คนไทยส่วนใหญ่ขาดสารอาหารอะไร
-
แคลเซียมและวิตามิน D: คนไทยมักขาดแคลเซียมและวิตามิน D เนื่องจากการไม่ได้รับแสงแดดมากพอ และการบริโภคนมหรืออาหารที่เสริมแคลเซียมไม่เพียงพอ การขาดแคลเซียมและวิตามิน D อาจส่งผลให้กระดูกอ่อนแอและเป็นโรคเกี่ยวกับกระดูกได้ เช่น โรคเกี่ยวกับกระดูกเสื่อม (โอสเตอรอซิส) ดังนั้นควรรับประทานอาหารที่เสริมแคลเซียมและวิตามิน D ได้ เช่น นม, ไข่, ปลาแซลมอน, และอาหารเสริมสำหรับเสริมแคลเซียมและวิตามิน D หากจำเป็น
-
แดดเมืองไทยแรงคนคงส่งสัยในจุดนี้ว่าทำไมถึงขาด คนเราสามารถสังเคราะห์วิตามินดีได้เองในระดับที่เพียงพอ เพียงรับแสงแดดวันละประมาณ 15 นาที สัปดาห์ละ 2-3 วัน แสงแดดที่มีระดับรังสียูวีบี ซึ่งเหมาะสมต่อการสร้างวิตามินดีและเกิดผลดีต่อร่างกายน้อยที่สุด คือแสงแดดยามเช้า (ช่วงเวลาประมาณ 06.00-08.00 น.) และยามเย็น (เวลาประมาณ 16.00-18.00 น.) แต่เพราะแดดบ้านเราแรงจนเกินไป จากที่เราควรได้รับรังสียูวีบี เพื่อมาสังเคราะห์เป็นวิตามินดี กลับได้ผลที่ตรงกันข้ามอาจทำให้เป็นมะเร็งผิวหนังได้ เป็นเหตุผลที่บ้านเราแดดดีแแดดแรงแต่ทำไมคนไทยถึงบอกว่าขาดวิตตามิน ดี
-
เส้นใย: คนไทยมักไม่บริโภคเส้นใยเพียงพอ การรับประทานเส้นใยเพียงพอช่วยในการปรับสมดุลของระบบย่อยอาหาร ลดความเสี่ยงของภาวะท้องผูกและโรคเบาหวาน อาหารที่เส้นใยสูงประกอบไปด้วยผักใบเขียวเข้ม ผลไม้ เช่น ข้าวกล้อง ข้าวเกรียบ และอาหารธัญพืชอื่นๆ
-
โพแทสเซียม: คนไทยอาจขาดโพแทสเซียมเนื่องจากการบริโภคอาหารเค็มมากเกินไป การขาดโพแทสเซียมอาจส่งผลให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือด เช่น ความดันโลหิตสูง ควรเลือกบริโภคอาหารที่มีโพแทสเซียมต่ำ เช่น ผัก ผลไม้ และอาหารสกัดจากธรรมชาติ
-
ธาตุเหล็ก: การขาดธาตุเหล็กอาจส่งผลให้เกิดภาวะซึมเศร้า อ่อนเพลีย และภาวะโลหิตจาง ควรบริโภคเนื้อสัตว์ที่มีธาตุเหล็ก เช่น เนื้อวัว เนื้อไก่ และเนื้อที่มีสีเข้ม
-
โปแตสเซียม: การบริโภคอาหารอุดมด้วยโปแตสเซียมเกินไปอาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจและเส้นเลือด ควรลดการบริโภคอาหารที่มีโปแตสเซียมสูง เช่น อาหารอุดมด้วยเกลือและอาหารสำเร็จรูปที่มีโปแตสเซียมสูง