หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ปรัมบานัม (Prambanan) เทวสถานศาสนาฮินดู มรดกโลกแห่งอาเซียน

โพสท์โดย ประเสริฐ ยอดสง่า

 

ปรัมบานัน (Prambanan) ถือว่าเป็นเทวสถานที่ใหญ่ที่สุด ในประเทศอินโดนีเซีย มหาวิหาร มี ลักษณะเป็นหมู่ศาสนสถานฮินดู (Hindu Temple complex) ตั้งอยู่บนเกาะจาวา (Java) (ไทยเรียกชวา) ที่อยุ่ห่างจากยอกยาการ์ตาไปทางตะวันออก ประมาณ 18 กิโลเมตร ปรัมบานัน ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1991 และถือได้ว่า เป็นหนึ่งในเทวสถานในศาสนาฮินดู ที่ใหญ่ที่สุด ในเอเชียอาคเนย์ แถมยังมีจุดเด่น ที่พระปรางค์ขนาดใหญ่ ซึ่งมีความสูงถึง 47 เมตร

สำหรับ ปรัมบานัน หรือที่เรียกตามภาษาอินโดนีเซียว่า วัดโลโร จงกรัง (Loro Jongrang Temple) เป็นศาสนสถานของฮินดูที่ยิ่งใหญ่ และงดงามไปด้วยลวดลายแกะสลักหินอันวิจิตร แม้ในปี ค.ศ.2006 จะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่บนเกาะชวา ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างมาก ให้แก่ ปรัมบานัน จนเมื่อถึงปี พ.ศ. 2461 (ค.ศ. 1918) จึงได้มีการเริ่มบูรณะวัดขึ้นมา การบูรณะของสิ่งก่อสร้างหลักสิ้นสุดลง เมื่อปี พ.ศ. 2496 (ค.ศ. 1953) เพราะสิ่งก่อสร้างหลายแห่ง โดยเฉพาะเทวลัยขนาดเล็กที่อยู่รายรอบ ได้พังเสียหายหนัก จึงต้องปิดซ่อมแซม

ปรัมบานัน ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในการประชุมคณะกรรมการ มรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 15 ภายใต้ชื่อ "กลุ่มวัดปรัมบานัน" เมื่อปี พ.ศ. 2534 ที่เมืองคาร์เทจ ประเทศตูนิเซีย ด้วยข้อกำหนด และหลักเกณฑ์ในการพิจารณา ดังนี้

- เป็นตัวแทนในการแสดงผลงานชิ้นเอก ที่จัดทำขึ้นด้วยการสร้างสรรค์อันชาญฉลาด ของมนุษย์

-เป็นตัวอย่างอันโดดเด่น ของประเภทของสิ่งก่อสร้าง อันเป็นตัวแทนของการพัฒนา ทางด้านวัฒนธรรม สังคม ศิลปกรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม ในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

ส่วนผู้สร้าง ปรัมบานันนั้นไม่แน่ชัด สันนิฐานกันว่า กษัตริย์ที่ครองราชย์ ต่อจากพระเจ้าบาลีตุง ทรงพระนามว่า พระเจ้าทักษา (ค.ศ. 910 – ประมาณ ค.ศ. 919) พระองค์อาจจะเป็นผู้สร้างเทวสถานปรามบานันก็ได้ (อีกตำนานระบุว่า สร้างขึ้นในสมัยของกษัตริย์ Rakai Pikatan จากราชวงศ์ Mataram ที่ 2 หรืออาจะสร้างในสมัยกษัตริย์ Balitung Maha Samba จากราชวงศ์ Sanjaya) เทวสถานแห่งนี้ใหญ่โตมาก มีวิหาร 156 หลัง อยู่รอบๆ กลุ่มวิหารขนาดใหญ่ 8 หลัง ซึ่งรวมกันอยู่ตรงกลาง โดยมีวิหารของพระศิวะ เป็นเทวสถานที่สำคัญ และเด่นที่สุด และทำเป็นระเบียง ภาพสลักนูนตามระเบียง ซึ่งแสดงตอนต่างๆ ของเรื่องรามายณะ ก็อาจถือได้ว่า เป็นตำราของคัมภีร์ศาสนาฮินดู ที่บูชาพระวิษณุ หรือ พระนารายณ์ หรือเทพอื่นๆ ในศาสนาฮินดู

ในฤคเวท พระวิษณุ เป็นเทพที่ไม่มีบทบาทสำคัญ แต่คอยช่วยพระอินทร์ ในการต่อสู้กับศัตรูชั่วร้ายที่ทรงอำนาจ พระวิษณุ มีหน้าที่รักษาจักรวาล ที่พระพรหมได้สร้างขึ้น ก่อนที่จะถูกพระศิวะ ทำลายในที่สุด พาหนะของพระวิษณุคือ “ครุฑ” พระ วิษณุ เมื่อแสดงเป็นรูปบุคคล มีพระวรกายสีน้ำเงินเข้ม มี 4 กร ถือ ดอก บัว คทา (กระบอง) จักร และ สังข์ อาวุธอย่างอื่น มีสังข์ปัญจชันยะ มีพระขรรค์ชื่อนันทกะ และสวรรค์ ที่พระวิษณุปกครองอยู่กับพระลักษมี มีชื่อว่า“ไวกุณฐะ” ในมหากาพย์รามายณะนั้น พระราม คือ พระวิษณุอวตาร และ นางสีดา คือ พระลักษมีอวตาร

