หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เด็กสาวม.ปลายฆ่าผู้นำจอมเผด็จการในบ้านของตัวเอง

แปลโดย ผู้หญิงชอบเล่น

เมื่อมีคดีอย่างคดีฆาตกรรมเกิดขึ้น นักข่าวก็จะกรูกันไปสัมภาษณ์ตำรวจ ครอบครัวของผู้เสียชีวิต คนรู้จักของผู้ต้องสงสัย แต่นักข่าวมักจะได้เจอผู้ต้องสงสัยตัวจริงครั้งแรกก็ที่ศาลเลย ได้สำรวจสีหน้าท่าที ฟังเสียงสด ๆ ของผู้ต้องสงสัยจากที่นั่งภายในศาล ทำให้ได้รู้ถึงความจริงที่แตกต่างจากข่าวที่ออกไปในตอนแรก ถ้าเป็นฉันจะหยุดตัวเองไม่ให้ล้ำเส้นไปได้รึเปล่า ? อะไรดีอะไรชั่วกันแน่ ?

ปี 2016 ศาลแขวงซัปโปโร เลขที่ 806 " ทั้งยายกับแม่ทารุณน้องคนสุดท้องมาตั้งแต่เล็ก ๆ " " ฉันไม่ได้อยากฆ่าแม่กับยาย แต่เพื่อให้น้องสมหวัง ฉันจึงคิดว่าจะช่วยในสิ่งที่ช่วยได้ "

พี่สาวคนโต ( อายุ 24ปี ) ปรากฎตัวในชุดสูทสีดำยืนที่แท่นให้การในศาลเพื่อตอบคำถามของทนายฝ่ายจำเลยต่อหน้าคณะลูกขุน เธอถูกฟ้องร้องข้อหาเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการฆาตกรรมโดยใส่ยานอนหลับและช่วยเตรียมถุงมือให้กับน้องสาวคนเล็ก ( 17 ) เพื่อฆ่ายายและแม่

ห่างไป 25 กิโลเมตรทางทิศตะวันออกของตัวเมืองซัปโปโร คดีนี้เกิดขึ้นที่หมู่บ้านอันเงียบสงบย่านนัมโปะโระ ฮอกไกโด เวลาเที่ยงคืนครึ่งของวันที่ 1 ตุลาคม ปี 2014 ลูกสาวคนที่สามซึ่งในตอนนั้นเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แทงแม่ (47 ปี) และยาย (71 ปี) ขณะหลับด้วยมีดทำครัวจนเสียชีวิต ศพของทั้งสองมีรอยแทงอยู่ทั่วทั้งร่างจนนับแทบไม่ถ้วน บ่งบอกถึงความโกรธแค้นอย่างแสนสาหัส และหลังฆ่าเสร็จเธอก็ทำลายข้าวของให้ดูเหมือนว่ามีโจรเข้ามาปล้นบ้าน ตอนนั้น ครอบครัวอยู่กัน 4 คน คือ ยาย แม่ พี่สาวคนโต และน้องสาวคนเล็ก พ่อแม่หย่าร้างกันเมื่อ 10 ปีก่อน ลูกสาวที่สองย้ายไปอยู่กับพ่อ ส่วนยายและแม่ก็ทำทารุณลูกสาวเล็กมาตั้งแต่เล็ก ( เพราะหน้าและนิสัยเหมือนพ่อสุด )

" แม่กับยายเกลียดน้อง ที่น้องเหมือนกันกับพ่อ เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดน้องสักหน่อยที่จะหน้าตาเหมือนผู้ให้กำเนิด "

ทนาย : น้องคนเล็กเกลียดแม่และยายหรือเปล่า?

ลูกสาวคนโต : ใช่ค่ะ เพราะโดนยายทำร้ายร่างกาย และแม่ก็แค่มองดูอยู่เฉย ๆ ไม่เคยคิดจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ และบางครั้งก็ร่วมทำร้ายน้องด้วยค่ะ

ทนาย : ทำผิดอะไรยายถึงทำร้ายเอา?

