เด็กหญิงวัย 13 ปี ในฉนวนกาซา เผชิญกับวิกฤตด้านมนุษยธรรม
สื่อนอกรายงานว่า "กลุ่มอิสลามิสต์ปาเลสไตน์ หรือ กลุ่มฮามาส เพิ่งได้โจมตีอิสราเอล และ อิสราเอลได้ตอบโต้ด้วยเหตุระเบิดรุนแรง ในฉนวนกาซา ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 900 ราย ประชาชนชาวกาซา ได้รับผลกระทบจากการโจมตีทางอากาศ ของอิสราเอลเป็นเวลา 4 วันเต็ม ผู้คนจำนวนมากถูกทิ้งไว้ โดยไม่มีอาหารและไฟฟ้าถูกตัด..."
"นาดีน อับดุล ลาติฟ" เด็กหญิงวัย 13 ปี ที่อาศัยอยู่ในอัลริมัล ในฉนวนกาซา กล่าวว่า "ญาติและเพื่อนของฉัน ขอให้ฉันและครอบครัวออกเดินทาง ในวันที่ 9 ต.ค. 2023 หลังจากที่อิสราเอลมุ่งเป้าไปที่พื้นที่นั้น แต่ครอบครัวของฉันตัดสินใจที่จะอยู่ที่นี่ เพียงเพราะพวกเขาคิดว่าที่อื่นไม่น่าปลอดภัยเท่าที่นี่" และ "ตอนนี้ที่กาซาไม่มีน้ำ ไฟฟ้า หรือ อินเทอร์เน็ต" และ "สถานการณ์ก็ดูเหมือนจะอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ..."
"นาดีน อับดุล ลาติฟ" กล่าวว่า "ฉันขาดการติดต่อกับพ่อของฉัน เขาทำงานในอิสราเอล แต่หลังจากที่กลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตี ครอบครัวของฉันก็ขาดการติดต่อกับเขา..."
สำนักงานบรรเทาทุกข์และการทำงานของ สหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ กล่าวว่า "โรงเรียน 83 แห่งในฉนวนกาซา ได้ถูกเปลี่ยนเป็นที่พักพิงชั่วคราว แต่ความจุของศูนย์พักพิงเพิ่มขึ้นถึง 90% ในวันที่ 9 ต.ค. 2023 กาซาไม่มีที่พักพิง สำหรับการโจมตีทางอากาศ ซึ่งแตกต่างจากเมืองต่างๆ ทางตอนใต้ของอิสราเอล โดยเฉพาะฉนวนกาซายังเป็นหนึ่งในสถานที่ ที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลก โดยมีผู้คน 2 ล้านคน อาศัยอยู่ในพื้นที่ 365 ตารางกิโลเมตร...