loongmeeyai เล่าตำนาน ดาวจันทร์(๒)ที่มีอิทธิพลต่อดวงชะตาของผู้คน
ตำนานโหราศาสตร์ว่าด้วยดาวจันทร์(๒)
loongmeeyai
จะขอเล่าตำนานเรื่อง
ดาวจันทร์(๒)
ดาวจันทร์หรือดวงจันทร์ ซึ่งโหราศาสตร์ไทยเราใช้สัญลักษณ์แทนด้วยเลข(๒)นี้ เป็นเพียงดาวบริวารของโลกเราและมีขนาดเล็กกว่าดาวดวงอื่นๆที่เป็นบริวารของดวงอาทิตย์ที่เรียกว่าดาวนพเคราะห์
ดาวจันทร์เป็นดาวที่อยู่ใกล้โลกเรามากที่สุด ถึงแม้จะเป็นดาวดวงเล็กๆก็จริง แต่มีอิทธิพลส่งผลต่อโลกเราไม่น้อยเลย ในทางวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์ยืนยันว่าปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลงของน้ำทะเลบนโลกเราเกิดจากอิทธิพลแรงดึงดูดของดวงจันทร์
ในทางโหราศาสตร์นับดาวจันทร์ว่าเป็นดาวศุภเคราะห์ที่ให้ผลด้านดีมากกว่าด้านร้าย มีอิทธิพลและมีความสำคัญอย่างมากต่อดวงชะตาของผู้คนไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าดาวดวงอื่นๆ และบางกรณียังส่งผลต่อดวงชะตาด้วยฤทธิที่แรงกว่าดาวดวงอื่นเสียด้วยซ้ำ ในทางโหราศาสตร์ไทยเรามีเคล็ดในการนำดาาวจันทร์มาใช้บ่งชี้ในการทำนายดวงชะตาผู้คนหลายกรณีด้วยกัน ซึ่ง loongmeeyai จะได้หยิบยกมาบอกเล่าในที่นี้เฉพาะที่เห็นว่าสำคัญสำหรับผู้ที่เริ่มสนใจในวิชาโหราศาสตร์
ตำนานโหราศาสตร์ไทยกำหนดคุณลักษณะดาวจันทร์ว่าเป็นธาตุดินคู่ธาตุกับดาวพฤหัสบดี เป็นเพศหญิง(เป็นแม่) อ่อนโยนนุ่มนวล ผิวพรรณเรียบเนียนเปล่งปลั่ง ความมีเสน่ห์เป็นที่รักของผู้คนทั่วไป มีความโลเล หรือลังเลเปลี่ยนใจง่ายไม่แน่วแน่มั่นคง มีจริตอย่างผู้หญิงจุกจิกจู้จี้ ขี้บ่น หากในดวงชะตาของผู้ชายดาวจันทร์ในดวงชะตาอยู่ในตำแหน่งที่เด่นเช่นอยู่เรือนลัคนามักส่งผลให้เจ้าชะตามีลักษณะนิสัยอย่างผู้หญิงเช่นชอบแต่งตัวสวยๆงามๆ ประแป้งพรมน้ำหอม จุกจิกจู้จี้
และขี้บ่นเป็นต้น ท่านจึงได้กล่าวว่า "ทายจริตให้ทายจันทร์...."
