หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เงินดิจิทัล 10,000 ได้จริงหรือขายฝัน

โพสท์โดย ohmycoin

อย่างที่เราได้ทราบกันดี​ รัฐบาลเพื่อไทยภายใต้การนำของ​ เศรษฐา​​ ทวีสิน​​ นายกรัฐมนตรีคนที่30 ได้ประกาศนโยบายแจกเงินดิจิทัล​ 10,000​ บาทตามที่ได้หาเสียงไว้​ โดยประมาณการไว้ที่​ 5.6 แสนล้านบาทมากระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ

ซึ่งข้อเท็จจริงคือเงินมูลค่า 10,000 บาทที่จะแจกให้กับประชาชนนั้น ไม่ใช่เงินบาท ไม่ใช่เงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทยด้วยซ้ำ แต่จะเป็น token ที่ทางพรรคเพื่อไทยในนามรัฐบาลเสกขึ้นมา แล้วใช้กฎหมายบอกว่า มันมีค่าเท่ากับ 1 บาท ผู้คนที่รับ token นี้ไปแลกกับสินค้าและบริการ จะต้องทำโดยอาศัยความเชื่อใจว่าพวกเขาจะสามารถนำเอา token อากาศธาตุนี้ ไป "ขึ้น" เงินได้กับผู้ให้บริการซึ่งอาจเป็นธนาคาร หรือหน่วยงานของรัฐ ดังนั้น ถ้าจะทำอย่างตรงไปตรงมา รัฐจะต้องมีการตระเตรียมงบประมาณกว่า 500,000 ล้านบาทเอาไว้สำหรับ facilitate การแลก token เป็นเงินบาท โดยมีความหวังว่าถ้าประชาชนไม่แลก และใช้ต่อไปเรื่อย ๆ จะสามารถเก็บภาษีได้จากการใช้งาน และทำให้ไม่จำเป็นต้องแลกคืนได้ทั้งหมด นอกจากนั้นยังจะสามารถกำหนดได้ด้วยว่ากระเป๋าของใครสามารถนำไปขึ้นเงินสดได้ ใครไม่สามารถขึ้นได้

ถ้าทำออกมาได้อย่างนี้จริง จะแสดงถึงโครงสร้างการออกแบบที่รวมศูนย์มาก ๆ กล่าวคือ มีผู้ issue เงินเพียงผู้เดียว และผู้ใช้งานทุกคนจะต้องทำการขึ้นทะเบียนผู้ใช้งาน 1 address ต่อหนึ่งคน ไม่สามารถสร้าง private key ของตนเองและใช้งานได้ จากนั้นฐานข้อมูลส่วนกลางจะต้องกำหนดว่าใครจะสามารถนำเงินลมเหล่านี้มาใช้ได้และใครไม่สามารถใช้ได้ และยังจำเป็นต้องรู้ตำแหน่ง geolocation ของแต่ละกระเป๋า เพื่อตรวจสอบรัศมีการใช้งานว่าผู้รับและผู้จ่ายมีภูมิลำเนาห่างกันเกิน 4km หรือไม่

จึงมั่นใจได้ว่า ไม่ใช่ระบบ open, decentralized blockchain แต่อย่างใด แต่จะต้องเป็น token digital ที่ควบคุมโดยส่วนกลาง ที่อาจใช้เทคโนโลยี public key infrastructure ในการ automate บางขั้นตอนเท่านั้น

เมื่อมองดังนี้ token ดังกล่าวจึงไม่สามารถมองได้ว่าเป็นเงินบาท เนื่องจากมีสภาพคล่องที่ต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญ มีข้อจำกัดการใช้งานที่ต่ำกว่าซึ่งจะส่งผลให้มีผู้พร้อมรับมันเพื่อแลกกับสินค้าและบริการน้อยกว่า บริษัทที่ไม่สามารถนำ token ดังกล่าวไปขึ้นเงินได้ จะต้องรับกับ counterparty risk ตลอดเวลาที่ถือ token อากาศธาตุนั้น จนอาจเป็นเหตุให้เกิดการปฏิเสธได้ หรืออย่างน้อยก็ทำให้การรักษาระดับราคาของ token ที่ peg กับเงินบาทด้วยลมปากนั้นทำได้ยากขึ้น แต่รัฐบาลอาจใช้กฎหมายบังคับให้รับเงินได้ อีกข้อที่น่าสนใจคือการกล่าวว่าการใช้จ่าย token ดังกล่าวเป็นทอด ๆ จะสร้างรายได้ให้กับรัฐกลับคืนผ่านภาษี แต่นั่นหมายความว่าผู้คนจะต้องสามารถนำเอา token เหล่านั้นมาจ่ายภาษีได้ด้วย แต่เนื่องจาก token ที่พรรคเสกขึ้นมาไม่ใช่ legal tender จึงไม่สามารถใช้ในการชำระภาษีได้ นอกจากมีการใช้อำนาจบิดเบือนการปฏิบัติหน้าที่ของกรมสรรพากร ให้หันมารับความเสี่ยงของการถือ token ลมเหล่านี้ นอกจากนั้น การผลิต token ขึ้นมาเพื่อ circulate ในระบบโดยกำหนดให้มีค่าเหมือนเงินบาท ยังจะผิดพรบ.เงินตราฉบับ 2501 อีกด้วย

