ผักพื้นบ้านไทย สมุนไพรต้านโรค (มะเขือเทศ)
มะเขือเทศ
ชื่อภาษาอังกฤษ : wild Tomato, Love Apple
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lycopersicun esculentum miller
วงศ์ : Solanaceae
ชื่ออื่น : มะเขือส้ม ( เหนือ ) น้ำเนอ ( เชียงใหม่ )
ลักษณะ
มะเขือเทศเป็นพืชสวนครัว สูงเท่าหัวเข่า ใบเป็นแฉก มีขนเหมือนมะเขือ แต่ใบมีขนาดเล็กกว่า ออกดอกสีเหลืองผลอ่อนกลมสีเขียวอ่อน เมื่อสุกผลจะเป็นสีแดงส้ม เนื้อในนิ่มฉ่ำน้ำ มีรสเปรี้ยวหวาน มีเมล็ดนิ่มจำนวนมาก มะเขือเทศมีหลายพันธุ์ด้วยกัน ที่นิยมคือพันธุ์สีดาซึ่งมีผลเล็กกว่าพันธุ์ฝรั่ง เปลือกบางและมีสีออกชมพู
ขยายพันธุ์ด้วยการเาะเมล็ดให้ได้ต้นกล้า ใช้เวลาหลายสัปดาห์ให้ต้นกล้าสูง 6-8 นิ้ว นำไปปลูกลงหลุมลึก 30-40 ซม. เพราะรากค่อนข้างยาว หรือลงแปลงถ้าต้องการปลูกหลายต้น แล้วใช้ก้านมะพร้าวบังแดด สัก 3 วัน มะเขือเทสชอบดินที่อุดมสมบูรณ์มีความชุ่มชื้น การระบายน้ำดี แสงแดดพอเพียง อากาศเย็น ควรปลูกในฤดูหนาวจะเหมาะสมกว่าฤดูฝน ฤดูร้อน ซึ่งจะออกผลไม่มาก
ใช้เป็นอาหาร
มะเขือเทศสีดาซึ่งมีขนาดเล็กนิยมใส่ส้มตำ ใส่ยำต่างๆ ต้มยำ ทำน้ำผลไม้ ผลสุกของมะเขือเทศทั้งสองชนิดใช้แทนกันได้ ปรุงอาหารประเภทต้มหรือยำ หรือกินสด ตกแต่งอาหาร เป็นผักทำสลัด ทำซอสมะเขือเทศ น้ำมะเขือเทศ แยมมะเขือเทศ มะเขือเทศเชื่อมหรือแช่อิ่ม
คุณประโยชน์
มะเขือเทศสุก มีวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเกือบครบ เช่น วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี วิตามินเค และวิตามินอื่นๆ วิตามินเอนั้นมีสูงมาก โดยเฉพาะในมะเขือเทศสีดาและมีสารที่สีเหลืองส้ม ธาตุฟอสฟอรัส แคลเซียม เหล็ก กรดผลไม้และสารอื่นๆ มะเขือเทศสุกจะช่วยย่อยอาหาร และช่วยฟอกเลือด ลดความดันโลหิต บำรุงหัวใจ บำรุงตับ ช่วยความจำ แก้แผลร้อนในปาก ใช้มะเขือเทศสุกฝานบางๆ หรือน้ำคั้นจากผลสดทาหน้า ช่วยบำรุงให้ผิวหน้าเต่งตึง มีน้ำมีนวลยิ่งขึ้น
กรมอนามัยให้ข้อมูลว่ามะเขือเทศสุก 100 กรัม มีพลังงาน 20 กิโลแคลอรี ไขมัน 0.3 กรัม คาร์โบไฮเดรต 4.2 กรัม โปรตีน 1.2 กรัม เส้นใย 0.7 กรัม แคลเซียม 7 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 30 มิลลิกรัม เหล็ก 0.6 มิลลิกรัม วิตามินเอ 842 หน่วย วิตามินบี1 0.06 มิลลิกรัม วิตามินบี2 0.04 มิลลิกรัม วิตาซี 23 มิลลิกรัม ไนอาซีน 0.6 มิลลิกรัม