นอกจากนี้ดาวจันทร์ยังหมายถึงโภคทรัพย์คือความมีทรัพย์มาก การทำมาหาได้โดยง่ายและรวดเร็วอีกด้วย
ทั้งยังได้ผูกเป็นตำนานไว้อีกด้วยว่า จันทร์เป็นลูกสาวของดาวพฤหัสบดี และเป็นภริยาของดาวอาทิตย์ ดาวพฤหัสบดีผู้เป็นแม่ยายรักดาวอาทิตย์ลูกเขยอย่างมากจึงเกิดเป็นเคล็ดโหรที่ว่า
"อาทิตย์เป็นมิตรกับครู"
ต่อมาภายหลังดาวจันทร์ได้พบกับดาวอังคารได้เกิดประพฤติผิดเป็นชู้กัน ดาวอาทิตย์และดาวพฤหัสบดีรู้เรื่องเข้าก็โกรธมาก อันเป็นที่มาของดาวคู่ศัตรูระหว่างดาวอาทิตย์กับดาวอังคาร ส่งผลว่าเมื่อใดในดวงชะตาของผู้ใดดาวคู่นี้โคจรมาพบกัน มักทำให้เจ้าชะตาเป็นไข้ตัวร้อนครั่นเนื้อครั่นตัว หรือถูกของร้อนเช่นน้ำร้อนลวก เกิดไฟไหม้หรืออาจถึงกับเกิดระเบิดขึ้นได้ และมักเกิดมีเหตุทะเลาะวิวาทมีปากเสียงกัน และหลักการทำนายที่ว่าเมื่อใดที่ดาวจันทร์กับดาวพฤหัสบดีโคจรมาพบกัน ให้ทายว่ามักจะถูกตำหนิติเตียนว่ากล่าวตักเตือนจากผู้ใหญ่หรือผู้บังคับบัญชา หรือเมื่อใดดาวอังคารกับดาวจันทร์โคจรมาพบกันก็จะทายว่ามักเกิดมีเรื่องรักๆใคร่ๆในทำนองชู้สาว
ด้วยเหตุที่ดาวจันทร์โคจรผ่านราศีต่างๆในจักราศีใช้เวลาสั้นมากคือ เพียงราศีละหนึ่งวันถึงสองวันเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นการยากที่นำเอาดาวจันทร์จรมาใช้ทำนายเหตุการณ์ต่างๆว่าจะเกิดมีเหตุการณ์อย่างนั้นอย่างนี้เกิดขึ้น(ถึงตรงนี้ต้องค่อยๆอ่านและทำความเข้าใจช้าๆด้วยเพราะดูออกจะขัดกับที่บอกว่าดาวจันทร์มีอิทธิพลต่อดวงชะตาผู้คนอย่างมาก)
คือในส่วนนนี้ก็อย่างที่ได้กล่าวแล้วว่าดาวจันทร์โคจรผ่านราศีต่างๆเพียงแค่ราศีละหนึ่งถึงสองวันเท่านั้น จึงไม่น่าจะบันดาลเหตุการณ์อย่างใดต่อดวงชะตาได้ก็จริง แต่ดาวจันทร์จะเป็นตัวบ่งชี้ชัดลงไปให้รู้ว่าเหตุการณ์นั้นๆจะเกิดขึ้นเมื่อใด หรือวันไหน ยกตัวอย่างเช่น กรณีดวงชะตาของผู้ใดปรากฏว่ามีดาวราหูโคจรเข้าสู่ตำแหน่งที่จะส่งผลร้ายแก่เจ้าชะตาโหรก็จะทำนายว่ากำลังจะมีเคราะห์ร้ายหรือเหตุร้ายเกิดขึ้น ปัญหาอยู่ตรงที่ว่า แล้วเหตุร้ายหรือเคราะห์ร้ายที่ว่านั้นมันจะเกิดขึ้นเมื่อใดหรือวันใด ซึ่งจะอาศัยตัวดาวราหูเองมาทำนายชี้ให้แน่ชัดลงไปว่าวันนี้วันนั้น นับว่าเป็นการยากที่จะระบุได้ เพราะดาวราหูโคจรผ่านในแต่ละราศีใช้เวลายาวนานถึงสิบแปดเดือนหรือหนึ่งปีครึ่ง ตรงนี้แหละที่ต้องใช้ดาวจันทร์มาเป็นตัวบ่งชี้ทำนายว่าเหตุร้ายที่ว่านั้นจะเกิดขึ้นวันใด โดยการพิจารณาดูว่าเมื่อใดหรือวันไหนที่ดาวจันทร์โคจรเข้าไปในราศีใดที่มีความสัมพันธ์กับดาวราหูและลัคนาของเจ้าชะตา โหรก็จะชี้ลงไปได้ว่าวันนั้นนั่นแหละที่จะเกิดเหตุร้าย ที่กล่าวนี้เป็นหลักหรือเป็นเคล็ดที่ยังต้องพิจารณาร่วมกับการโคจรของดาวอาทิย์มาประกอบเป็นหลักขั้นต้นด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งในเคล็ดข้อนี้คัมภีโหราศาสตร์ได้ระบุไว้ดังนี้
"ดีร้ายจะมีมาในมาสาอาทิตย์จร เป็นหนึ่ง เป็นห้า เป็นเก้า ท่านว่าสำคัญนัก..."