ลูกสาวคนโต : ไม่ค่ะ ทำร้ายโดยไม่มีเหตุผล แค่เดินอยู่ในบ้านเฉย ๆ ก็โดนตีค่ะ

ทนาย : ยายเกลียดน้องสาวคนสุดท้องมากหรือ?

ลูกสาวคนโต : ยายชอบบอกว่า " เด็กนั่นหน่ะ อย่าไปยุ่งกับมัน ปล่อยไว้ให้มันอยู่คนเดียวอย่างกับหมาอย่างกับแมวอย่างนั่นแหละ เกลียด !! "

ทนาย : พอน้องถูกทำร้ายจนร้องไห้ ยายมีท่าทียังไง?

ลูกสาวคนโต : ก็บอกว่าหนวกหู แล้วก็เอาเทปกาวพันปากเพื่อไม่ให้มีเสียงออกมา พอน้ำตาทำให้เทปกาวย้วยจนจวนจะหลุดก็พันใหม่อีกตั้งแต่ปากไปจนรอบหัว สภาพคือเห็นแค่จมูกโผล่พ้นมานิดเดียวเองค่ะ

ตอนก่อนที่ลูกสาวคนสุดท้องจะขึ้นชั้นประถม ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2004 เธอถูกรับไปอยู่ในความดูแลโดยสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กชั่วคราว เพราะยายทำให้บาดเจ็บอย่างหนักที่ศรีษะ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กจึงลงความเห็นว่าอาจมีการทารุณกรรมเกิดขึ้น

ทนาย : จำตอนนั้นได้ไหม?

ลูกสาวคนโต : น้องสาวนอนอยู่ที่พื้น หน้าตาซีดเผือด แล้วก็มีรถฉุกเฉินมารับน้องไปค่ะ

ทนาย : แล้วเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น?

ลูกสาวคนโต : พวกยายแค่โดนตำรวจว่ากล่าวเท่านั้น ก็ยังรอดมาได้ไม่โดนอะไร

หลังจากนั้นแม่ก็ไปรับลูกสาวจากสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก เธอก็เลยต้องกลับมาบ้าน

ทนาย : รู้สึกยังไงบ้างกับเหตุการณ์นั้น ?

ลูกสาวคนโต : คิดว่าผู้ใหญ่พึ่งพาไม่ได้ค่ะ แม้แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังช่วยเหลือไม่ได้ จึงเลิกคิดที่จะพึ่งพาตั้งแต่นั้นค่ะ

หลังจากกลับมาจากการดูแลของสถานคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กชั่วคราว การทารุณกรรมกลับรุนแรงขึ้นอีก

ทนาย : วิธีในการทำทารุณน้องคนเล็กเปลี่ยนไปหรือ?

ลูกสาวคนโต : น้องถูกขังไว้ในที่เก็บของใต้พื้นบ้าง ถูกให้ไปยืนข้างนอกในสภาพเปลือยเปล่าแล้วโดนเอาน้ำราดบ้าง ทั้งๆ ที่เป็นฤดูหนาวด้วย

ศาล : จากที่เห็นมา คิดว่าโดนทารุณแบบไหนโหดร้ายที่สุด?

ลูกสาวคนโต : ที่จำได้ดีก็เป็นเรื่องกินข้าวค่ะ

ศาล : ยังไงเหรอ?

ลูกสาวคนโต : ยายเอาแป้งสาลีมาย่าง แล้วราดมายองเนสลงไป หลังจากนั้นก็โปะด้วยขยะเปียกด้านบน แล้วบังคับให้น้องกิน แม้น้องจะอาเจียนออกมาแต่ก็ถูกยายกับแม่ช่วยกันจับของพวกนั้นยัดเข้าปากให้กินต่อค่ะ

ศาล : ขยะเปียกนี่คือขยะที่ทิ้งอยู่ในครัวใช่มั้ย?

