ฟ้าผ่า ร่องรอยปริศนาจากประสบการณ์ตรงของคนที่โดนฟ้าผ่า มันเกิดอะไรกับร่างกายเราบ้าง
ฟ้าผ่า ความจริงและร่องรอยปริศนาลึกลับจากประสบการณ์ตรงจากคนโดนฟ้าผ่า มันเกิดอะไรกับร่างกายเราบ้าง
ประสบการณ์โดยตรง จากคนที่โดนฟ้าผ่าแต่โชคดีที่ไม่ถึงกับเสียชีวิตแต่มันก็เป็นอะไรที่น่ากลัวสุดๆของปรากฏการณ์ธรรมชาติ ขนาดเสียงฟ้าร้อง ฟ้าคำรามลั่นเราได้ยินก็ขนลุกขนพองกลัวกันหมดแล้ว นี่มาโดนฟ้าผ่าอีกถ้าฟ้าผ่าแล้วไม่ตายมันก็จะเกิดผลกระทบต่อร่างกายแบบนี้ล่ะครับลองดูข่าวและภาพประกอบดูเอาก็แล้วกันว่ามันสยดสยองแค่ไหน
รู้หรือไม่ว่าปริมาณของคนที่ซวยจากการถูกฟ้าผ่าในแต่ละปีคือ 1 ใน 300,000 และเปอร์เซนต์ของผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ฟ้าผ่ามีมากถึง 90%
แต่บุคคลที่รอดมาได้เหล่านี้ มักจะเกิดรอยแผลที่มีลวดลายสวยงามอย่างประหลาด หรือที่รู้จักกันในชื่อ รอยลิชเทนเบบิร์ก (Lichtenberg)
ฟ้าผ่า 1 ครั้ง สามารถทำให้เกิดความร้อนในอากาศรอบๆ สูงขึ้นถึง 27,760 องศาเซลเซียส ซึ่งความร้อนระดับนี้ถือว่าสูงกว่าความร้อนบนพื้นผิวดวงอาทิตยย์ถึง 5 เท่า
ส่วนปริมาณกระแสไฟฟ้าจากเมฆถึงพื้นดิน มีมากถึง 1 พันล้านโวลต์ ลองคิดดูว่าถ้าปริมาณกระแสไฟฟ้าที่มากมายมหาศาลขนาดนี้เข้าสู่ร่างกายมนุษย์ล่ะ จะเป็นอย่างไร
เมื่อฟ้าผ่าผ่านเข้าสู่ร่างกายของคุณ มันจะเกิดวงจรลัด (Short-Circuits) สัญญาณกระแสไฟฟ้าขนาดเล็กวิ่งไปที่หัวใจ ปอด และระบบประสาท
และนั่นอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน อาการชัก สมองเสียหาย บาดเจ็บไขสันหลัง หรืออาจเกิดภาวะสูญเสียความทรงจำได้
นอกจากนั้น ความร้อน แสงสว่าง และกระแสไฟฟ้า ยังสามารถทำอันตรายต่อดวงตาของคุณได้อีกด้วย
ตัวอย่างเช่น มันสามารถเจาะหลุมในรูม่านตาของคุณ ทำให้เกิดเป็นต้อกระจกและกระจกตาขุ่นมัว
โชคไม่ดีสำหรับท่านชายทั้งหลาย เพราะฟ้าผ่ายังส่งผลให้เกิดการเสื่อมสมรรถภาพและความต้องการทางเพศลดลง
รอยลิชเทนเบิร์ก เป็นผลมาจากการที่กระแสไฟในปริมาณมหาศาลวิ่งตรงเข้าสู่พื้นผิวของร่างกาย จนทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงแตกออกจากเส้นเลือดฝอย มาสู่ผิวหนังชั้นนอก คล้ายกับรอยช้ำ
อุณหภูมิที่ร้อนจัดยังสามารถหลอมละลายโลหะทุกชนิดที่อยู่สวมใส่อยู่บนตัวได้อย่างง่ายดาย และยังส่งผลให้เกิดแผลไหม้ระดับที่สาม (Third Degree Burn) ซึ่งเป็นระดับสูงสุด
หรือบางครั้ง เหงื่อหรือน้ำฝนที่อยู่บนผิวของคุณจะระเหยออกไปอย่างรวดเร็ว บ้างก็เกิดเป็นระเบิดไอน้ำที่ทำให้เสื้อผ้าหรือรองเท้ากระจุยกระจาย ทิ้งไว้แต่ร่างที่เปลือยเปล่าของคุณ
ในปี 2011 วินสตัน เคมป์ คือหนึ่งในผู้โชคร้ายที่โดนฟ้าผ่าแบบไม่ทันได้ตั้งตัว แต่โชคดีที่เขารอดชีวิตมาได้ราวกับปาฏิหาริย์ แต่เรื่องที่น่าตลกก็คือ เขาเป็นช่างไฟฟ้าอีกด้วย
“ผมเดินออกไปข้างนอกเพื่อเก็บฟักทองของผม หลังจากนั้นผมก็กำลังจะเดินกลับเข้าบ้าน ผมรู้แค่ว่ามีฟ้าผ่าในสวนหลังบ้านของเพื่อนบ้านผม มันสว่างจ้าและมีเสียงดังมาก ผมไม่รู้สึกอะไรทั้งสิ้น”
“ผมกลับเข้ามาในบ้าน ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่เอิ่มม… แขนของผมเริ่มเจ็บ น่าจะประมาณชั่วโมงนึง ก่อนที่ผมจะเห็นรอยแผล”
“ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ผมก็เริ่มเจ็บปวดขึ้น และมันยิ่งเลวร้ายกว่าเดิมในวันต่อมา เริ่มมีแผลพุพองเกิดขึ้น และมันใหญ่มาก มันขึ้นเป็นรอยแบบนั้นนานกว่า 1 สัปดาห์”
ในสหรัฐอเมริกา มีการบันทึกเอาไว้ว่า มีจำนวนฟ้าผ่ามากถึง 25 ล้านครั้งต่อปี
ไม่ใช่แค่ลวดลายเป็นร่างกายเรา แต่เมื่อฟ้าผ่าลงพื้นหญ้า มันก็สร้างร่องรอยที่ไม่ต่างกัน
สนามกอล์ฟหลายแห่งประสบปัญหากับการโดนฟ้าผ่า เนื่องจากเป็นพื้นที่โล่ง และนั่นมักทำให้เราเห็นรอยลิชเทนเบิร์ก บริเวณหลุมกอล์ฟเสมอ
ส่วนชื่อนี้มมาจากนักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน จอร์จ คริสตอฟ ลิชเทนเบิร์ก ผู้ริเริ่มทำการศึกษาผลกระทบของร่างกายมนุษย์จากการโดนฟ้าผ่านั่นเอง
ช่วงนี้ก็หน้าฝนนะครับอากาศฤดูกาลวิปริตรวิปลาสไปหมดแล้วเดี๋ยวฝนตกเดี๋ยวฟ้าผ่าฟ้าลั่นพายุมา ทุกคนก็ต้องระวังๆกันหน่อยนะครับเดี๋ยวจะโดนฟ้าผ่าแบบคนในภาพนี้ แล้วจะมีลวดลายฝังลึกในร่างกายเอา ดีไม่ดีถ้าไม่รอดชีวิตก็ตายแล้วแต่เวรแต่กรรมเถอะครับใครโดนฟ้าผ่าก็ถือว่าซวยไป