ความเครียดคืออะไรกันแน่?
ปัจจัยความเครียดและตัวดูดพลังชีวิีต
ความเคียดคืออะไรกันแน่?
ความโกรธ ก็อย่างหนึ่ง ความเครียด ก็เป็นอีกอย่าง แล้วบางครั้งอย่างหนึ่งก็เป็นผลของอีกอย่างหนึ่ง แต่ไม่เสมอไป....
บางคนโกรธเพราะเครียด บางคนเครียดเพราะโกรธ เมื่อเราะูดถึงความเครียด เรามักจะคิดถึงความรู้สึกที่ว่ามีอะไรมาเกินไปที่ต้องทำ และมีเวลาน้อยเกินไป มีเวลาไม่พอจะทำงานทุกอย่าง แถมยังต้องออกไปนู๊น ไปนี้ พบปะเพื่อนฝูง ใช้เวลากับครอบครัว ทำกิจกรรมพักผ่อน และอีกมากมาย อ้อ แล้วก็ไหนจะเวลานอนอีก
อย่างไรก็ตาม ความเครียด ที่ส่งผลให้เราทุกข์ทรมานจริงๆ มักจะเกิดจากสิ่งอื่นที่ไม่ใช่การไม่มีเวลา
เอางี้ ถ้าคุณรู้สึกถึงแรงกดดัน ความคาดหวังสูง ในสิ่งที่ 'จะทำ' รวมถึงถูกคาดหวังว่า 'ต้องจะเป็น' คุณอาจจะเครียดได้ แม้ว่าจะไม่ได้ถูกกดดันจริงๆ จากเรื่องของเวลา
แรงกดดัน ข้อเรียกร้อง และความคาดหวังสร้างความเครียดและอาจจุส่งผลให้คุณรู้สึกตำหนิตัวเองแล้วหมดพลังไป
คุณอาจนอนไม่หลับ หรือ รู้สึกปวดตามร่างกาย พูดง่ายๆ คือ ความรู้สึกเครียดเกิดขึ้น เมื่อเรา สัมผัส ได้ถึงข้อเรียกร้องและความคาดหวังที่สูงเกินกว่าเราจะรับไหว
ทีนี้เรามารับมือ วิธีการจัดการกับความเครียดกัน (แบบคร่าวๆ แต่ได้ผลนะ)
1. การวางแผนและจัดการเวลา: การวางแผนการทำงานและกิจกรรมให้เป็นระเบียบช่วยลดความเครียด เน้นเรื่องความสำคัญและเลือกทำกิจกรรมที่สำคัญเสมอ
2. การออกกำลังกายและสร้างนิสัยดี: การออกกำลังกายสามารถช่วยลดระดับความเครียดได้ การพักผ่อนให้เพียงพอและการพัฒนานิสัยที่ดีเช่น การนอนหลับพอเพียง การรับประทานอาหารที่เหมาะสม เป็นต้น
3. การเรียนรู้เทคนิคการควบคุมความเครียด: การเรียนรู้วิธีการควบคุมอารมณ์และความคิด เช่น การฝึกการหายใจลึก การทำโยคะ หรือการใช้เทคนิคการสร้างภาพในจิตใจ
4. การตั้งเป้าหมายที่เหมาะสม: การตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้และเหมาะสมช่วยให้คุณมุ่งมั่นในการทำงานและชีวิต ลดความกังวลเกี่ยวกับความผิดหวัง
5. การสื่อสาร: การพูดคุยกับบุคคลที่ไว้วางใจเมื่อคุณรู้สึกตึงเครียดสามารถช่วยในการแก้ปัญหาและลดความกังวล
6. การเรียนรู้การปรับตัว: เรียนรู้จากประสบการณ์ที่เป็นที่ยอมรับว่าความไม่สำเร็จหรือสถานการณ์ที่น่ากลัวสามารถเกิดขึ้นได้ และพยายามหาวิธีการปรับตัวและเรียนรู้จากนั้น
7. การพิจารณาเชิงบวก: การใส่ใจเนื้อหาที่ดีและเรามีสิ่งที่น่าขอบคุณและสำรวจสิ่งที่ดีที่เกิดขึ้นรอบๆ ชีวิต
8. การหาความสมดุล: ให้ความสำคัญในทุกด้านของชีวิต เช่น งาน ครอบครัว เวลาส่วนตัว และการพักผ่อน
9. การพบปะผู้เชี่ยวชาญ: หากความเครียดเริ่มมีผลกระทบต่อคุณมากขึ้น คุณสามารถพบปะกับนักจิตวิทยาหรือผู้เชี่ยวชาญด้านความเครียดและสุขภาพจิต เพื่อขอคำแนะนำและการดูแล
10. การทำความเข้าใจเอง: ทำความรู้จักกับตัวเองและความรู้สึกของคุณ อย่าละใจกับตัวเองเมื่อเกิดความผิดหวัง และให้ความรู้สึกให้กับตนเองได้อย่างเป็นสิ่งสำคัญ
การจัดการกับความเครียดเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความพยายาม ความสำเร็จขึ้นอยู่กับการรับรู้และปรับตัวต่อสถานการณ์ อย่าลืมว่าความเครียดเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและคุณสามารถเรียนรู้จากมันและเติมเต็มพลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไปได้เสมอครับ
บทความนี้อ้างอิงจากหนังสือ : วิธีเอาตัวรอดในวงล้อมคนงี่เง่า
ใครสายอ่านไปต่อที่ ลิงค์ : https://shope.ee/5V2dTlM8tr
อ้างอิงจาก: หนังสือเรื่อง วิธีเอาตัวรอดในวงล้อมคนงี่เง่า