ลูกสาวคนโต : ขยะในท่อน้ำทิ้งในครัวค่ะ ก็จะมีเปลือกและเมล็ดของแอปเปิ้ลและลูกพลับ แล้วก็มีใบชาเยอะเลยค่ะ

ขณะที่การทารุณกรรมเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้างได้เลยหรือ?

ทนาย : เคยปรึกษาญาติบ้างมั้ย?

ลูกสาวคนโต : ยายไปพูดไม่ดีกับญาติไว้ เราเลยติดต่อใครไม่ได้เลยค่ะ

ทนาย : แล้วบอกเพื่อนบ้านไม่ได้หรือ?

ลูกสาวคนโต : เมื่อก่อนพวกเราเคยไปปรึกษาค่ะ แต่สุดท้ายเรื่องก็มาถึงหูพวกยาย น้องเลยโดนทำร้ายอย่างหนักเลยค่ะ

ทนาย : ทำร้ายยังไงบ้าง?

ลูกสาวคนโต : ยายว่า " พวกแกนี่ไปเที่ยวเห่าเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องนะ !! " แล้วก็โดนจับราดน้ำเย็นในห้องอาบน้ำบ้าง โดนขังไว้ที่ใต้พื้นบ้าง ตอนนั้นฝนตกหนักจนน้ำท่วม ก็ต้องแช่อยู่แบบนั้นทรมานมากเลยค่ะ ทั้งมืด ทั้งหนาว ทั้งกลัว

พอลูกสาวคนที่สามเริ่มไปโรงเรียน การทำร้ายของยายค่อยๆลดลง ลูกสาวคนโตพูดถึงชีวิต ในโรงเรียนของลูกสาวคนที่สามว่า " น้องดูมีความสุขดีที่ได้ไปโรงเรียน อยู่โรงเรียนน้องแวดล้อมไปด้วยเพื่อนๆ "

อัยการ : พอน้องคนสุดท้องเข้าม.ปลาย ความสัมพันธ์กับยายดีขึ้นไหม?

ลูกสาวคนโต : น้องเข้าใจแล้วค่ะว่า ถ้าทำงานบ้านให้ดีก็จะไม่โดนอะไร แต่ถึงอย่างนั้นการทำร้ายและกลั่นแกล้งต่างๆ ก็ไม่ได้หยุดลงไปซะทีเดียวค่ะ

รายงานของฝ่ายอัยการระบุไว้ว่า " เพื่อนสนิทบอกว่าเริ่มมาจากความคิดที่อยากจะออกจากบ้าน " ในตอนนั้นพี่สาวคนโตก็พูดเรื่องที่จะออกจากบ้าน

พี่สาวคนโตหลังจบมัธยมปลายก็เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเฉพาะทางด้านสวัสดิภาพการรักษา พอเรียนจบแล้วก็ไปทำงานที่ร้านขายยาใกล้ๆบ้าน

ก่อนคดีจะเกิดขึ้น ลูกสาวคนโตปรึกษายายเรื่องชายหนุ่มที่คบหากันอยู่ เธอบอกว่า เนื่องด้วยสถานที่ทำงานของฝ่ายชายที่อยู่ไกล รวมทั้งอะไรอีกหลายๆอย่าง ทั้งสองคนจึงอยากจะย้ายไปอยู่ด้วยกันแถวใกล้ๆตัวเมืองซัปโปโรในหน้าหนาวนี้

ทนาย : แล้วยายบอกว่ายังไง?

ลูกสาวคนโต : ยายก็ไล่ว่า " อยากไปไหนก็ไป !! " ตั้งหลายครั้งค่ะ ฉันเสียใจมากเลยค่ะตอนที่ยายบอกว่า เอาตังค์มาให้เดือนละสามหมื่นแล้วตัดขาดกันไปได้เลย

ทนาย : แล้วคุณคิดยังไง?

