ดักหนูเจอผี !!
เป็นครั้งแรกที่ผมเล่าให้คนอื่นฟัง ที่ไม่รู้จักกันเมื่อไม่นานมานี้ไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไร แต่ที่ผมจะเล่าไปคือเรื่องจริง ประสบการณ์จริงตอนนั้นผมอายุ 20 ปีได้ครับ ย้อนกลับไปประมาณสิบสาม สิบสี่ปี ผมเป็นคนชอบยิงนกตกปลาตามประสาของคนบ้านนอกล่ะครับมีเพื่อนรุ่นน้องคนนึง ไอ้นี่มันไม่ค่อยพูดค่อยจาไม่ว่าผมจะชวนไปไหนมันไปด้วยหมดคงจะเป็นเพราะมันชอบหากินเหมือนผมกะมัง เป็นคนเฮฮาด้วยครับ ผมเลยชอบมัน
วันนึงผมได้ปืนแก็ปมา ก็เลยไปชวนมันยิงหนูกัน จำได้ว่าเป็นเดือนพฤศจิกายน อากาศก็จะเย็นนิดนึง ตอนเช้าก็ขับรถมอไซค์ มอไซค์คันนี้ แม่ของเพื่อนผมพึ่งดาวน์ให้ใหม่ๆ ก็เลยไปหาที่ทางกัน ก็เห็นที่ๆนึง เป็นป่าอ้อยสลับกับนาข้าวที่เหลือแต่ตอเพราะเก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว ก็พากันลงไปดูว่ามีคนมาอ่อยไว้หรือยัง (รู้จักนะครับอ่อยหนู มันคือการที่คนเอาข้าวแกลบมากองประมาณกำมือนึงไว้ทางหนูวิ่งผ่านหรือวางไว้ตรงรอยหนูกัด) เดินลงไปดูปรากฏว่าไม่มีครับ รกมาก และมีที่ที่ถูกไถพรวนรอปลูกอ้อย เดินลงไปอีกจะเป็นลำห้วยเล็กๆ ข้ามลำห้วยไปจะเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ต้นไม้ขึ้นปกคลุมบ้าน ซึ่งคงจะไม่มีคนอยู่แน่ ก็เลยโอเค
ตรงนี้แหละ ก็กลับบ้าน ชาร์จไฟแบต ชาร์จหน้าไฟไว้ เตรียมตัว ก็เอาข้าวเปลือกมาครึ่งกระสอบผสมรำ นิดนึงให้มันหอมๆขึ้นหน่อย ถึงเวลาบ่ายสาม เพื่อนก็มารับ ก็พากันถางทางวางข้าวเปลือก เสร็จสิ้นประมาณเกือบๆห้าโมงเย็น ผมก็ให้เพื่อนไปเอาน้ำเอาข้าวและแอลกอฮอร์นิดนึงที่บ้าน ที่ที่ผมอ่อยหนูมันห่างจากบ้านประมาณสามสี่ถึงห้ากิโลนี่ล่ะ ผมก็หาฟืนไฟ รอ ถึงเกือบๆทุ่มผมก็ยัดดินปืนใส่ปืนแก็บ เดินดูตรงที่เรากองข้าวเปลือกไว้ ประมาณยี่สิบกองก็ไม่เจออะไร
กลับมาที่กองไฟก็เห็นเพื่อนนั่งรออยู่ โอเค ก็พากันดื่มนิดนึง ก่อนที่จะดื่ม ผมก็ รินเหล้าให้เจ้าที่ด้วยนะ และบอกว่า ปู่เอ้ย ย่าเอ้ย วันนี้ลูกหลานมาหาอยู่หากิน ให้ลูกหลานได้กลับบ้านสักสามสี่ตัวด้วยนะครับ สาธุ สองทุ่ม เพื่อนผมก็ไปเดินเลาะ ผมก็นั่งรอที่กองไฟ สาบานผมยังไม่เมา ช่วงเวลานั้นประมาณ สามถึงสี่ทุ่มประมาณนี้ เห็นคนเดินออกมาจากป่าอ้อย มันคนละทางกับทางที่เพื่อนไป ผมเลยเอาไฟส่องดูว่าใคร ส่องไปเป็นคนแก่ครับผมสั้น