หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

วัยรุ่นกับกัญชา

โพสท์โดย pungpung4589

 

วัยรุ่นกับการอยากรู้อยากลอง เป็นของคู่กัน โดยเฉพาะสิ่งที่อยู่ในกระแสอย่าง “กัญชา” ก็อาจทำให้วัยรุ่นเกิดความสงสัยใคร่รู้ ใคร่ลอง ถึงแม้จะมีผู้ใหญ่บางกลุ่มออกมาบอกว่ากัญชาเป็นสมุนไพร รักษาโรคได้ ไม่ใช่ยาเสพติด แต่รู้ไหมว่ากัญชานั้น ไม่ได้เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและวัยรุ่น ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบจากกัญชามากที่สุด

 

กัญชาสมุนไพรเพื่อรักษา หรือยาเสพติดให้โทษ 

หากถามว่า กัญชาเป็นยารักษาโรค หรือ เป็นยาเสพติด คำตอบก็อาจขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนใช้กัญชาอย่างไรเพราะจะว่าไปแล้วกัญชามีสารประกอบที่สามารถเป็นได้ทั้งสมุนไพรรักษาโรคและยาเสพติดให้โทษ โดยสารประกอบที่พบได้ในกัญชาคือ สารในกลุ่มแคนนาบินอยด์ (Cannabinoid) ที่มีอยู่ 2 ชนิดสำคัญ คือสาร CBD (Cannabidiol) และสาร THC (Tetrahydrocannabinol)การออกฤทธิ์ที่ต่างกันของสาร CBD และ THC นี่เองที่จะกำหนดว่ากัญชาจะให้คุณหรือให้โทษกับร่างกายของคนเรา กล่าวคือ CBC สามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ช่วยให้ผ่อนคลาย ลดอาการปวด นอนหลับดีขึ้น แต่ไม่ส่งผลต่อจิตประสาท ไม่ก่อให้เกิดการเสพติดและไม่ทำให้มึนเมา แต่ในทางกลับกัน THC จัดเป็นสารเมาที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท โดยสารนี้จะออกมาพร้อมกับสาร CBD ตอนสกัดกัญชา หากร่างกายได้รับสาร THC มากเกินไป อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายได้

ทั้งนี้ผลการศึกษาทางการแพทย์พบว่า ร่างกายของคนเราสลายสาร THC ได้ยากกว่า ทำให้สาร THC ที่ส่งผลให้เกิดอาการมึนเมานั้นตกค้างในร่างกายได้ถึง 1-7 วันขึ้นอยู่กับปริมาณและความถี่ในการบริโภคสำหรับเด็กและวัยรุ่นที่สมองยังพัฒนาไม่เต็มที่ การสลายสาร THC ออกจากร่างกายอาจทำได้ยากกว่าผู้ใหญ่ จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเสพติดสารดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลระยะยาวต่อสติปัญญาและสุขภาพของวัยรุ่น

 

 

ผลกระทบของกัญชาในวัยรุ่น

สมองของเด็กและวัยรุ่นยังอยู่ในช่วงของการเจริญเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวัยนี้สมองส่วนอารมณ์และวงจรรับรู้ความสุข การได้รับรางวัลจะทำงานมากกว่าสมองส่วนอื่นๆ สมองส่วนการคิดวิเคราะห์การใช้เหตุผล ยังพัฒนาไม่เต็มที่ จึงมีความเสี่ยงสูงที่วัยรุ่นจะตกเป็นเหยื่อของยาเสพติดต่างๆ รวมถึงกัญชา หากไม่ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ หากวัยรุ่นใช้กัญชาเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ผลกระทบที่อาจเกิดต่อร่างกายคือ

●    ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง อาจเกิดความจำสั้นและความจำเสื่อม ในระยะยาวอาจส่งผลต่อระดับเชาว์ปัญหาที่ลดลง ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์และคิดอย่างมีเหตุผล ขาดสมาธิทำให้ความสามารถในการเรียนรู้ลดลง

●    เพิ่มความเสี่ยงโรคจิตเภท ทำให้เกิดอาการหูแว่ว ภาพหลอน หวาดระแวง ในระยะยาวอาจทำให้เกิดโรคซึมเศร้าและนำไปสู่การฆ่าตัวตายได้

●    เพิ่มความเครียด แพนิค และวิตกกังวล อาการเหล่านี้อาจพบได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ หรือบางคนอาจมีอาการเหล่านี้หลังใช้กัญชาไปสักพักหนึ่งแล้ว

●    เพิ่มโอกาสการมีพฤติกรรมเสี่ยง เนื่องจากกัญชาทำให้มึนเมา จึงอาจทำให้วัยรุ่นมีพฤติกรรมเสี่ยง ที่ขาดการยับยั้งชั่งใจ เช่น อุบัติเหตุบนท้องถนน พลัดตกจากที่สูง หรือพฤติกรรมทางเพศที่ขาดการป้องกัน นำไปสู่การตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ หรือได้รับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เป็นต้น

●    ผลเสียต่อร่างกายโดยรวม กัญชามักทำให้ผู้เสพ มีอาการปากแห้ง คอแห้ง ท้องผูก คลื่นไส้ อาเจียน ระบบประสาทอัตโนมัติทำงานผิดปกติ อาจถึงขั้นหมดสติได้

 

 

