สถานประกอบการใดบ้าง? ต้องมีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน
การควบคุมและรักษาความปลอดภัยในสถานที่ทำงานเป็นเรื่องสำคัญ ในการป้องกันอุบัติเหตุและรักษาความปลอดภัยของพนักงาน และรักษาสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย การสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยในการทำงานไม่เพียงแต่เป็นความรับผิดชอบทางองค์กรเท่านั้น แต่ยังเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายในหลายประเทศ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานที่ต้องปฏิบัติตาม เพื่อรักษาความปลอดภัยและสุขภาพของผู้ทำงาน และป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในสถานที่ทำงานได้อย่างเหมาะสม
ตามกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานฯ พ.ศ. 2549 มีการกำหนดสถานประกอบกิจการที่ต้องมีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานหรือ จป. มีข้อกำหนดในกฎหมายดังนี้:
1. สถานประกอบการในกลุ่มการผลิตและการแร่ง (Mining and Quarrying)
สถานประกอบการที่มีการทำเหมืองแร่, เหมืองหิน, กิจการปิโตรเลียมหรือปิโตรเคมีต้องจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อรักษาความปลอดภัยของพนักงานที่ทำงานในสถานที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงทางความปลอดภัยและสุขภาพ
2. สถานประกอบการในกลุ่มการทำผลิต
สถานประกอบการในกลุ่มการทำผลิต ประกอบ บรรจุ ซ่อม ซ่อมบำรุง เก็บรักษา ปรับปรุง ตกแต่ง เสริมแต่งดัดแปลง แปรสภาพ ทำให้เสีย หรือทำลายซึ่งวัตถุหรือทรัพย์สิน ต้องจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อความปลอดภัยของพนักงานและการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในการผลิต
3. สถานประกอบการในกลุ่มการก่อสร้าง (Construction)
สถานประกอบการที่มีกิจการก่อสร้าง ต่อเติม ติดตั้ง ซ่อมรำรุง หรือรื้อถอนอาคาร, สนามบิน, ทางรถไฟ, ทางรถราง, ทางรถใต้ดิน, ท่าเรือ, อู่เรือ, สะพาน, ท่อระบาย, ท่อน้ำ, โทรเลข, โทรศัพท์, ไฟฟ้า, ก๊าซ, หรือประปาต้องจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อความปลอดภัยของพนักงานและการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่สถานที่ก่อสร้าง
2. สถานประกอบการในกลุ่มการขนส่ง (Transportation)
สถานประกอบการที่มีกิจการขนส่งคนโดยสารหรือสินค้าโดยทางบก, ทางน้ำ, ทางอากาศ จะต้องจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและสินค้า
3. สถานีบริการหรือจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงหรือก๊าซ
สถานประกอบการที่มีกิจการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงหรือก๊าซต้องจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงาน
4. โรงแรม (Hotels)
โรงแรมต้องจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อรักษาความปลอดภัยของแขกและพนักงาน
7. ห้างสรรพสินค้า (Department Stores)
ห้างสรรพสินค้าต้องจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงาน
8. สถานพยาบาล (Hospitals)
สถานพยาบาลต้องจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อความปลอดภัยของผู้รับบริการและบุคลากรทางการแพทย์
9. สถาบันทางการเงิน (Financial Institutions)
สถาบันทางการเงินต้องจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อรักษาความปลอดภัยของลูกค้าและข้อมูลทางการเงิน
10. สถานตรวจทดสอบทางกายภาพ (Physical Examination Centers)
สถานตรวจทดสอบทางกายภาพต้องจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อความปลอดภัยของผู้รับบริการและแพทย์
11. สถานบริการบันเทิง นันทนาการ หรือการกีฬา (Entertainment and Sports Facilities)
สถานบริการบันเทิง, นันทนาการ, หรือการกีฬาต้องจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อความปลอดภัยของลูกค้าและผู้เข้าร่วมกิจกรรม
12. สถานปฏิบัติงานทางเคมีหรือชีวภาพ (Chemical or Biological Laboratories)
สถานปฏิบัติงานทางเคมีหรือชีวภาพต้องจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อความปลอดภัยของผู้ทำงานและการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น
13. สำนักงานที่ปฏิบัติงานสนับสนุนสถานประกอบกิจการตามข้อ 1) ถึง 12)
สำนักงานที่ปฏิบัติงานสนับสนุนสถานประกอบกิจการต้องจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อรักษาความปลอดภัยของพนักงานในสำนักงาน
14. กิจการอื่นตามที่กระทรวงแรงงานประกาศกำหนด
กิจการอื่น ๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการข้างต้น แต่หากได้รับกำหนดจากกระทรวงแรงงาน ต้องมีการจ้างเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน เข้ามาทำงานในสถานประกอบการ
สรุป:
การรักษาความปลอดภัยในสถานที่ทำงานเป็นเรื่องจำเป็นและถูกกำหนดโดยกฎหมายในประเทศไทย แต่ไม่ใช่ทุกสถานประกอบกิจการจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในทุกๆระดับ ซึ่งระดับเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานขึ้นอยู่กับประเภทของการประกอบกิจการและจำนวนลูกจ้างในสถานประกอบกิจการนั้น ๆ โดยที่บางสถานประกอบกิจการอาจต้องมีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับต่างๆ ในองค์กรของพวกเขา เพื่อให้มั่นคงความปลอดภัยในการทำงานและป้องกันอุบัติเหตุในธุรกิจของคุณ