ความจำเป็นทางยุทธศาสตร์ กองทัพเรือไทย ต้องจัดหาเรือดำน้ำ
ความจำเป็นทางยุทธศาสตร์ กองทัพเรือไทย ต้องจัดหาเรือดำน้ำ
ภารกิจที่สำคัญของกองทัพเรือ คือการรักษาเส้นทางคมนาคมของประเทศทางทะเลซึ่งใช้ในการลำเลียงขนส่งสินค้าในยามสงบกับยุทโธปกรณ์ในยามสงคราม ทั้งเข้าและออกจากประเทศ ซึ่งหากไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้ ก็จะส่งผลกระทบด้านเศรษฐกิจของประเทศและความเป็นอยู่ของประชาชน
ตลอดจนขีดความสามารถของกองทัพไทยในยามสงคราม ซึ่งจำเป็นต้องพึ่งพายุทโธปกรณ์ และยุทธปัจจัยจากภายนอกประเทศ นอกจากการที่ประเทศต่าง ๆ ตื่นตัวในการแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติในทะเล ทำให้เกิดการอ้างกรรมสิทธิ์เขตเศรษฐกิจจำเพาะและเขตไหล่ทวีปรวมไปถึงเกาะต่าง ๆ ซ้อนทับกัน
สถานการณ์เหล่านี้ล้วนแต่อาจจะทำให้เกิดการใช้กำลังทางเรือต่อสู้กันได้ จึงได้กำหนดยุทธศาสตร์ทางเรือในการป้องกันประเทศด้วยการวางกำลังป้องกันเป็นชั้น ๆ โดยชั้นนอกสุดจะเป็นการใช้เรือดำน้ำ
เนื่องจากเรือดำน้ำจะถูกข้าศึกตรวจพบและทำลายได้ยากตลอดจนสามารถปฏิบัติการในพื้นที่ที่มีกำลังทางอากาศของข้าศึกปฏิบัติการอยู่อย่างหนาแน่นได้และเพื่อให้สนองตอบยุทธศาสตร์ดังกล่าว กองทัพเรือจึงมีความจำเป็นต้องจัดหาเรือดำน้ำมาใช้ราชการ
การเตรียมกำลังทางเรือของ กองทัพเรือเพื่อป้องกันประเทศ มีความจำเป็นต้องพัฒนากำลังรบให้มีความสอดคล้องและสมดุลย์กัน ทั้งบนผิวน้ำในอากาศ และใต้ทะเล กล่าวคือกำลังรบทางเรือจะต้องมีทั้งส่วนที่เป็นเรือรบผิวน้ำ เครื่องบินที่ใช้ปฎิบัติการในทะเล และเรือดำน้ำ
โดยจะต้องมีจำนวนและประเภทที่สมดุลย์สอดคล้องกันจะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้นไม่ได้ และในปัจจุบันนี้ กองทัพเรือได้จัดหาเรือผิวน้ำและเครื่องบินนาวีเพียงพอในการปฏิบัติภารกิจจนถึงระดับหนึ่งแล้ว จึงมีความต้องการจัดหาเรือดำน้ำเข้าประจำการเพื่อให้เป็นกำลังรบที่สมบูรณ์มีประสิทธิภาพพร้อมที่จะใช้ในการป้องกันประเทศ
ซึ่งจากการติดตามความเคลื่อนไหวด้านการทหารของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคจะเห็นได้ว่า หลายประเทศได้ให้ความสนใจในการเตรียมการ และจัดหาเรือดำน้ำมาใช้งานในกองทัพเรือของตน เช่น เวียดนามได้ส่งกำลังพลไปฝึกอบรมการปฏิบัติงานในเรือดำน้ำที่สหพันธรัฐรัสเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ได้จัดหาเรือดำน้ำเข้าประจำการแล้วจำนวนหนึ่ง และอินโดนีเซียก็มีเรือดำน้ำเช่นกัน สรุปแล้วประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้ มีเรือดำน้ำมาใช้ราชการในกองทัพเรือทั้งสิ้น
นอกจากนี้เรือดำน้ำจะเป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ในการป้องกันได้เป็นอย่างดี การที่กองทัพเรือมีเรือดำน้ำจะทำให้ประเทศที่เป็นศัตรูไม่กล้าที่จะส่งกำลังทางเรือเข้ามาปฏิบัติการรุกรานอาณาเขตทางทะเลของประเทศ และแหล่งทรัพยากรที่สำคัญของไทย
มีข้อเท็จจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้คือ การที่ประเทศไทยต้องอาศัยการคมนาคมทางทะเลเป็นหลักสินค้าเข้า สินค้าออกรวมทั้งยุทธปัจจัยที่ทุกกองทัพต้องใช้ ต้องอาศัยการลำเลียงทางทะเลเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ จากเหตุการณ์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อประเทศไทยต้องขาดแคลนเครื่องอุปโภคบริโภคอย่างหนัก
อันเนื่องมาจากเส้นทางคมนาคมทางทะเลถูกตัดขาดนั้น ยังคงเป็นบทเรียนที่คนไทยไม่อาจลืมได้ และในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 นี้เอง ที่ ร.ล.สมุย ของกองทัพเรือได้ถูกจมลงด้วยตอร์ปิโดจากเรือดำน้ำของฝ่ายพันธมิตรในอ่าวไทยในระหว่างการลำเลียงน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าประเทศจากสิงคโปร์
นอกจากความสำคัญของทะเลในฐานะเส้นทางคมนาคมดังกล่าวแล้ว ปัจจุบันทะเลยังเป็นแหล่งทรัพยากรที่มีมูลค่ามหาศาล อันเป็นเหตุให้ทุกประเทศที่มีอาณาเขตติดทะเลต่างก็พากันอ้างสิทธิครอบครองจนเป็นเหตุให้มีความขัดแย้งโดยทั่วไป
ทั้งหมดนี้อาจเป็นสาเหตุของความขัดแย้งในอนาคตได้ทั้งสิ้นประเทศไทยจึงไม่อาจอยู่ในฐานะที่ตั้งอยู่ในความประมาทได้ เช่นเดียวกับทุกประเทศในภูมิภาคแถบนี้ที่ต่างก็ดำเนินการเสริมสร้างกำลังส่วนที่ยังขาดอยู่ของตน
กองทัพเรือเป็นเป็นเครื่องมือของประเทศในการดำเนินนโยบายเพื่อความมั่นคง เป็นอำนาจต่อรองที่สำคัญในการดำเนินการเพื่อรักษาสิทธิและผลประโยชน์ของชาติทางทะเล การที่กองทัพเรือจะปฎิบัตหน้าที่ได้สมบูรณ์แค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับการมีกำลังที่สมดุล เรือดำน้ำจึงยังคงเป็นสิ่งสำคัญของแนวป้องกันทางทะลที่ยังขาดอยู่