CDC เตือนให้ระวังโรคแบคทีเรียกินเนื้อคน
แบคทีเรียกินเนื้อหรือโรคเนื้อเน่า (Necrotizing fasciitis)
ในวันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2566 ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) ได้ออกการแจ้งเตือนด้านสุขภาพระดับชาติเกี่ยวกับแบคทีเรียกินเนื้อหรือโรคเนื้อเน่า (Necrotizing fasciitis) เชื้อแบคทีเรียกินเนื้อพบได้ตามน้ำทะเลและน้ำเค็ม และสามารถเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ผ่านการว่ายน้ำ ดำน้ำ หรือรับประทานอาหารทะเลดิบหรือปรุงไม่สุก
CDC เตือนว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีน้ำทะเลหรือน้ำเค็ม มีบาดแผลที่ผิวหนัง หรือมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ควรระมัดระวังเป็นพิเศษในการหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแบคทีเรียกินเนื้อ ผู้ที่มีอาการไข้ หนาวสั่น ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ ท้องเสีย ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน รอยแดงหรือบวมบริเวณที่สัมผัสกับแบคทีเรียกินเนื้อ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
CDC ยังได้ออกคำแนะนำในการป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อ ดังนี้
- ไม่ว่ายน้ำหรือดำน้ำในน้ำทะเลหรือน้ำเค็มที่มีน้ำขุ่นหรือมีสีผิดปกติ
- หลีกเลี่ยงการกินหอยนางรม กุ้ง หอยแมงภู่ และปลาดิบหรือปรุงไม่สุก
- ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำเป็นเวลาอย่างน้อย 20 วินาทีก่อนและหลังสัมผัสกับอาหารทะเล
- ปรุงอาหารทะเลให้สุกทั่วถึงจนอุณหภูมิภายในอยู่ที่ 70 องศาเซลเซียส
- ผู้ที่มีอาการที่อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อควรไปพบแพทย์ทันที
แบคทีเรียกินเนื้อหรือโรคเนื้อเน่า (Necrotizing fasciitis)
แบคทีเรียกินเนื้อหรือโรคเนื้อเน่า ได้รับการค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ. 1882 โดยแพทย์ชาวฝรั่งเศสชื่อ Jean-Antoine Villemin ในขณะนั้น โรคนี้ยังเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "กวางเน่า" เนื่องจากมักพบในผู้ที่ล่าสัตว์หรือสัมผัสกับซากสัตว์ที่ตายแล้ว
ในปี ค.ศ. 1955 เชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคเนื้อเน่าได้ถูกระบุเป็นครั้งแรก โดยเป็นเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า Vibrio vulnificus เชื้อแบคทีเรียชนิดนี้พบได้ตามน้ำทะเลและน้ำเค็ม และสามารถเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ผ่านการว่ายน้ำ ดำน้ำ หรือรับประทานอาหารทะเลดิบหรือปรุงไม่สุก
ปัจจุบัน แบคทีเรียกินเนื้อยังคงพบได้ทั่วโลก พบได้บ่อยในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แบคทึเรียกินเนื้อ
แบคทีเรียกินเนื้อหรือโรคเนื้อเน่า มีชื่อทางการแพทย์ว่า Necrotizing fasciitis เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่รุนแรง มักพบบริเวณผิวหนังชั้นลึก ตั้งแต่ชั้นหนังกำพร้า ชั้นหนังแท้ ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ไปจนถึงชั้นเนื้อเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดการเน่าตายของเนื้อเยื่อบริเวณที่เกิดการติดเชื้อ และอาจลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้
สาเหตุ
แบคทีเรียกินเนื้อเกิดจากเชื้อแบคทีเรียหลายชนิด แต่เชื้อที่พบบ่อยที่สุดคือ Vibrio vulnificus เชื้อแบคทีเรียชนิดนี้พบได้ตามน้ำทะเลและน้ำเค็ม และสามารถเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ผ่านการว่ายน้ำ ดำน้ำ หรือรับประทานอาหารทะเลดิบหรือปรุงไม่สุก
อาการ
อาการของการติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อมักเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมงถึง 3 วันหลังสัมผัสกับแบคทีเรีย อาการทั่วไป ได้แก่
- ไข้ หนาวสั่น
- ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ
- ท้องเสีย ปวดท้อง
- คลื่นไส้ อาเจียน
- รอยแดงหรือบวมบริเวณที่สัมผัสกับแบคทีเรีย
ในบางรายอาจมีอาการรุนแรง เช่น
- ผิวหนังเน่าเปื่อย
- การติดเชื้อในกระแสเลือด
- ช็อก
- เสียชีวิต
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงที่อาจเพิ่มโอกาสในการเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อ ได้แก่
- การมีบาดแผลที่ผิวหนัง
- การมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ที่มีโรคเบาหวาน โรคไต หรือโรคตับ
- ผู้สูงอายุ
- ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีน้ำทะเลหรือน้ำเค็ม
การรักษา
การรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อต้องได้รับยาปฏิชีวนะอย่างเร่งด่วน ร่วมกับการผ่าตัดเพื่อเอาเนื้อเยื่อที่ตายแล้วออก ผู้ป่วยที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแออาจต้องได้รับการรักษาด้วยวิธีอื่น เช่น การให้เลือดหรือพลาสมา
การป้องกัน
การปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้จะช่วยป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อได้:
- ไม่ว่ายน้ำหรือดำน้ำในน้ำทะเลหรือน้ำเค็มที่มีน้ำขุ่นหรือมีสีผิดปกติ
- หลีกเลี่ยงการกินหอยนางรม กุ้ง หอยแมลงภู่ และปลาดิบหรือปรุงไม่สุก
- ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำเป็นเวลาอย่างน้อย 20 วินาทีก่อนและหลังสัมผัสกับอาหารทะเล
- ปรุงอาหารทะเลให้สุกทั่วถึงจนอุณหภูมิภายในอยู่ที่ 70 องศาเซลเซียล
- ผู้ที่มีอาการที่อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อควรไปพบแพทย์ทันที
แบคทีเรียกินเนื้อในประเทศไทย
แบคทีเรียกินเนื้อหรือโรคเนื้อเน่าเป็นโรคที่พบได้น้อยในประเทศไทย แต่ก็มีรายงานผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง โดยพบผู้ป่วยมากที่สุดในช่วงเดือนมีนาคมถึงมิถุนายนและรองลงมาคือเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคมของทุกปี
ปัจจัยเสี่ยงที่อาจเพิ่มโอกาสในการเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อในประเทศไทย ได้แก่
- การมีบาดแผลที่ผิวหนังจากการว่ายน้ำ ดำน้ำ หรืออุบัติเหตุ
- การมีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ที่มีโรคเบาหวาน โรคไต หรือโรคตับ
- ผู้สูงอายุ
- ผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีน้ำทะเลหรือน้ำเค็ม
ในปี พ.ศ. 2562 มีรายงานผู้ป่วยด้วยโรคเนื้อเน่าในประเทศไทยจำนวนทั้งสิ้น 51 ราย และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 5 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยที่มีบาดแผลที่ผิวหนังจากการว่ายน้ำ ดำน้ำ หรืออุบัติเหตุ
อาการและความรุนแรงของการติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้ออาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ดังนั้นหากท่านมีอาการใดๆ ที่อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อ ควรไปพบแพทย์ทันที
ขอบคุณภาพจาก th.yanhee.net
ข้อมูลทั้งหมดที่ฉันใช้เขียนกระทู้เกี่ยวกับแบคทีเรียกินเนื้อมาจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือหลายแห่ง ได้แก่
* ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC)
* องค์การอนามัยโลก (WHO)
* สมาคมโรคติดเชื้อในสหรัฐอเมริกา (IDSA)
* เว็บไซต์ของโรงพยาบาลและสถานพยาบาลในประเทศไทย
ข้อมูลเหล่านี้ได้รับการตรวจสอบและเผยแพร่โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และสาธารณสุข ดังนั้นจึงมีความน่าเชื่อถือสูง
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไปเท่านั้น อาการและความรุนแรงของการติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้ออาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ดังนั้นหากท่านมีอาการใดๆ ที่อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อ ควรไปพบแพทย์ทันที