มหัศจรรย์"วันพระ"เกิดอะไรขึ้นในวันพระจันทร์เต็มดวง??

มนุษย์ไม่เห็น! แต่ผีสางเทวดาเห็น!  วันพระ วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ  มีเหตุการณ์สำคัญใน 3 ภพภูมิ โลกมนุษย์ สวรรค์ นรก อย่างไรบ้าง ขอเล่าให้ฟังด้วยความปรารถนาดีโดยสุจริตใจดังนี้

ที่โลกมนุษย์

เจ้าหน้าที่เขต คือ มนุษย์ที่ละจากโลก แล้วไปเป็นเจ้าหน้าที่เขต  ซึ่งมีอยู่เป็นแสนเป็นล้านเขตทั่วโลก เจ้าหน้าที่เขต มีหน้าที่ตรวจดูความประพฤติของมนุษย์  ว่าตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา ทำความดีอะไรบ้าง แล้วบันทึกลงไปในแผ่นลานทอง แล้วรวมบัญชี/ย่อบัญชีเหลือหนึ่งแผ่นทอง จากนั้นก็นำไปให้ “อากาศเทวา”  
อากาศเทวา ก็จะรวมและย่อบัญชีในทำนองเดียวกัน แล้วนำไปให้ อากาศเทวาที่เป็นนาค ยักษ์ ครุฑ และ คนธรรพ์  อากาศเทวาทั้ง 4
ก็จะนำไปเสนอให้ ... หัวหน้าอากาศเทวานาค หัวหน้าอากาศเทวายักษ์  หัวหน้าอากาศเทวาครุฑ หัวหน้าอากาศเทวาคนธรรพ์ 
จากนั้น...  บัญชีก็จะได้รับการรวบรวมและย่อลงในทำนองเดียวกัน เพื่อนำไปเสนอให้ “ท้าวจตุโลกบาล”  คือ ผู้ปกปักษ์รักษาโลกใน 4 ทิศ ได้แก่ ...

หัวหน้าใหญ่ของอากาศเทวานาค  จะมอบบัญชีให้ “ท้าววิรูปักษ์”
หัวหน้าใหญ่อากาศเทวายักษ์  จะมอบบัญชีให้ “ท้าวเวสสุวัณ”
หัวหน้าใหญ่อากาศเทวาครุฑ  จะมอบบัญชีให้ “ท้าววิรุฬหก”
หัวหน้าใหญ่อากาศเทวาคนธรรพ์  มอบบัญชีให้ “ท้าวธตรฐ”
จากนั้น ท้าวจตุโลกบาล ทั้ง 4 ก็จะนำบัญชีแผ่นลานทอง ขึ้นไปเฝ้ารายงาน “ท้าวสักกะเทวราช”

 ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์

ณ ดาวดึงส์ เทวดาจะรู้ว่าเป็นวันพระได้  จากการโคจรของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ โดยจะตรวจดูวันเพ็ญบนโลกมนุษย์ด้วยทิพยจักขุ  
เมื่อเห็นว่าเป็นวันพระ  ก็จะมาประชุมกันที่ “สุธรรมมาเทวสภา”  ท้าวสักกะเทวราช จะทำการประชุมคณะกรรมการบริหารใน “วันโกณ”
คือ วันก่อนวันพระ ( วันโกณ...ที่เหล่ามนุษย์ post ใน Social ว่า  “พรุ่งนี้วันพระ” ) วาระการประชุมมี 2 วาระ คือ

1. เรื่องราวของดาวดึงส์ ( ฟิล Update เหตุการณ์สถานการณ์ต่างๆ )
2. เรื่องราวความประพฤติของมนุษย์ ที่ท้าวจตุโลกบาลนำมารายงาน