หมายความว่าดวงชะตาของผู้คนทั้งเรื่องดีและเรื่องร้าย จะเกิดขึ้นกับเจ้าชะตาในเดือนใดให้พิจารณาจากดาวอาทิตย์ว่าได้โคจรเข้าสู่ราศีใดที่มีตำแหน่งสัมพันธ์กับลัคนาซึ่งท่านระบุว่าคือราศีที่1,ราศีที่ 5,และราศีที่ 9 นับจากลัคนา ก็จะเกิดเหตุการณ์ทั้งทางดีและทางร้ายแก่เจ้าชะตา ที่ท่านว่าเป็นหนึ่งเป็นห้าเป็นเก้านี้ตามความเข้าใจของ loongmeeyai เห็นว่าเป็นการกล่าวกว้างๆไว้ ผู้ศึกษาโหราศาสตร์ต้องสังเกตุศึกษาด้วยตัวเองเสริมเพิ่มเติมด้วย ซึ่งมีหลายๆกรณีที่คัมภีมักกล่าวเอาไว้กว้างๆเช่นนี้ ผู้ศึกษาจะต้องรู้จักค้นคว้าสังเกตุด้วยตนเองด้วย ซึ่งกรณีดังกล่าวนี้เท่าที่ loongmeeyai สังเกตุจากประสพการณ์พบว่านอกจากราศีที่ 1 ราศีที่ 5 และราศีที่ 9 ยังมีราศีที่ 3,ราศีที่ 7.และราศีที่ 11 จากลัคนาอีกด้วย ที่ส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ที่ว่าขึ้น
เมื่อเราได้รู้จากการโคจรของดาวอาทิตย์ดังนี้แล้วว่าในเดือนไหน ที่เหตุการณ์ต่างๆจะเกิดขึ้นกับเจ้าชะตา ดังนี้การที่เราก็สามารถชี้ชัดลงไปได้เลยว่าวันไหนที่เหตุการณ์นั้นๆจะเกิดขึ้น ก็โดยอาศัยดาวจันทร์เป็นตัวบ่งชี้โดยยึดถือเอาตำแหน่งโคจรของดาวจันทร์เช่นเดียวกับดาวอาทิตย์ที่กล่าวข้างต้นคือเป็นหนึ่ง เป็นสาม เป็นห้า เป็นเจ็ด, เป็นเก้า และเป็นสิบเอ็ด กับลัคนา เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้แล้วเฉพาะตัวดาวจันทร์ดวงเดียวโดดๆที่โคจรผ่านจักราศีต่างๆในทุกๆเดือนก็ยังนำมาทำนายทายทักดวงชะตาได้ค่อนข้างแม่นยำอีกด้วย ซึ่งท่านโหราจารย์ได้กล่าวไว้ว่า "จันทร์ทับลัคน์ ลาภเนืองนองนักเอนกนานาอัน โสต่ำลงมาได้โภชนาอาหารการกิน" หมายความว่าในแต่ละเดือนหากวันใดที่ดาวจันทร์โคจรเข้าสู่ราศีลัคนาเจ้าชะตาจะมีโชคลาภนานาประการ อย่างน้อยก็ต้องได้ลาภเป็นอาหาร ของกินขนมนมเนยผลไม้ เป็นของฝากของกำนัล เท่าที่ได้ประสพกับตัวเองมาปรากฏว่าในข้อนี้มีส่วนเป็นจริงค่อนข้างสูง ไม่เฉพาะเรื่องลาภเรื่องของกินเท่านั้นแต่ยังรวมถึงกรณีที่หากเราต้องการไปพบไปหาใครสักคนด้วยกิจธุระใดๆเช่นไปทวงหนี้ ไปขอยิบยืมเงินทอง ไปออกปากขอความช่วยเหลือหรือเพียงแค่ไปเยี่ยมเยียน ก็มักจะได้พบได้เจอกับคนที่เราต้องการพบ และได้สมปรารถนาในสิ่งต้องการ ในหมู่โหรรุ่นก่อนๆจึงมีคำกล่าวเป็นมุขว่า "จันทร์ทับลัคน์ เหล้าสักแแก้ว แกงสักถ้วยต้องได้กินแน่"
ที่กล่าวข้างต้นนี้ส่วนใหญ่มุ่งหมายถึงดาวจันทร์จร คือดาวจันทร์ที่กำลังโคจรผ่านราศีต่างๆในแต่ละวัน
ส่วนในลำดับต่อไปนี้จะได้กล่าวถึงดาวจันทร์ที่ปรากฏอยู่ในดวงชะตาหรือดวงเกิดของแต่ละบุคคล
ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้นถึงคุณลักษณะของดาวจันทร์ไว้ว่า นุ่มนวลอ่อนโยน มีเสน่ห์เป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไปมีจริตของผู้หญิง มีทรัพย์มากดังนั้นในเบื้องต้นตำแหน่งของดาวจันทร์ในดวงเกิดก็พอจะบ่งบอกถึงลักษณะของเจ้าชะตาได้บ้างพอสมรวร จะกล่าวพอสังเขปเช่น ดาวจันทร์กุมลัคน์คืออยู่ในเรือนลัคนาเจ้าชะตามักมีใบหน้ากลมดุจดวงจันทร์โดยเฉพาะที่เจ้าชะตาเป็นหญิง หรืออยู่ในเรือนที่ 2 นับจากลัคนาจะบ่งบอกได้ว่าเจ้าชะตาเป็นคนหาเงินเก่งหาเงินได้คล่องและมีฐานะทางการเงินดี หรือเรือนอื่นๆที่สัมพันธ์ถึงลัคนาก็ส่งผลในด้านให้คุณแก่เจ้าชะตาเป็นคนมีเสน่ห์เป็นที่รักของผู้คน รู้จักเอาอกเอาใจ ทำงานด้านบริการได้ดี แต่หากเป็นดวงชะตาของผู้ชายมักรวมไปถึงว่าเจ้าชะตาเป็นคนจุกจิกจู้จี้ ขี้บ่น ดังนี้เป็นต้น
ส่วนด้านที่ไม่ให้คุณหรือไม่เป็นผลดีนัก คือการบ่งบอกว่าเจ้าชะตาเป็นคนทำอะไรหรือตัดสินใจเรื่องใดๆมักจะมีความลังเล เปลี่ยนใจง่ายๆเช่นคิดหรือวางแผนจะทำนั่นทำนี่สุดท้ายเปลี่ยนใจไม่ทำตามที่คิดที่วางแผนไว้ หรือตั้งใจจะไปตรงนั้นตรงนี้แต่สุดท้ายยกเลิกไม่ไปอย่างนี้เป็นต้น
การที่จะบ่งชี้ว่าดาวจันทร์ให้คุณให้โทษแก่เจ้าชะตาได้มากน้อยเพียงใด นอกจากจะพิจารณาจากตำแหน่งดาวจันทร์ในดวงเกิดว่าสัมพันธ์กับลัคนามากน้อยเพียงใดแล้ว ยังจะต้องพิจารณาต่อไปอีกด้วยว่าราศีที่ดาวจันทร์สถิตอยู่นั้นส่งผลให้ดาวจันทร์มีกำลังเข้มแข็งหรือว่าอ่อนกำลัง ซึ่งคัมภีโหรได้กำหนดราศีที่ดาวจันทร์สถิตแล้วมีกำลังเข้มแข็งหรืออ่อนกำลังเอาไว้ดังนี้
ราศีที่ดาวจันทร์สถิตอยู่แล้วมีกำลังเข้มแข้งส่งผลดีต่อดวงชะตาคือ
ดาวจันทร์สถิตที่ราศีพฤษภตำแหน่งนี้ดาวจันทร์มีศักดิ์เป็นดาวอุจหรือมหาอุจ ดาวจันทร์มีความเข้มแข็งส่งผลต่อเจ้าชะตาได้มากที่สุดเช่น มีผิวพรรณเรียบเนียนเปล่งปลั่ง ดูมีสง่าราศี มักมีทรัพย์มาก หาทรัพย์ได้ง่าย มีเสน่ห์มากเป็นที่รักของคนทั่วไป
ดาวจันทร์สถิตที่ราศีกรกฎ ซึ่งดาวจันทร์เป็นดาวเจ้าเรือนราศีกรกฎเรียกว่าดาวเกษตรมักส่งผลด้านจริตกิริยาดังที่ได้กล่าวไว้ระหว่างชายกับหญิงได้ค่อนข้างชัดเจน
ดาวจันทร์สถิตที่ราศีเมษเรียกว่าดาวมหาจักร ก็ส่งผลเข้มแข็งให้เจ้าชะตามักมุ่งมั่นในการทำมาหาได้
ดาวจันทร์ที่สถิตในสามราศีดังกล่าวนี้มีอิทธิพลส่งผลต่อดวงชะตาตามคุณสมบัติหรือคุณลักษณะของดาวจันทร์ได้เต็มที่ คือเกิดผลต่อเจ้าชะตาอย่างเห็นได้ชัด
ราศีที่ดาวจันทร์สถิตอยู่แล้วอ่อนกำลังลงและมักให้โทษแก่เจ้าชะตาเสียมากกว่าที่จะให้คุณได้แก่