ลูกสาวคนโต : คิดว่าถึงพูดไปก็ไม่มีประโยชน์ เลยจะยอมตัดขาดและออกจากบ้านไปดีกว่าค่ะ

ลูกสาวคนโต : แต่ถ้าออกจากบ้านไป น้องสาวคนที่สามคงหัวเดียวกระเทียมลีบ ความกดดันทั้งหมดของทั้งสองคน รวมทั้งเรื่องงานบ้าน ทั้งเรื่องเงินคงมาลงที่น้องเต็ม ๆ ความจริงก็กระจ่าง

น้องคนสุดท้องที่ได้ยินว่าพี่สาวคนโตจะออกจากบ้านนั้นเริ่มคิดว่าไม่อยากให้พี่ไป คิดว่าจะทำยังไงดีให้ได้อยู่ด้วยกัน แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกเลยได้แต่เงียบ จากนั้นพี่สาวก็เผลอบ่นให้น้องฟังว่า " ถ้ายายไม่อยู่ก็คงดี " ทั้งสองคนเริ่มจินตนาการเรื่องที่จะทำให้ยายกับแม่ไม่อยู่ในโลกนี้อีกต่อไป เช่น ทำอะไรกับยางรถยนต์เพื่อให้ดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุ หรือถ้าโดนปล้นแล้วมีแค่สองคนนั้นที่โดนจัดการไปก็คงดี หรือว่าจะลองจ้างนักฆ่าดูดี.... จริง ๆ พี่สาวแค่พูดเล่นเพื่อให้หายเครียด แต่น้องคนเล็กนั้นไม่ใช่ เพราะที่ผ่านมาก็เคยมีความคิดที่จะฆ่าแม่กับยายอยู่แล้ว แต่จะทำทั้งหมดคนเดียวก็คงไม่ไหว เพิ่งได้รู้ว่าพี่สาวก็รู้สึกเหมือนกัน ความคิดที่จะฆ่าจึงหวนมาอีกครั้ง ...

ก่อนก่อคดี น้องสาวได้โทรคุยกับเพื่อนสนิทและเผลอพูดว่าจะฆ่าคนในบ้าน พอเพื่อนถามเหตุผลก็ตอบว่า " เพื่ออิสระของฉันกับพี่สาว "

จากนั้น น้องคนเล็กก็เตรียมการฆาตกรรม และขอให้พี่สาวช่วยเตรียมยาที่ทำให้สองคนนั้นหลับและถุงมือเพื่อใช้ในการทำให้ดูเหมือนว่าโดนปล้น

ตอนนั้นพี่สาวก็คิดว่า " พอเอาเข้าจริงน้องก็คงฆ่าไม่ลงหรอก เด็กม.ปลายจะทำเรื่องอย่างนั้นได้ยังไง "

เธอถามน้องสาวว่า " เอาจริงเหรอ?"

น้องสาวจึงตอบว่า " ฉันหน่ะ จินตนาการถึงความสุขหลังฆ่าอยู่หลายครั้ง "

" ฉันขโมยยานอนหลับมาจากที่ร้านขายยามาให้น้อง น้องแอบผสมมันกับอาหารของแม่และยาย หลังจากทั้งคู่หลับ น้องก็กระหน่ำแทงยายกับแม่ด้วยมีดทำครัว น้องบอกว่าควบคุมตัวเองให้หยุดแทงไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าทั้งสองคนตายแล้วแต่ก็หยุดไม่ได้ “

มันเหมือนกับว่า นี่คือ 10 ปีที่น้องได้รับมา

ในวันนั้น พอกลับจากทำงานเข้ามาในบ้าน ฉันเห็นน้องอยู่บ้านในสภาพเปลือยเปล่า ในห้องอาบน้ำมีมีดเปื้อนเลือดตกอยู่ ตอนที่น้องหันมาเห็น ก็บอกกับเบา ๆ ว่า " พี่อย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้ดีกว่า " เมื่อตั้งสติได้ฉันกับน้องก็ช่วยกันพังบ้านเพื่อแกล้งทำเป็นถูกปล้นเพื่ออำพราง “ ก็อย่างที่คุณรู้ ยังไง ๆ เราก็ไม่มีทางจะโกหกตำรวจได้จริง ๆ ....ในที่สุดเราก็ถูกจับ “

" ฉันขอโทษที่ไม่สามารถเป็นที่พึ่งพิงให้เธอได้ ฉันขอโทษที่ตลอด 10 ปี ชีวิตของเธอต้องถูกทำลายจากยายและแม่ ฉันขอโทษจริงๆ ที่พี่สาวคนนี้ปกป้องอะไรเธอไม่ได้เลย ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ " เธอพูดทั้งน้ำตา

อัยการ : ไม่มีทางเลือกอื่นน้องจากการฆ่าคนเลยหรือ?

