มนตราวายสะ ตอนที่ 6 ความเชื่อผิด ๆ (3)
+++++++++
สุบรรณพยักหน้า แก้วตาจึงเดินกระฟัดกระเฟียดออกไป แต่ครู่หนึ่งก็เดินกลับเข้ามาพูดกับคนที่นั่งหน้าบึ้งที่โซฟาด้วยน้ำเสียงติดจะซุกซนว่า “ถึงเรื่องผู้ชายสุดหล่อมาดเท่คนนั้นกับยัยนกฉันจะไม่รู้ แต่เรื่องของคุณกับยัยนกฉันรู้ดีนะคะ”
“รู้ว่าไง” สุบรรณที่ดีใจจนลืมตัวลุกขึ้นเดินเข้าไปอีกฝ่ายอย่างมีความหวัง และหวังว่าอาจจะได้ยินอะไรดี ๆ
“รู้ว่า ยัยนกไม่เคยสนใจคุณเลยไงคะ” พูดจบแก้วตาก็เดินผละออกมาพร้อมกับหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ ปล่อยให้คนที่อุตส่าห์รอคอยอย่างมีความหวังต้องหัวเสียอยู่ลำพัง
“ยัยผู้หญิงปากเสีย”
เสียงดังโหวกเหวกปนสะอื้นทำให้สุบรรณที่กำลังนั่งท่องอินเทอร์เน็ตฆ่าเวลาสลับกับเดินมาส่งยิ้มและพูดคุยกับสกุณาเป็นระยะ ๆ เงยหน้าขึ้นมามองอย่างสงสัย
“คุณหมอต้องช่วยน้องให้ได้นะคะ” ผู้หญิงที่ตาบวมแดงเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักบอกคนเป็นหมอทั้งน้ำตา
“ผมจะทำเต็มที่ครับ” คุณหมอหนุ่มบอกก่อนจะเดินเข้าห้องผ่าตัดที่คราวนี้เรียกพิกุลมาเป็นผู้ช่วยอย่างต้องการให้เวลาสุบรรณได้มีเวลาอยู่กับสกุณามากเป็นพิเศษ ที่นาน ๆ จะได้มีอะไรแบบนี้ที
“มันต้องไม่เป็นอะไร”
สุบรรณมองผู้ชายที่คงจะเป็นแฟนของหญิงสาวที่กำลังนั่งร้องไห้ฟูมฟายหน้าห้องผ่าตัดพร้อมกับช่วยกันภาวนาให้สัตว์เลี้ยงของทั้งคู่ปลอดภัย ก่อนจะเดินเลี่ยงออกผ่านโซนชอปขายของสัตว์เลี้ยงไปหาสกุณาที่กำลังทำงานอยู่ และที่นั่นเองทำให้เขาสะดุดตาเข้ากับอีกาที่อยู่ในกรง มันกำลังจ้องมาที่เขาอย่างไม่เป็นมิตรแล้วส่งเสียงร้องดังลั่นคลินิก
กา! กา! กา!
“หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะเจ้าสัตว์ปีกชั้นต่ำ” สุบรรณสบถด่ามันเสียงลอดไรฟัน แม้จะเป็นสัตว์ประเภทเดียวกัน แต่เขาก็ไม่ได้นิยมชมชอบพวกมันนัก นอกจากชื่อเสียงเรื่องความอัปมงคลแล้วพวกมันยังขึ้นชื่อว่าดื้อด้านหยิ่งยโส ทั้งที่ไม่ได้มีเกียรติอะไรเลย
กา! กา! กา!
แต่ใช่มันจะฟัง ยังคงร้องจนลูกค้าในคลินิกต่างพากันหันมองอย่างแปลกใจ เพราะไม่คิดว่าจะมีอีกาอยู่ที่นี่ บางคนถึงกับกระซิบคุยกันว่า “จะมีใครตายหรือเปล่าคะเนี่ย”
“อาจจะไม่ใช่คน แต่เป็นสัตว์หรือเปล่าคะ” อีกฝ่ายกระซิบตอบกลับพร้อมกับมองไปยังสองสามีภรรยาที่เพิ่งนำสุนัขเข้ามารับการรักษาอย่างเร่งด่วนเมื่อครู่
สกุณาที่กำลังบันทึกรายงานประจำวันของสัตว์แต่ละตัวขมวดคิ้วมุ่นเมื่อได้ยินเรื่องแบบนั้น แม้จะไม่ค่อยพอใจแต่ก็ได้แต่เงียบไม่แทรกขึ้น เดินไปหาเจ้าอีกา “เป็นอะไรร้องเสียงดังเชียว คนตกใจหมดเลย” คุยกับมันพลางยกนิ้วชี้ขึ้นแตะที่ริมฝีปากของตัวเอง เป็นการบอกให้มันเงียบ ซึ่งมันก็ทำราวกับรู้นอกจากจะหยุดร้องแล้วยังก้มหน้าลงเหมือนกับสำนึกผิด “หิวเหรอ” เธอยิ้มพลางใช้นิ้วไล้ที่ปีกของมันอย่างเอ็นดู และภาพนั้นทำให้สุบรรณรู้สึกขัดตาขัดใจจนต้องเอ่ยทัก
“ไม่คิดว่าจะมีคนกล้าเลี้ยงพวกมันนะครับ เขาไม่กลัวกันหรือไง” พยายามทำน้ำเสียงให้นิ่งเรียบแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ติดจะเย้ยหยัน
“กลัวอะไรคะ” สกุณาถามกลับด้วยน้ำเสียงเข้มนิด ๆ
แต่ยังไม่ทันที่สุบรรณจะได้ตอบเสียงร้องไห้โฮของหญิงคนเมื่อครู่ก็ดังขึ้น “ตายแล้ว”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อ่านล่วงหน้าที่เว็บอื่น ๆ
ธัญวลัย : https://bit.ly/3UbaXxJ
Readawrite : https://bit.ly/3Vcevkz
เด็กดี : https://bit.ly/3gBJtUi