ตายแล้วไปไหน
หลายคนสงสัยกันมากว่า เราตายแล้วไปไหน ? ในบทความนี้..ผมเองมีคำตอบให้กับทุก ๆ ท่านครับ อ่านให้จบแล้วคุณจะรู้ว่าความตายไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวอีกต่อไป
"ความตาย คืออะไร ?" ความตาย คือ การที่จิต หรือธาตุรู้ ได้แยกออกจาก "ธาตุ 4" คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และ "ขันธุ์ 5" คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ (ธาตุ 4 ขันธุ์ 5 ก็คือมนุษย์นี้แหล่ะซึ่งมันเป็นรูปธรรม ส่วนจิตนั้นเป็นนามธรรม) แล้วถามต่อไปอีกว่า แล้วทำไมจิตมันถึงต้องแยกออกจากกันล่ะ ? ที่จิตมันต้องแยกออกจากกัน ก็เพราะว่าจิตมันหมดกรรมที่จะต้องชดใช้ในชาตินั้น ๆ แล้ว ผมขออธิบายอย่างง่าย ๆ น่ะครับว่า จากประสบการณ์ที่ผ่าน ๆ มา ในการปฏิบัติธรรมกรรมฐานของผมเอง จะเห็นว่าตัวจิตนั้น มันจะมีสัณฐานเป็นวงกลม ส่วนตัวกรรมในแต่ละชาติของเรานั้น มันก็จะครอบคลุมตัวจิตอีกทีหนึ่ง เพราะฉะนั้น เมื่อเราได้เวียน ว่าย ตาย เกิด กันมาหลายภพหลายชาติ ตัวกรรมใหม่มันก็จะครอบคลุมกับกรรมเก่าอีก เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นหลาย ๆ ชั้น เปรียบเทียบได้ง่าย ๆ ก็คือ "ขนมชั้น" นั่นเองแหล่ะครับ กล่าวคือ ถ้าเราเองลอกชั้นบนสุดออกมันก็คือ กรรมในปัจจุบันที่เรากำลังเสวยวิบากกันอยู่ แต่เมื่อเราลอกไปจนถึงชั้นในสุด เราเองก็จะพบกับ "จิตเดิม" ของเรานั่นเอง
และเมื่อเราพบ "จิตเดิม" แล้ว ถ้ามันยังไม่ได้รับการเรียนรู้ถึง "อริยสัจ 4" คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ตัวจิตนั้นก็จะไม่เกิดปัญญา มันก็เลยทำให้กรรมใหม่ครอบคลุมจิตได้เพิ่มขึ้นอีกไปเรื่อย ๆ จนกว่าเราจะชดใช้กรรมเก่าให้หมดสิ้น และนี่ก็เป็นคำตอบที่ว่า ทำไมเราถึงต้องเวียน ว่าย ตาย เกิด กันหลายภพหลายชาติ แล้วถ้าจิตเกิดปัญญาล่ะจะเป็นยังไง กล่าวคือ ถ้าจิตเกิดปัญญา มันก็จะปล่อยวาง และตัวกรรมมันก็จะไม่ไปครอบคลุมจิตได้ ส่วนการทำให้จิตเกิดปัญญาได้นั้น เราต้องอาศัยหลักของ "ไตรสิกขา" ก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญา โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือ "ศีล" นี่แหล่ะ และตัวปัญญาก็จะเป็นตัวที่ไปชำระให้จิตมันบริสุทธิ์อีกทีหนึ่ง เพื่อที่จะเข้าสู่สภาวะ "นิพพาน" ต่อไป และจะได้ไม่ต้องกลับมาเวียน ว่าย ตาย เกิด กันอีก
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ในการปฏฺิบัติธรรมกรรมฐานจะพบว่า การตายนั่นก็คล้าย ๆ กับการถอดจิตน่ะแหล่ะ แต่การถอดจิตนั้น ผู้ถอดจิตจะสามารถกลับเข้าสู่ร่างเดิมที่เป็นมนุษย์ได้ (เพราะยังไม่หมดกรรม) ส่วนการตายนั้นจะกลับเข้าสู่ร่างเดิมไม่ได้ และจะเปลี่ยนภพภูมิทันทีเพื่อไปเสวยวิบากกรรมใหม่ต่อไป ตามบุญและบาปที่ทำกันมานั่นเอง
ส่วนสภาะก่อนตาย หรือจิตสุดท้ายก่อนตายนั้นเป็นอย่างไร จะขออธิบายอย่างคร่าว ๆ ก็คือ มันก็เหมือนกับเรากำลังนั่งดูภาพยนตร์ที่เราแสดงกันเอง แต่มันจะแสดงภาพให้เราเห็นว่า เรากระทำกรรมอะไรมาบ้าง ตั้งแต่เกิดจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นบุญ หรือบาป และสุดท้าย...ตัวจิตนั้น มันก็จะพาเราไปยังภพภูมิต่อไป ตามกำลังกรรมที่เราได้ทำมา (กล่าวคือ ถ้ากรรมไหนหนักสุด มันจะไปเสวยกรรมน้้นก่อน)
ความตายไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวเลย เพียงแค่เป็นการเปลี่ยนสถานะก็เท่านั้นเอง แต่สิ่งที่พวกเรากลัวกันนั้นมันก็คือ ความผูกพันธ์และ กลัวการพลัดพรากซ่ะมากกว่า เพราะฉะนั้นโปรดจงอยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด และพยายามทำความดีไปเรื่อย ๆ เพราะว่าจิตสุดท้ายจะเป็นตัวตัดสินเองว่า "ตายแล้วไปไหน" "สวรรค์ หรือนรก ?" สาธุ