เรื่องที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับ “ลิปสติก”

        สวัสดีค่า กระทู้บทความนี้เราแปลมาจากบทความของต่างชาตินะคะ สกิลการแปลเราอาจจะไม่ได้ดี หากแปลผิดพลาดอะไรก็ขออภัยด้วยน้า ถ้าเพื่อนๆ อยากรู้เรื่องที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับอะไร สามารถเม้นท์บอกกันได้นะคะ

• ในอียิปต์โบราณ ทั้งชายและหญิงทาลิปสติกเป็นสัญลักษณ์แสดงสถานะ

• ในสมัยกรีกโบราณ ลิปสติกถูกชนชั้นสูงปฏิเสธและสงวนไว้สำหรับโสเภณีเท่านั้น กลายเป็นกฎหมายว่าโสเภณีต้องทาลิปสติกเพื่อให้ผู้ชายสามารถระบุตัวได้ ผู้ค้าบริการทางเพศที่ไม่ทาลิปแล้วถูกจับได้จะถูกดำเนินคดีฐาน "สวมรอยเป็นสาวอย่างไม่เหมาะสม“

• ลิปสติกเป็นที่นิยมในหมู่ชายและหญิงในกรุงโรมโบราณ แต่มีส่วนผสมที่เป็นพิษ เช่น ตะกั่ว แร่เหล็ก และโฟกัส (สาหร่ายชนิดหนึ่ง) ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ

• ส่วนผสมแรกๆ บางส่วนที่ใช้ทำลิปสติก ได้แก่ ไขมันสัตว์ ไขวัว ขี้ผึ้ง และอัญมณีบด

• ลิปสติกที่ติดทนนานชิ้นแรกของโลกได้รับการพัฒนาโดยนักเคมีหญิงชื่อเฮเซล บิชอป ซึ่งเป็นผู้สร้างสูตรนี้ขณะทำงานในห้องทดลองของแพทย์ผิวหนังหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

• มีการประมาณการว่าผู้หญิงใช้จ่ายเงินโดยเฉลี่ย 1,780 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ65,000บาท) เพื่อซื้อลิปสติกตลอดชีวิตของเธอ

• เชื่อกันว่าลิปสติกสีแดงเป็นเฉดสีที่ดูอ่อนเยาว์ที่สุด เนื่องจากความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงระหว่างสีแดงกับสีผิว

• ในช่วงปี 1960 ลิปสติกสีขาวเป็นเทรนด์สำหรับลุคที่โดดเด่น

• จากข้อมูลของ Cosmopolitan วิธีที่ง่ายที่สุดในการค้นหาเฉดสีลิปสติกนู้ดที่เหมาะกับคุณคือการจับคู่กับสีหัวนมของคุณ

• ในช่วงทศวรรษที่ 1700 ผู้หญิงบางคนในอเมริกาจะดูดมะนาวตลอดทั้งวันเพื่อทำให้ริมฝีปากแดงขึ้น