เมืองยอกยาการ์ตา เป็นเมืองหลัก ของเขตพิเศษยอกยาการ์ตา เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย ที่นี่ ถือว่าเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมชวาโบราณ ทั้งในด้านดนตรี นาฏศิลป์ และงานฝีมือ ยอกยาการ์ตา เคยเป็นเมืองหลวง ในช่วงที่อินโดนีเซีย เรียกร้องเอกราชจากดัชต์ ในช่วงปี ค.ศ.1945 - 1949

เมืองยอกยาการ์ตาแต่เดิมมีชื่อว่า "อโยธยา" (Ayodhya) ซึ่งตั้งตามเมืองในวรรณคดี เรื่องรามายณะ ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็นยอกยาการ์ตา โดยคำว่า ยอกยา (Yogya) แปลว่า "เหมาะสม" ส่วนคำว่า การ์ตา (Karta) แปลว่า "รุ่งเรือง"

ในปี 1942 จักรวรรดิญี่ปุ่นบุกเกาะชวา และปกครองจนกระทั่งญี่ปุ่นพ่ายแพ้สงคราม ในปี 1945 ซูการ์โน ประกาศเอกราชประเทศอินโดนีเซีย ในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน สุลต่านฮาเมิงกูบูโบโนที่ 6 ส่งจดหมายถึงประธานาธิบดีซูการ์โนทันที พระองค์ทรงสนับสนุนการเกิด ของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย และยอมรับว่า รัฐสุลต่านยอกยาการ์ตา คือส่วนหนึ่งของประเทศอินโดนีเซีย โดยเจ้าผู้ครองเมืองซูราการ์ตา ก็ทำเช่นเดียวกัน และราชอาณาจักรชวาทั้งสองรัฐ ได้ถูกตั้งให้เป็นเขตปกครองพิเศษในอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสมาชิกฝ่ายที่ต่อต้านกษัตริย์ ในซูราการ์ตา ก่อการจลาจล ทำให้เจ้าผู้ครองนครซูราการ์ตาหมดอำนาจ ในปี 1946 และถูกผนวกรวมกับจังหวัดชวากลาง

การสนับสนุนของเมืองยอกยาการ์ตา มีความสำคัญในการรวมชาติ ในระหว่างสงครามเรียกร้องเอกราชอินโดนีเซีย ในปี ค.ศ. 1945-1949 เมืองยอกยาการ์ตา ได้รับการตั้งให้เป็นเมืองหลวง ในระหว่างปี 1945 ถึง 1948 ก่อนจะย้ายเมืองหลวง ไปที่จาการ์ตา

เนื้อหาโดย: ประเสริฐ ยอดสง่า
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ในวันที่ไม่มีพ่อแม่คอยถามไถ่ อย่างน้อยๆ น้องก็ยังมี เพื่อนพ่อที่คอยถามไถ่น้องแทนผักที่มีแคลเซียมมากกว่านม 4 เท่า! ค้นพบแหล่งแคลเซียมธรรมชาติที่ขายดีตามตลาดแต่ยังน้อยคนรู้จักพนักงานสตาร์บัคส์[อเมริกา] ประท้วงหยุดงานจนถึงคริสต์มาสอีฟ เพื่อต่อรองค่าจ้างและเวลาทำงานเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 มาแน่! คนทั่วไปรับผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568ฉลามหัวบาตรลากจระเข้ลงน้ำ การเผชิญหน้าของนักล่าแห่งนูลุนบายเพลง “ไก่” จากเป้ อารักษ์ เพลงเก่าสุดยูนีค ที่กำลังเป็นไวรัลอีกครั้ง50 ข้อแนะนำ!! เพื่อชีวิต "ราบรื่น" ในปี 2025ซีรีส์จีน “ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ” ผลงานของ “ถานซงอวิ้น” แนวนางเอกสู้ชีวิตเภสัชกรเผย!..อาหารเสริมวิตามิน 3 ชนิดที่คุณควรหยุดกิน!10 ฉายาดารา 2567 เชยจนต้องขยี้ตา หรือเสน่ห์ย้อนยุคที่ยากจะปฏิเสธ?หนุ่มจีนหน้าเหลี่ยมเพราะ "เคี้ยวหมากฝรั่ง" หนักมาก เผยภายใน 8 ปี เสียค่าหมากฝรั่งไปกว่า 2 ล้านบาท
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
เพลง “ไก่” จากเป้ อารักษ์ เพลงเก่าสุดยูนีค ที่กำลังเป็นไวรัลอีกครั้ง50 ข้อแนะนำ!! เพื่อชีวิต "ราบรื่น" ในปี 2025พนักงานสตาร์บัคส์[อเมริกา] ประท้วงหยุดงานจนถึงคริสต์มาสอีฟ เพื่อต่อรองค่าจ้างและเวลาทำงานซีรีส์จีน “ต้นตำนานอาภรณ์จักรพรรดิ” ผลงานของ “ถานซงอวิ้น” แนวนางเอกสู้ชีวิต“มนุษย์เกิดมาทำไม?” คำถามที่ปลดล็อกความหมายของการมีชีวิต
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ปลดล็อกชีวิต วิธีเอาชนะความเครียดและคืนความสุขให้ตัวเองหากโลกไร้ซึ่งความรัก โลกจะหมุนไปอย่างไร?50 ข้อแนะนำ!! เพื่อชีวิต "ราบรื่น" ในปี 2025สุดยอดสายรุ้ง 360 องศา มหัศจรรย์จากธรรมชาติที่คุณอาจไม่เคยเห็น
ตั้งกระทู้ใหม่