ทางออกเดียวที่จะพอทำได้ตามกฎหมาย โดยมีสมมุติฐานว่าจะยังมีความเคารพต่อกฎหมายอยู่บ้าง คือการหันไปใช้ CBDC ของแบงก์ชาติ ที่ทำกันมาหลายปีและมีการทดลองใช้แล้ว ซึ่งระบบดังกล่าวจะสามารถตอบโจทย์ที่ต้องการได้ทั้งหมดไม่ยาก แต่จะต่างกันที่พรรคจะไม่มีสิทธิ์ในการเสก token อากาศธาตุขึ้นมากว่า 500,000 ล้าน token แล้วนำมาแลกเป็นเงินบาทได้
 ทำให้ 10,000 บาทในระบบกระเป๋าดิจิทัลใหม่ที่กล่าวถึงนี้ ไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่า "คำโฆษณาเพื่อการหาเสียง" เลย เป็นการสัญญาว่าจะ airdrop token ที่เสกขึ้นมาใหม่ เพื่อเป็นการเรียกคะแนนเสียงเท่านั้น โดยไม่ได้มีเหตุผลอื่นใดที่สมเหตุสมผลของการมีตัวตนอยู่เลยแม้แต่น้อย

 

อย่างไรก็ตามถ้ามองเจตนาดีที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น​ และสามารถเก็บภาษีตามที่คาดการณ์​  สามารถผ่านกฎข้อบังคับต่างๆ​ ไม่เพิ่มภาระหนี้ของประเทศขึ้นอีก​ คงจะดีไม่น้อย

โพสท์โดย: ohmycoin
อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์,ไทยพีบีเอส,ไทยโพส
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ohmycoin's profile


โพสท์โดย: ohmycoin
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เมื่อเเก้งชาวต่างชาติรวมตัวกันใส่บาตรตอนเช้า เป็นภาพที่น่ารักดีนะ ☺งามหน้า! นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นโดนสแกมเมอร์หลอก ตลาดน้ำดำเนินสะดวกสุดประทับใจ เมื่อพี่วินเจอ ณเดชน์ยังแรงไม่หยุด กระแส #แบนซีรี่ส์ท่านขุน ค่ายปล่อยเบลอ แอบเรียกนักเขียนไปคุยภาพขยี้ใจ สองฝั่งสองอารมณ์หนุ่มไรเดอร์สอนส่งเค้กยังไงไม่ให้หน้าเละดวงประจำสัปดาห์ 6-12 พ.ค. 67 โดย ภูริดา พยากรณ์ฮือฮาทั้งโซเชียล พระเอกเกาหลีพูดชื่อเต็มกรุงเทพฯ ชัดมาก "Frankly Speaking พูดตรงๆ คงต้องรัก"ดวงรายสัปดาห์ประจำวันที่ 5-11 พ.ค.67 ครูเป็นหนึ่ง
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ประวัติของต้นทิวลิป ดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศเนเธอร์แลนด์ในปัจจุบันยังแรงไม่หยุด กระแส #แบนซีรี่ส์ท่านขุน ค่ายปล่อยเบลอ แอบเรียกนักเขียนไปคุยฮือฮาทั้งโซเชียล พระเอกเกาหลีพูดชื่อเต็มกรุงเทพฯ ชัดมาก "Frankly Speaking พูดตรงๆ คงต้องรัก"เมื่อเเก้งชาวต่างชาติรวมตัวกันใส่บาตรตอนเช้า เป็นภาพที่น่ารักดีนะ ☺
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
ปลูกบ้านไว้ เห็ดขึ้นเต็มบ้านนักเรียนชาย ม.4 รร.ดังเมืองคอนป่วยซึมเศร้าพลัดตกจากอาคารเรียนชั้น 4 ไปสิ้นใจที่ รพ.มหาราชแฉ! ช่างภาพหื่uชวน "นางงามลำพูน" ถ่ายlซ็กซี่..ลามออกชู้สาว ชวนไปเที่ยวเกาะสนามบินคันไซ คว้า " อันดับ 1 ของโลกด้านการจัดการกระเป๋า "
ตั้งกระทู้ใหม่