ทำไม "ผู้กำกับ" ไม่ควรตัดต่อเอง
หนังสั้นส่วนมาก โดยเฉพาะคนทำหนังที่เพิ่งเริ่มต้น มักจะเป็นผู้กำกับที่ตัดต่อหนังเอง มันง่ายกว่าเพราะไม่ต้องหาคนตัดต่อเพิ่มอีกคน ที่สำคัญผู้กำกับไม่ต้องมานั่งสื่อสารกับคนตัดต่อว่าต้องการอะไร ทำเองซะเลยง่ายกว่า
.
แต่หลายครั้งความง่ายก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด...
และวันนี้เรามาพร้อมกับ 3 เหตุผล ว่าทำไมผู้กำกับไม่ควรตัดต่อหนังตัวเองครับ
1. ผู้กำกับจะเสียดายสิ่งที่ถ่ายมา เช่น มีซีนนึงยากมากกว่าจะได้มาทั้งกองต้องล้มลุกคลุกคลาน แต่ถ้ามองดูภาพรวมหนังอีกที ซีนนี้ไม่ได้มีความจำเป็นต่อเนื้อเรื่องเลย ผู้กำกับก็อาจจะเลือกที่จะใส่ไปเพียงเพราะความเสียดาย แต่ลืมไปว่าหน้าที่ของซีนในหนังคือการขับเคลื่อนเรื่องให้ไปข้างหน้า กลับกันถ้าเป็นคนตัดต่อที่ไม่ได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ด้วย เขาจะมีมุมมองในฐานะของคนดูมากกว่า อาจเลือกที่จะไม่ใส่ซีนนี้ลงไป เพราะอย่าลืมว่าคนดูก็ไม่ได้รับรู้ขนาดนั้นว่าซีนไหนถ่ายง่ายหรือยาก เขาแคร์กับสิ่งที่อยู่บนจอมากกว่า
2. ผู้กำกับใช้เวลาอยู่กับบทมาตั้งแต่แรก เลยทำให้ติดกรอบการเล่าเรื่องแบบเดิม แต่คนตัดต่อด้วยความที่ไม่ได้ถูกติดอยู่กับกรอบนั้น เขาอาจจะมีไอเดียการเล่าหรือลูกเล่นใหม่ๆ ที่น่าสนใจกว่า เป็นการเปิดรับความเป็นไปได้ที่จะทำให้หนังดีขึ้น
3. การทำงานที่หมกมุ่นอยู่กับรายละเอียดมากๆ เช่น การเลือกใช้เทคนิคตัดต่อต่างๆ อาจจะทำให้ผู้กำกับลืมมองภาพรวมของหนังไป ซึ่งมันจะดีกว่าถ้าคนตัดต่อเป็นคนจัดการกับรายละเอียดพวกนี้ ผู้กำกับก็จะได้โฟกัสอยู่กับสิ่งที่สำคัญจริงๆ อย่างเช่นสิ่งที่ต้องการจะสื่อกับคนดู และคอยประคองให้หนังอยู่ในแนวทางที่มันควรจะเป็น
ถึงจะเป็นอย่างนั้น เราก็เห็นผู้กำกับหนังเก่งๆบางคนเลือกที่จะตัดต่อหนังของตัวเองอยู่ดี เช่น พี่เต๋อ นวพล
แต่จะเห็นว่าพี่เขาก็ต้องมีหลักการหรือแนวทางการทำงานบางอย่างที่จะทำให้ผลงานออกมามีคุณภาพ
ลองอ่านจากโพสต์ของพี่เขาได้ครับ พี่เขาได้เล่าถึงประสบการณ์การตัดสารคดีเรื่อง Grils Don’t Cry:
https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=1872166872821978&id=440402912665055