ช่วยป้องกันวัยรุ่นอย่างไรให้ห่างไกลกัญชา

หลังจากประเทศไทยปลดล๊อกกัญชาเสรี พบว่ามีเด็กและวัยรุ่นจำนวนไม่น้อยที่ตกเป็นเหยื่อของกัญชาโดยไม่ตั้งใจ เพราะผู้ผลิตหรือผู้ขายใช้กัญชาเป็นส่วนผสมในอาหาร ขนม หรือเครื่องดื่ม โดยไม่ได้ระบุในฉลากให้ชัดเจน ทำให้เด็กๆ ที่ได้รับกัญชาเข้าสู่ร่างกายมีอาการเจ็บป่วย ต้องแอดมิทรักษาตัวในโรงพยาบาล ขั้นแรกที่ผู้ปกครองทำได้คือ การเลือกซื้ออาหาร ขนม เครื่องดื่มต่างๆ จากแหล่งที่เชื่อถือได้ มีฉลากระบุชัดเจน ของกินที่จำหน่ายข้างทาง ตามตลาดนัด หรืองานแฟร์ต่างๆ อาจต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ หากไม่มั่นใจก็ไม่ควรซื้อให้บุตรหลาน รวมทั้งสอนวัยรุ่นในการเลือกซื้อของกินที่ปลอดภัยจากกัญชา นอกจากนี้ สิ่งที่พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถทำได้ เพื่อช่วยป้องกันลูกจากกัญชา คือ

สุดท้ายแล้ว พ่อแม่ผู้ปกครอง คงไม่อาจเฝ้าติดตามวัยรุ่นไปทุกที่ได้ การปลูกฝังความคิดอย่างเหมาะสม จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยป้องกันลูก ไม่เพียงแต่จากกัญชา แต่ยังรวมถึงยาเสพติดและสิ่งไม่ดีอื่นๆ ที่ลูกต้องเผชิญในเส้นทางการเติบโต การเป็นผู้ใหญ่ที่คอยรับฟัง ไม่ด่วนตัดสิน และให้ความเชื่อมั่นในตัวเด็กๆ ว่าพวกเขามีคุณค่ามากพอไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม คือเกราะป้องกันภัยที่แข็งแรงที่สุด ที่ผู้ใหญ่อย่างเราๆ จะมอบให้กับเด็กๆ ได้

โพสท์โดย: pungpung4589
อ้างอิงจาก: chulalongkornhospital, starfishlabz
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
pungpung4589's profile


โพสท์โดย: pungpung4589
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เมืองไทยมี ฮวังอินยอบ❤️🫶 ยินดีต้อนรับ #ฮวังอินยอบ ที่ตัวจริงหล่อกว่าในซีรีส์สู่ประเทศไทย 🇹🇭 ค่าน้องเต้าหู้แจกไข่ให้ชาวบ้าน แต่กลับเจอมนุษย์ป้ารุมเข้ามาจัดการ ทำเอาน้องอึ้งจนพูดไม่ออก เห็นแล้วรู้สึกอายแทนจริงๆจระเข้ผอมที่สวนสัตว์จีนหมอไวท์" ชี้ 1 ราศี ชีวิตพลิกโฉมปี 2568 ดวงเด่น เงินทอง-งานใหญ่สุดปัง!"21ประเทศที่สามารถเดินทางไปไม่ต้องขอวีซ่าหุ่นยนต์ตรวจตราอัตโนมัติรูปทรงกลมของตำรวจจีนน้ำจิ้มซีฟู้ดแบบสำเร็จรูปทำไมใช้แต่พริกสีเขียวแมวตาเพชร: ความลับของดวงตาสองสีแบมแบมถูกกลั่นแกล้งเรื่องรูปลักษณ์ และถูกกล่าวหาว่าทำศัลยกรรม แต่เขากลับตอบโต้ได้อย่างเจ็บแสบ ทำให้แฟนคลับเฮลั่น!10อันดับอาชีพที่กำลังจะหายไปตำรวจอึ้ง!! นักท่องเที่ยวกลืนใบสั่งโชว์ ต่อหน้าต่อตายังทำไปได้ 😅ผิดแผน!! เมื่อพี่หมีมาสคอตจะเซอร์ไพรส์วันเกิดหนูน้อย แต่เด็กดันกลัวจนร้องไห้ ต้องเอ็นดูใครก่อนดี
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ตำรวจอึ้ง!! นักท่องเที่ยวกลืนใบสั่งโชว์ ต่อหน้าต่อตายังทำไปได้ 😅เมืองไทยมี ฮวังอินยอบ❤️🫶 ยินดีต้อนรับ #ฮวังอินยอบ ที่ตัวจริงหล่อกว่าในซีรีส์สู่ประเทศไทย 🇹🇭 ค่าน้ำจิ้มซีฟู้ดแบบสำเร็จรูปทำไมใช้แต่พริกสีเขียวแมวตาเพชร: ความลับของดวงตาสองสี
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
เคท วอร์น: นักสืบหญิงคนแรกที่เปลี่ยนเกมการสืบสวนในยุคศตวรรษที่ 19น้ำจิ้มซีฟู้ดแบบสำเร็จรูปทำไมใช้แต่พริกสีเขียวแมวตาเพชร: ความลับของดวงตาสองสี21ประเทศที่สามารถเดินทางไปไม่ต้องขอวีซ่า
ตั้งกระทู้ใหม่