป"
เสียงเล็กแหลมกระซิบที่ข้างหู ก่อนจะมีเสียงหัวเราะดังกึกก้องไปทั่วห้อง
เสียงที่มีเพียงกานต์เท่านั้นที่ได้ยิน...