หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

รู้โรคเมาตอซัง เทคนิคการผลิตข้าวให้ผลผลิตสูง

เนื้อหาโดย sairung11

โรคเมาตอซัง 

 

โรคเมาตอซัง 

 

          เป็นโรคพืชที่พบได้บ่อยในนาข้าวในประเทศไทย เป็นโรคที่ไม่มีเชื้อสาเหตุ เกิดจากความเป็นพิษของสภาพดินและน้ำ เกิดจากกระบวนการหมักสลายของเศษซากพืชในนาข้าวที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดสารพิษ เช่น สารซัลไฟด์ (H2S) ไปทำลายรากข้าว ทำให้รากเน่าดำ รากไม่สามารถดูดธาตุอาหารจากดินได้ ต้นข้าวจึงแสดงอาการขาดธาตุอาหาร

 

การแก้ปัญหาโรคเมาตอซัง

 

          การแก้ปัญหาเรื่องเมาตอซังแบบไม่ยาก และเข้าใจง่าย ทำแล้วเห็นผลภายใน 7 -10 วัน ข้าวจะเริ่มค่อยๆ ดีขึ้นทุกวัน

ลักษณะการเกิดข้าวเมาตอซัง ข้าวจะมีอาการเหลืองทั่วทั้งแปลง รากดำ ตรงไหนฟางหนาจะเหลืองค่อนข้างหนักมาก ตรงไหนฟางน้อยจะเหลืองน้อยหน่อย แต่ภาพรวมคือเหลืองทั้งแปลง และจะต้องเหลืองแบบแตกต่างจากการเข้าทำลายของโรค

 

วิธีการดูว่าเป็นเมาตอซังหรือไม่

 

          การเช็คว่าใช่ข้าวเกิดกระบวนการเมาตอซังหรือไม่ ให้ลงไปในแปลง เดินเหยียบนาในข้าวเพื่อเช็คว่าดินตรงนั้นเกิดฟองอากาศจำนวนมาก หรือไม่ ถ้ามีฟองอากาศนั่นคือใช่ (แก๊สไข่เน่า) และภายในแปลง น้ำจะร้อนเพราะฟางและดินอมความร้อน เอาไว้ในแปลง ดึงข้าวมาดู จะไม่ค่อยมีรากใหม่ รากส่วนใหญ่ดำ ไม่มีรากขาว

 

สาเหตุการเกิดโรคเมาตอซัง

 

          เพราะฟางเกิดกระบวนการหมักแบบไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดแก๊สและความร้อนภายในดิน ตัวการสำคัญที่ให้เกิดกระบวนการนี้ คือ ฟางกับ น้ำ  ถ้ามีแต่น้ำไม่มีฟางไม่เกิดกระบวนการเมาตอซัง ถ้าไม่มีฟาง มีแต่น้ำ ก็ไม่เกิดเมาตอซัง

          เพราะฉะนั้นต้องตัดอย่างใดอย่างหนึ่งออกในช่วงข้าวเล็กและเริ่มแตกกอ เพื่อไม่ให้เกิดกระบวนเมาตอซัง

ง่ายสุดคือตัดน้ำออกจากแปลง เพราะเราไม่สามารถเอาฟางออกจากแปลงได้แล้ว การแก้ง่ายที่สุดคือแก้ที่น้ำ

 

วิธีการแก้ปัญหาเมาตอซัง

 

   1. ปล่อยน้ำให้เหลือในแปลงแบบน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ หรือน้ำคลุกคลิก ปล่อยให้เหลือแค่หว่านปุ๋ยละลายเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องให้มีน้ำมากเลย

   2. เมื่อน้ำได้ระดับตามที่ต้องการ ให้หว่านปุ๋ย ครบสูตร 16-16-8, 16-8-8,หรือ สูตรอะไรก็ได้ที่มีครบสูตรแบบนี้ (เป็นวิธีการล่อลากใหม่) หว่านพราวๆ บางๆ เท่านั้น โดยประมาณ 5-7 ก.ก ต่อไร่พอ ไม่เน้นปริมาณมาก เพราะช่วงนี้ระบบรากไม่สมบูรณ์ ระบบบรากข้าวเสียหายค่อนข้างหนัก และการหว่านปริมาณมาก ข้าวไปจะเอาปุ๋ยไปใช้ไม่ทัน เกิดความเสียหาย หรือสูญเสียมากกว่า

  3. หลังหว่านปุ๋ยได้ 2-3 วันหรือช่วงดินชื้นๆ ให้พ่นฮอร์โมนพีเอนบูม 1.5-2 เท่า เสริมทางใบเข้าไปด้วย เพราะระบบรากเสียหาย ต้องให้กินทางใบทดแทนทางรากก่อน การพ่นทางใบพืชเอาไปใช้ได้ทันที เข้าดูดซึมเข้าทางปากใบ เวลาพ่น ทุกคนทราบแล้วว่าเวลาไหนเหมาะสม ช่วงใบเปิด 

  4.ปล่อยให้ดินแห้งแบบแตกระแหงไปเลย แตกจนดินขาว เพื่อระบายแก๊สที่อยู่ในดินออกให้หมด ปล่อยแห้งอย่างน้อย 1 อาทิตย์ ขึ้นไป 2 อาทิตย์ยิ่งดี ดินไม่แตกห้ามเอาน้ำใส่เด็ดขาดเพราะจะแก้ปัญหานี้ไม่ได้