ท้าวสักกะเทวราช  จะขึ้นธรรมมาสน์แสดงธรรม ณ สุธรรมมาเทวสภา เนื้อหาสาระสำคัญจะเป็นเรื่องราวของ “ความไม่ประมาท”  ความฉลาดในการดำเนินชีวิต  การหมั่นเจริญพุทธานุสติเป็นหลัก
เพราะเทวดาก็เหมือนมนุษย์  มีทั้งที่ไม่ประมาท  และ ประมาทในการใช้ชีวิต
มนุษย์ที่ไม่ประมาท ก็จะหมั่นทำความดีสั่งสมบุญ แบ่งเวลาเข้าวัด ปฏิบัติธรรม บำเพ็ญบุญกุศลต่างๆ
มนุษย์ที่ประมาท ... ก็จะมัวเพลิดเพลินอยู่กับการกิน ดื่ม เที่ยว เล่นสนุกสนานเฮฮา หมกหมุ่นอยู่กับรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส กามคุณทั้งหลายอันเป็นความสุขที่ไม่เที่ยงแท้  ปล่อยวันเวลาในชีวิตให้ผ่านไปโดยไม่ได้สั่งสมบุญกุศลใดๆ

เทวดาก็เหมือนกัน  ที่ไม่ประมาท ก็จะไม่มัวเมาในกามคุณ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสอันเป็นทิพย์ หมั่นสั่งสมบุญกุศล เมื่อหมดอายุไขในภพนั้น ก็สามารถกลับมาเกิดเป็นเทวดาในชั้นดาวดึงส์ได้อีก หรือเกิดในภพภูมิที่สูงขึ้นไป ตามกำลังบุญของตัวเอง เทวดาที่ประมาท  ไม่สั่งสมบุญ ก็มีสิทธิ์ที่จะหมดสิทธิ์เป็นเทวดา เพราะเมื่อบุญหมด จะทำให้วิบากกรรมชั่วที่เคยทำไว้ได้ช่องส่งผล  ดึงดูดไปเกิดในนรก  หรือไปเป็นสัตว์เดรัจฉาน หรือถ้าบุญยังเหลืออยู่มากพอ ก็ไปเกิดเป็นมนุษย์ แล้วแต่กำลังบุญ บาป ของตัวเอง

เมื่อท้าวสักกะเทวราชให้โอวาทแก่เทวดาเสร็จแล้ว  จะเป็นเวลาประมาณค่ำๆ ของโลกมนุษย์ ที่ดวงจันทร์ขึ้น  เข้าสู่เวลาของวันพระ  
เวลานี้ ท้าวสักกะเทวราช จะประกาศแก่เทวดาในที่ประชุมว่า  ตลอดเวลา 1 เดือน จากข้างแรม ถึง ข้างขึ้น หมู่มนุษย์ได้ทำความดีอะไรบ้าง เช่น ดูแลบิดามารดา ทำทาน รักษาศีล สวดมนต์ภาวนา หรือ บำเพ็ญกุศลกรรมบถต่างๆ เป็นต้น โดยจะประกาศถึงมนุษย์ที่ทำบุญกุศลใหญ่ๆ ก่อน แล้วเรียงลำดับลดลั่นกันไป...   

เทวดา เมื่อได้ยินเรื่องราวของมนุษย์  หากช่วงไหน มนุษย์ทำความดีมาก เทวดาก็จะปลื้มปีติยินดี และพูดคุยกันว่า ...ในอนาคตสวรรค์จะเนืองแน่น  นรกคงต้องว่างแน่นอน ...

แต่ถ้าช่วงไหนมนุษย์ทำความดีน้อย  มัวประมาทในการดำเนินชีวิต. พากันทำกรรมชั่ว ดื่มเหล้า เสพของมืนเมา เล่นพนัน มั่วสุมอบายมุข ทำผิดศีลธรรม ต่างๆ นานา เป็นต้น...  เทวดาก็จะมีอาการจืดจ่อยหงอยเหงา  และพูดคุยกันว่า โอ้...! สวรรค์คงจะว่าง นรกคงจะแน่น  

