วิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นไทรอยด์
โรคไทรอยด์เป็นกลุ่มโรคที่เกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ ซึ่งเป็นต่อมที่อยู่บริเวณลำคอด้านหน้า ทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนไทรอยด์ที่ช่วยควบคุมการเผาผลาญของร่างกาย หากต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ ไม่ว่าจะทำงานมากเกินไปหรือน้อยเกินไป ก็อาจส่งผลต่อสุขภาพในหลาย ๆ ด้านได้
อาการของโรคไทรอยด์
อาการของโรคไทรอยด์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับชนิดและความรุนแรงของโรค โดยอาการที่พบบ่อย ได้แก่
- ไทรอยด์เป็นพิษ: มีอาการใจสั่น เหนื่อยง่าย น้ำหนักลด มือสั่น หงุดหงิดง่าย นอนไม่หลับ
- ไทรอยด์ทำงานต่ำ: มีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย น้ำหนักขึ้น ผิวแห้ง ผมร่วง ท้องผูก
วิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นไทรอยด์
การดูแลตัวเองเมื่อเป็นไทรอยด์ สามารถทำได้ดังนี้
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ ผู้ป่วยโรคไทรอยด์ส่วนใหญ่จะต้องรับประทานยาเพื่อควบคุมระดับฮอร์โมนไทรอยด์ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ผู้ป่วยควรรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรหยุดยาเอง เพราะอาจทำให้อาการแย่ลง
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ผู้ป่วยควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ เน้นผักและผลไม้สด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง อาหารรสจัด และอาหารที่มีน้ำตาลสูง
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนไทรอยด์ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ผู้ป่วยควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน สัปดาห์ละ 5 วัน
- พักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองและช่วยให้อาการดีขึ้น ผู้ป่วยควรนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
- ควบคุมความเครียด ความเครียดอาจทำให้อาการของโรคไทรอยด์แย่ลงได้ ผู้ป่วยควรหาวิธีผ่อนคลายความเครียด เช่น การทำสมาธิ การฝึกโยคะ หรือฟังเพลง
ข้อควรระวัง
ผู้ป่วยโรคไทรอยด์ควรระมัดระวังในเรื่องต่อไปนี้
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไอโอดีนสูง ผู้ป่วยโรคไทรอยด์เป็นพิษควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไอโอดีนสูง เช่น อาหารทะเล เกลือไอโอดีน และสาหร่ายทะเล
- ควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากมีอาการผิดปกติ หากผู้ป่วยมีอาการผิดปกติ เช่น น้ำหนักขึ้นหรือลงอย่างรวดเร็ว หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ หายใจลำบาก ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
สรุป
การดูแลตัวเองเมื่อเป็นไทรอยด์ สามารถทำได้โดยรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และควบคุมความเครียด นอกจากนี้ ผู้ป่วยควรระมัดระวังการรับประทานอาหารที่มีไอโอดีนสูง และแจ้งให้แพทย์ทราบหากมีอาการผิดปกติ