  5. เมื่อดินแตก จนดินเป็นร่องลึก เอาน้ำเข้าในระดับน้อยๆ หรือระดับน้ำคลุกคลิก ให้หว่านปุ๋ยอีก 1 รอบ ใช้สูตรเดิม ใช้ปุ๋ยครบสูตร แต่เพิ่มปริมาณมากขึ้น จากเดิม 1 เท่าตัว เพื่อให้พืชได้กินปุ๋ยทางดิน การเติม N จะช่วยสร้างต้น สร้างใบ เติม P ช่วยในกระบวนการสร้างราก สร้างดอก การผสมติด เติม K สร้างความแข็งของเชลล์ และสร้างแป้ง สร้างน้ำหนัก

  6. เมื่อหว่านปุ๋ยแล้ว 2-3 วันเพิ่มระดับน้ำเพื่อให้ปุ๋ยเคลื่อนย้ายที่ไปหารากพืช และเป็นการล่อรากออกด้านข้าง และด้านลึก

  7.ปรับแต่งตามหน้างาน ตรงไหนไม่เสมอต้องปรับแต่งให้ข้าวเสมอด้วยวิธีอื่น

 

          การแก้ปัญหาโรคนี้ไม่ยาก แต่ต้องใช้เวลา และต้องใจแข็งพอเรื่องงดน้ำให้แห้ง รับประกันเพราะแก้เรื่องนี้มานักต่อนักแล้ว

ปัญหาคือฟาง ลองกลับไปคิดว่าเราจะทำยังไงกับมันได้ ให้มันเหลือในแปลงน้อยที่สุด เมื่อเราต้องเร่งรอบทำ เช่น

  1.อัดฟางก้อน

  2.กระจายฟางแล้วเผา

  3. พักแปลงรอน้ำ แล้วเพื่อไถกลบเพื่อให้ผุแล้วกลายเป็นปุ๋ย

  4.ตีหมักทิ้งไว้อย่างน้อย 2 อาทิตย์ และราด EM ช่วยย่อยฟาง

  5.ถ้าเร่งรอบควรทำทุกวิธีที่กล่าวมา รับรองไม่เกิดเมาตอซังแน่นอน

          แต่ถ้ามีเวลาพักแปลง 2-3 เดือน เพราะต้องรอน้ำ ปล่อยทิ้งให้ยืนคาต้นเลยครับ น้ำค้างกับแดดจะทำให้ต้นและฟางข้าวมันยุบตัว และผุไปเอง นี่คือการแก้ปัญหาแบบมืออาชีพต้องเข้าใจว่ามันเกิดยังไง และต้องแก้แบบไหนที่ตรงจุด

เนื้อหาโดย: sairung11
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
sairung11's profile


โพสท์โดย: sairung11
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: teetete, sairung11
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชนวิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่งรู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่ฌอง ฟรังซัวส์ ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา อ้าง “กัมพูชาไม่มีวันแพ้ และไทยก็ไม่มีวันชนะ”รมต.เขมร คุยโว! เหตุที่ "ไทย" ต้องใช้เครื่องบินรบ..เพื่อปกปิดความพ่ายแพ้ในสมรภูมิภาคพื้นดินเจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)ดราม่าข้ามพรมแดน! โซเชียลไทยตั้งคำถาม เหตุใดกัมพูชาจึงแสดงท่าทีรุนแรง ทั้งที่อดีตเคยมีกรณีทำลายศาสนสถานบนเกาะกงเผยสถิติเลขออกบ่อย ย้อนหลัง 20 ปี..งวดวันที่ 2 มกราคม 69เมียและลูกเล็ก 2 คนถูกฆ่ๅในชั่วข้ามคืน ผัวตกตะลึงเมื่อรู้ว่าคนร้ายคือใครอันตรายใกล้ตัว เตือน 3 ประเภท ชามใส่อาหาร ที่หลายบ้านยังใช้ เสี่ยงสารพิษสะสมไม่รู้ตัวกฎหมายใหม่"การส่งข้อความลๅมกอนๅจๅร" อาจติดคุก เริ่มใช้ ต้นปี 69
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
รมต.เขมร คุยโว! เหตุที่ "ไทย" ต้องใช้เครื่องบินรบ..เพื่อปกปิดความพ่ายแพ้ในสมรภูมิภาคพื้นดินอันตรายใกล้ตัว เตือน 3 ประเภท ชามใส่อาหาร ที่หลายบ้านยังใช้ เสี่ยงสารพิษสะสมไม่รู้ตัวรถยนต์ที่ติดป้ายฮานุกกะห์ถูกวางเพลิงในเมลเบิร์นนี่คือเรื่องราวการเอาชีวิตรอด กลางท้องทะเลที่น่าเหลือเชื่อที่สุดในประวัติศาสตร์การเดินเรือสมัยใหม่ดราม่าข้ามพรมแดน! โซเชียลไทยตั้งคำถาม เหตุใดกัมพูชาจึงแสดงท่าทีรุนแรง ทั้งที่อดีตเคยมีกรณีทำลายศาสนสถานบนเกาะกงหนุ่มรัสเซียฉีดวาสลีน 6 ลิตรเข้าแขนเพื่อ "กล้ามใหญ่ไว" สุดท้ายกลายเป็นป๊อปอายเวอร์ชั่นสยองขวัญ แขนเน่า-แข็งเหมือนไม้!
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
อันตรายใกล้ตัว เตือน 3 ประเภท ชามใส่อาหาร ที่หลายบ้านยังใช้ เสี่ยงสารพิษสะสมไม่รู้ตัวทึ่งทั่วโลก :แม่น้ำสองสี "อารากวี" (Aragvi) ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามน่าทึ่งในประเทศจอร์เจียทึ่งทั่วโลก : "โบโรบูดูร์" ศาสนสถานของศาสนาพุทธนิกายมหายานที่ใหญ่ที่สุดในโลกการออกกำลังกายของผู้สูงวัย
ตั้งกระทู้ใหม่