ใส่เสื้อขาวเดินออกมาแล้วยืนนิ่งก้มหน้า ห่างจากผมประมาณห้าสิบเมตร ยืนนิ่งก้มหน้า แล้วก็ค่อยๆแหงนหน้าขึ้น ค่อยๆอ้าปากแล้วมองมาทางผม พร้อมกับค่อยๆสูงขึ้นสูงขึ้น จนสูงกว่าปลายอ้อยแล้วก็หายไปต่อหน้าต่อตา หัวใจผมเต้นซะเกือบหลุดออกมาจากอก เผลอร้องออกมา แล้วลุกขึ้น รีบดับไฟ เก็บของ แล้ววิ่งไปหาเพื่อนทันที ไปถึงก็บอก ป่ะๆๆ กลับบ้านเดี่ยวกูเล่าให้มึงฟัง เพื่อนมันก็ทำท่า งงๆ แล้วบอก อะไร ไม่มีไรหรอก จะกลับได้ไง หนูยังไม่ได้สักตัวเลย ผมก็ยืนยัน ยังไงก็จะกลับอย่างเดียว คิดถึงบ้านมากกกตอนนั้น เพื่อนมันก็บอกว่า งั้นถ้าจะกลับก็กลับ แต่ต้องหายิงนกสักตัวสองตัวก่อน ผมก็บอกกับมันว่าได้ๆ ยังไงก็ได้ แล้วเดินอ้อมไปหารถ ผ่านตรงที่เขาไถพรวนเตรียมจะปลูกอ้อย ก็มีต้นไม้ แล้วเพื่อนมันก็ส่องหานก ผมก็ยกมือไหว้มั่วๆอยู่ข้างหลังมัน ไม่ห่าง แล้วไฟผมก็ดับ ผมก็พูดขึ้นว่าห่าเอ้ยย มาดับอะไรตอนนี้ผมคิดในใจ แล้วก็เคาะๆ หน้าไฟ แล้วก็ติดพรึ่บ ส่องไปทางร่องอ้อยไถพรวนดินไว้ สิ่งที่เห็นครับ เห็นคนแก่ แบบหนังติดกระดูก คลานในร่องอ้อย ลักษณะเหมือน ท่าคลานของ สไปเดอร์แมนอะไรแบบนั้นเลยครับ แหงนหน้าอ้าปาก มองผมอยู่ในระยะ สิบเมตร เสื้อผ้าเก่าซีดจนไม่รุ้ว่าเป็นสีอะไรและขาด ผมทำอะไรไม่ถูก ตกใจได้แต่จ้องตากัน ประมาณห้าหกวิ แล้วไฟผมก็ดับอีกครั้ง
ผมรู้สึกหนาวๆเย็นผิดปกติ แต่เหงื่อไหลยังกับผมพึ้งอาบน้ำมา ล้มลงนั่งกับพื้นเพราะขามันสั่นมาก น้ำตาไหลร้องไห้ เพื่อนผมหันมาเห็นผม แล้วถาม เป็นอะไรผมสะอึก พูดไม่ได้เลยครับตอนนั้น เพื่อนมันพูดอีกเหมือนมันหงุดหงิด อะไรอีก ถ้าเป็นผี กูจะยิงให้ไส้แตก ผมอุทาน โอ้ยยยย แล้วไฟ มันก็ดับ ดับทั้งคู่ทีนี้ มันก็เคาะๆหน้าไฟ แล้วหน้าไฟ ทั้งของผมและมันติดทั้งสองพร้อมกันครับ ทั้งที่ของผมไม่ได้ทำอะไร ส่องไปที่ทางเดียวกัน มันจะเป็นต้นกล้วยประมาณสามสี่ต้น ข้างหลังจะเป็นลำห้วย หน้าต้นกล้วย เป็นคนครับเยอะมาก ผมไม่ได้นับ ทั้งนั่ง ยืน บางคนสูงมาก บางคนอ้าปากกว้างมาก และทุกๆคนหันมาทางพวกผม หมด พร้อมเสียงร้องแบบเหมือนคนกินข้าวเสร็จแล้วเรอ มีเสียงหัวเราะแซกมาบ้าง เพื่อนผมวิ่งทิ้งผมครับ ผมลุกขึ้นได้ก็วิ่งตามหลังมัน จะล้มเหล่ไม่ล้มเหล่ ขาอ่อนครับ แล้วผมก็วิ่งไปเห็นเพื่อนผม มันนอนเหมือนลอดอะไรบางอย่าง ผมวิ่งไปใกล้ๆ ก็เห็น อ๋อ มันลอดลวดหนาม