ลูกสาวคนโต : น้องเคยหนีไปที่ซัปโปโรครั้งนึง แต่สองคนนั้นตามไปพบ เลยเกิดความกลัวว่าไม่ว่าจะหนีไปที่ไหนก็คงจะตามเจออยู่ดี

อัยการ : ก่อนการฆาตกรรม คุณบอกน้องสาวไม่ได้หรือว่าให้หยุดเถอะ

ลูกสาวคนโต : ที่บ้านหลังนี้ไม่มีความทรงจำดีดีที่ได้อยู่กันเป็นครอบครัวเลย ฉันจึงคิดว่าสิ่งที่น้องทำนั้นถูกแล้ว

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ท่านผู้พิพากษากล่าวคำตัดสินให้ลูกสาวคนโตจำคุก 3 ปี รอลงอาญา 5 ปี แม้ท่านผู้พิพากษาจะแสดงความเห็นใจกับสภาพการณ์ที่พี่น้องคู่นี้ต้องเจอโดยตัดสินให้เป็น ความผิดที่มีโทษสถานเบา แต่ก็ บอกว่า " อยากให้เริ่มต้นใหม่โดยที่ไม่ลืมเรื่องคดีในครั้งนี้อย่างเด็ดขาด " เธอรับคำด้วยเสียงอันเบาทั้งน้ำตาว่า " ค่ะ " ทางด้านน้องสาวคนเล็ก เธอถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลเด็ก และจะถูกคุมตัวอยู่ในสถานกักกันเด็กจนกว่าสภาพจิตใจจะดีขึ้น ทั้งสองคนเขียนจดหมายหากันเดือนละครั้ง " ถ้าน้องออกมา ก็อยากจะอยู่ด้วยกันและทำให้รู้สึกถึงความเป็นครอบครัวแบบที่พวกเราไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน "

แปลโดย: ผู้หญิงชอบเล่น
ที่มา: 東洋経済
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เตโอตีวากาน (Teotihuacan) กับตำนาน วันสิ้นโลก เมืองโบราณที่ไม่รู้ใครสร้างคลิปไวรัล คุณยายวัย 95 ปี หัวเราะจนหงายหลัง ชาวเน็ตเเห่ถามคุณยายเป็นอะไรน้ำใจยิ่งใหญ่! หนุ่มไร้เงินขอติดรถกลับบ้าน เจอผู้ให้เต็มคันสุดอบอุ่น"เหมือนเป๊ะ! แตงโมจัดเต็มโคฟเวอร์ 'เจ๊มิ่ง' แซ่บเวอร์ทุกดีเทล"
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
น้ำใจยิ่งใหญ่! หนุ่มไร้เงินขอติดรถกลับบ้าน เจอผู้ให้เต็มคันสุดอบอุ่น
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ความรัก, ประสบการณ์ชีวิต
โอ้ยตูจะบ้า!! หนุ่ม grab car ไปส่งลูกค้าสาวที่บ้าน เจอแม่ของลูกค้าวีนฉ่ำถาม “มึงเป็นอะไรกับลูกกู” 😏1 สิ่งที่ทำให้น้องชายเล็กลง..คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้!“ฉันได้สามีฝรั่งที่รวยมากๆ…เธอก็ทำได้นะ“ สาวฝรั่งเผยเคล็ดลับได้แต่งงานกับเศรษฐี!ทำลายสถิติ! ดาว Onlyfans นอนกับผู้ชาย 101 คนในวันเดียว!
ตั้งกระทู้ใหม่