 สำหรับที่ยมโลก

วันพระ ขึ้น 15 ค่ำ เป็นวันพักในยมโลก  แต่ในมหานรก และ อุทสัททะมหานรก ไม่ได้พัก ที่ยมโลก เจ้าหน้าที่จะได้พัก  พญายมราช
ซึ่งทำหน้าที่พิพากษาบุญ บาป ( พญายมฯ ตัวจริงเสียงจริงไม่สวมเขาควาย ไม่แขวนหัวกะโหลก ) และเจ้าหน้าที่ คือ เหล่ากุมภัณฑ์ที่มาทำหน้าที่ลงโทษสัตว์นรก จะได้พัก ที่เป็นสุนัข เป็นอีกาปากเหล็ก ก็จะกลับร่างเป็นกุมภัณฑ์ และได้รับประทานอาหารตามกำลังบุญของตัวเอง
ส่วนพญายมราช และ เจ้าหน้าที่ตนใดหมดกะ ในการทำหน้าที่  ก็จะเปลี่ยนกะ เปลี่ยนเวร กันในวันพระนี้ แต่ละตนจะมีระยะเวลาในการทำหน้าที่ไม่เท่ากัน บ้างก็ 3 เดือน บ้างก็ 6 บ้างก็ 8 เดือน หรือบ้างก็ 1 ปี ( เวลาในยมโลก ไม่ใช่ระยะเวลาในโลกมนุษย์ )  เมื่อครบกำหนดพัก ก็กลับมารับหน้าที่ต่อ วนไป จนกว่าจะหมดวิบากกรรม 

ส่วนสัตว์นรก ที่ยมโลก ในวันพระ ก็จะได้พัก ไม่ต้องรับการทัณฑ์ทรมาน ก็จะนอนกองอยู่ที่พื้น ที่อยู่หม้อทองแดงก็จะลอยมาอยู่ที่ปากหม้อ
ซึ่งแม้ไฟจะดับ แต่ความร้อนก็ยังร้อนอยู่ หนามต้นงิ้ว(ต้นงิ้วหนามมีในยมโลก)ก็จะหดลง เป็นต้น แต่เมื่อ พ้นเขตของวันพระไป ... พญายมราช ก็จะกลับมาทำหน้าที่พิพากษาบุญ บาป ตามปกติเจ้าหน้าที่ ก็เริ่มลงทัณฑ์สัตว์นรก ฉึก ฉั๊ก ฉะ ฉั่วะ ... !!! ลุยกันต่อ...ทุกข์ทรมานกันวนไปจนกว่าจะหมดกรรมชั่วที่ตัวทำไว้  

สิ่งสำคัญในวันพระสำหรับสัตว์นรก คือ ... ถ้าหากญาติที่โลกมนุษย์ทำบุญจำเพาะเจาะจงไปให้ในวันพระ (อุทิศส่วนกุศลแบบ ระบุชื่อ นามสกุล ) สัตว์นรกที่อยู่โยมโลกจะได้รับบุญทันที บุญกุศลนั้นๆ ก็จะไปช่วยลดหย่อนผ่อนโทษช่วยให้พ้นจากวิบากกรรมนั้นๆ เร็วขึ้น หรือหากบุญกุศลมากพอสามารถลบล้างวิบากกรรมชั่วหมด สัตว์นรกนั้น ก็จะมีสภาพดีขึ้นเจ้าหน้าที่ ก็จะพามาที่โรงพิพากษา. เพื่อมารับรู้บุญกุศลที่ญาติทำอุทิศมาให้จากบัญชีบุญอีกครั้งแล้วเจ้าหน้าที่ก็จะพาไปส่ง เพื่อไปเกิดในภพภูมิใหม่ตามกำลังบุญ

“วันพระขึ้น 15 ค่ำ”  จึงเป็นวันสำคัญสำหรับทุกชีวิต ทั้งในโลกมนุษย์ สวรรค์ และ ยมโลก สิ่งหนึ่งที่สำคัญสุดๆ นั่นคือ แม้อยู่ต่างภพ เราก็สามารถส่งความรัก ความห่วงใย ส่งความช่วยเหลือกันได้ด้วยการทำบุญอุทิศไปให้ เพื่อช่วยเหลือพ่อแม่ญาติพี่น้องผู้เป็นที่รักที่ล่วงลับ 
ที่กำลังประสบทุกข์ด้วยวิบากกรรมไม่ดีที่เคยทำไว้  ก็จะลดหย่อนผ่อนหนักให้เป็นเบา หรือเปลี่ยนสภาพ ไปสู่ภพภูมิที่ดี ที่เป็นสุข 

ส่วนที่เป็นสุขในภพภูมิที่ดีอยู่แล้ว ก็จะมีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไป วันพระ เพ็ญพระจันทร์เต็มดวง จึงเป็นวันมหัศจรรย์ ด้วยเหตุนี้  

----

เรียบเรียงจาก: มหัศจรรย์วันพระ https://www.kalyanamitra.org/th/