ผมไปถึง พุ่งหลาวข้ามไป แต่ไม่พ้นครับ ได้แผลที่ต้นขา เป็นแผลเป็นมาจนถึงทุกวันนี้ ล้มกลิ้ง และวิ่งต่อแต่เพื่อนมันยังลอดไม่พ้นนะครับ ผมก็วิ่งแซงมันไป มันตะโกน ไล่หลัง รอด้วย รอด้วย แล้วกุญแจรถอยู่ไหน ชิบหายอยู่ในกระเป๋า ที่ผมทิ้ง ตั้งแต่เริ่มวิ่งล่ะ ผมไม่ตอบวิ่งอย่างเดียว ในใจผมก็ห่วงมันอยู่นะครับ ผมก็หันหลัง มองไปที่มัน มันก็จุงรถวิ่งครับ แต่สิ่งที่ตามหลังมันมา เป็นคน เยอะมากครับ แต่สิ่งที่เห็นเด่นชัด มีคนตัวแดง วิ่งสี่ขา แขนนี้ยาวมากครับ ชัดมาก เหมือนเรืองแสงเป็นสีแดง ผมก็ตกใจใบไม้ข้างหน้าผมหล่น ผมก็มองไปที่ข้างบน เป็นตัวแดงๆ แขนยาวๆ ขย่มต้นไม้ พร้อมกับร้องเสียงดังมากเหมือนคนเจ็บปวดน่ะครับและกระโดดเกาะกิ่งไม้เหมือนลิงอ่ะครับ จากกิ่งนั้นไปกิ่งนี้ตีคู่กับผม อารมณ์พระเอกไม่มีหรอกครับช่วงนั้นผมวิ่งต่อไม่คิดห่วงใครละ วิ่งประมาณ สองโลถึงบ้านคนครับเพื่อนผมตามมาติดๆ ไม่มีรถ แสดงว่ามันทิ้งรถแต่ตอนไหนไม่รู้ หยุดพักเหนื่อย หอบ สนัขก็เห่า เจ้าของบ้านออกมาดูเห็นผมกับเพื่อน เหมือนเขารู้ว่าผมไปโดนอะไรมา แล้วบอกจะขี่รถไปส่งบ้าน พรุ่งนี้ค่อยบอกญาติมาเอารถที่นี่ แล้วผมก็บอกว่าครับๆ น้ำตาไหลเลยตอนนั้น ขึ้นรถ รถเป็นรถชาเล้งครับสามล้อ กลับถึงบ้าน ก็เล่าให้ญาติฟัง เล่าปุ้บหลับปุ๋ย เช้ามา เป็นไข้เลยครับ สามวันก็หาย ญาติเลย ทำพิธี บายศรีสู่ขวัญให้ ก่อนจะทำยายบอก ให้พาไปที่เกิดเหตุ ผมก็ไม่อยากไป แต่ทางญาติบอกยังไงก็ต้องไป ผมก็จำยอมในที่สุด ในขณะนี้เพื่อนผม ยังเป็นไข้อยู่ ทำพิธีคนเดียวญาติมันบอกให้มันหายไข้ก่อนค่อยทำและรถมันก็กลับภูมิลำเนาแล้วอยู่ในบ้าน
ไปถึงที่เกิดเหตุยายถาม ตรงที่ตกใจสุด ผมก็บอกตรงนี้ ตรงที่ผมเห็นไอ้ตัวแดงๆนั่นแหละครับ ยายก็เอาสวิงทีเขาใช้ช้อนปลา ทำท่าช้อนอากาศน่ะครับ แล้วบอกมาเด้อขวัญเอ้ย กลับบ้านมาอยู่นำกันคือเก่า เย็นมาก็มีหมอธรรมขวัญมาทำพิธีให้ มาเด้อขวัญเอ้ยย ผูกแขนกันไปตามพิธี เสร็จปุ้บ เช้ามา บวชครับ เพื่อนก็บวชแต่ตามผม สองวันแต่มันยังไม่ทำพิธีเรียกขวัญ แต่มันเหมือนไม่รักษาศีลกลางคืน จ้างเด็กซื้อข้าวมากิน กลางวันยิงนกในวัด ผมห้ามนะแต่มันไม่ฟัง ตามปกติถัาผมพูดอะไร มันจะทำตามนะ เหมือนมันเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ผมก็ช่างเหอะสงสัยมันจะงอลตอนเราทิ้งมัน ครบเจ็ดวัน สึก และมันก็สึกพร้อมกันกับผม ซึ่งมันไม่ครบ เจ็ดวันได้แค่ ห้าวัน ผมก็คิด คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง แต่ทุกอย่างกับกลายจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย เปลี่ยนไปเป็นคนละคน แต่ก่อนไม่ค่อยพูด กลับเป็นคนพูดเสียงดังพูดมาก ไร้สาระ กินเหล้าหนักขึ้น แต่งมอไซด์เสียงดังกวนชาวบ้าน ผมก็เริ่มห่างๆมัน เพราะไม่อยากมีเรื่อง บางครั้งใส่แต่กางเกงในขี่รถรอบหมู่บ้าน อาบน้ำไม่มีน้ำยาสระผมก็ออกจากห้องน้ำเฉยๆแบบนั้น ไปซื้อแชมพูก็มีเหมือนคนบ้า
มีวันนึง ผมกับเพื่อนสามคนนั่งกินเหล้ากันอยู่ ได้ยินเสียงรถมันมาแต่ไกล ตอนนั้นประมาณห้าทุ่ม ก็พากันกลับกลัวมันกลัวมันจะมากินด้วย ไม่อยากกินกับมันเพราะมันเสียงดังกลัวผู้ใหญ่เขาจะรำคาญ แล้วออกมาไล่พวกเรา ก็แอบๆมันหน้าบ้านผมมันจะมีกำแพง และมีช่องลม มีช่องนึงที่ใหญ่หน่อยเพราะมันแตก ผมก็แอบตรงนั้นกับเพื่อน มองมันกำลังขับรถมาแต่ไกล เหมือนมันพายอะไรสักอย่างไว้ข้างหลัง ผมกับเพื่อนนึกว่าเป็น กีตาร์ แต่พอมันขับรถมาไกล้ๆ แล้วมันชะลอ หน้าบ้านผม เหมือนมันจะมาหาผม สิ่งที่เห็นข้างหลังมันไม่ใช่กีตาร์ครับ เหมือนเป็นควันไฟขาว ซึ่งจับกลุ่มกันเป็นเหมือนผู้หญิงผมยาวชุดขาว ซึ่งชัดเป็นอย่างมากอยู่ในลักษณะยืน อยู่เบาะหลังรถมัน ยืนนิ่งหน้าก้มมองมันข้างหน้า มือไม่ได้แตะไหล่มันด้วย ถ้าเป็นคน คงหงายท้องไปแล้ว แต่นี่ยืนเฉยเลย แล้วมันก็บิดรถ ไปข้างหน้าต่อไป ผมกับเพื่อนสามคนมองหน้ากัน เห็นกันทั้งหมดครับ แล้ววงแตกครับ บ้านใครบ้านมัน แล้วมันก็ใช้ชีวิตแบบ เสเพล บ้าๆบอๆ ไร้จุดหมาย ไม่ทำการทำงาน เกาะพ่อแม่กิน ตอนนี้ ปี 2015 มันก็ติดคุกข้อหา ค้ายาเสพติด ติดอยู่ 15 ปีครับ ปีนี้ย่างเข้าสู่ปีที่สาม
สำหรับผม ปกติทุกอย่าง และไม่ค่อยได้เจอสิ่งลี้ลับอีก มีคนลองของครับไม่เชื่อผม ไปใส่บ่วงดักหนู ช่วงใกล้ค่ำ ใส่ไปเรื่อยๆ แล้วแกไปใส่หน้ารูหนูครับ ใส่ปุ้บ แล้วแกก็เดินหน้าแต่ช่วงที่แกกำลังจะเดินไปได้ยินเสียงแปลกๆ แกก็หันมา เป็นหนูตัวใหญ่ครับติดบ่วงแก แล้วแกก็ก้มลงไปเก็บหนู จังหวะที่แกจับหนูปุ้บมีมือ คนออกมาจากรูหนูจับข้อมือแกอีกทีครับแกตกใจสะบัดทิ้งวิ่งหนีเลย แล้วนี้ก็คือเรื่องเล่าของผมสมัยก่อนครับ ไว้มีเรื่องราวอะไรสนุกๆดีจะมาเล่าให้ฟังอีกนะครับดักหนูเจอผีดักหนูเจอผีดักหนูเจอผี