ดาวจันทร์สถิตที่ราศีพิจิกเรียกว่าดาวจันทร์เป็นนิจ(ตรงข้ามกับดาวอุจ)คัมภีโหราศาสตร์กล่าวไว้ว่า "จันทร์เป็นนิจ มีสมบัติมักฉิบหาย" เท่าที่ได้ประสพพบมาเจ้าชะตามักมีเหตุให้ต้องสูญเสียทรัพย์คราวละเป็นจำนวนมากๆเช่นถูกฉ้อโกง สูญเสียจากอุบัติภัยเช่นน้ำท่วมไฟไหม้เป็นต้น
ดาวจันทร์ที่ราศีมังกรเรียกว่าดาวประเกษตร ดาวจันทร์อ่อนแรง ที่เคยพบเห็นมาบางรายมีผิวพรรณไม่เรียบเนียนผิวหนังเป็นตุ่มพุพอง เป็นแผล
ตำแหน่งของดาวจันทร์ในดวงเกิดที่สัมพันธ์ถึงลัคนา
ก็มีความสำคัญยิ่งกับเจ้าชะตา ซึ่งจะได้แยกกล่าวเป็นสองกรณีคือกรณีให้คุณ กับกรณีเป็นโทษต่อดวงชะตา
กรณีที่เป็นคุณต่อเจ้าชะตาคือ ดาวจันทร์ที่สถิตอยู่ในราศีที่1หรือที่เรียกลัคนากุมจันทร์,ราศีที่3 เรียกว่าจันทร์โยคหน้าราศีที่5,ราศีที่7,ราศีที่9,
และราศีที่11 หรือที่เรียกว่าจันทร์โยคหลัง เหล่านี้ล้วนทำให้ดาวจันทร์ส่งผลต่อดวงชะตาตามฤทธิของดาวจันทร์ ได้มากและค่อนข้างชัดเจนโดยเฉพาะดาวจันทร์ที่ราศีที่3 ที่เรียกว่าโยคหน้า และราศีที่11 ที่เรียกว่าโยคหลังหรือจันทร์สิบเอ็ด ซึ่งกรณีทั้งสองตำแหน่งนี้ยังส่งผลในทางคุ้มครองป้องกันเจ้าชะตาให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากเหตุเภทภัยต่างๆที่จะเกิดกับเจ้าชะตาได้อีกต่างหากด้วย จนอาจกล่าวได้ว่าหากจะเกิดภัยร้ายหรือเรื่องร้ายแรงหนักหนาสาหัสก็กลับกลายเป็นเบา สามารถคลี่คลายให้ผ่านพ้นไปได้
กรณีให้โทษแก่เจ้าชะตาคือ ดาวจันทร์ที่สถิตอยู่ในตำแหน่งราศีที่ 6,ราศีที่ 8,และราศีที่ 12 นับจากลัคนา
ดาวจันทร์ที่สถิตในราศีที่ 6 นับจากลัคนา มักส่งผลให้มีคนคอยคิดอิจฉาริษยา คอยก่อเรื่องราวให้เดือดร้อนรำคาญใจแก่เจ้าชะตา
ดาวจันทร์ที่สถิตในราศี 8 นับจากลัคนา นับว่าเป็นตำแหน่งที่ส่งผลในทางร้ายแก่เจ้าของดวงชะตาเป็นอย่างยิ่ง ตำราโหรเรียกว่าดวงแตก แม้ว่าจะพิจาณาพบว่าดวงชะตามีดาวต่างๆส่งผลดีแก่เจ้าชะตาคือเรียกว่าชะตาที่ดีสักเพียงไหน_ผลที่ปรากฏกับเจ้าชะตาจะลดทอนผลดีลงไปกว่าครึ่ง
ดาวจันทร์สถิตในราศีที่ 12 นับจากลัคนา เจ้าชะตามักไม่เป็นที่ชื่นชอบของผู้คน ทำการใดมักติดๆขัดๆไม่ราบรื่นและไม่มีคนคอยสนับสนุนช่วยเหลืออย่างนี้เป็นต้น ไม่ค่อยเหมาะกับอาชีพการงานที่เกี่ยวกับการให้บริการแก่ผู้คนเช่นเปิดร้านอาหาร เพราะไม่รู้จักเอาอกเอาใจผู้คน ไม่นุ่มนวลไม่ค่อยจะประนีประนอมกับผู้คน ถือเอาความรู้สึกตนเองว่าตนเองชอบหรือไม่ชอบเป็นหลักโดยไม่ค่อยคำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่น
ที่ได้กล่าวมานี้เป็นเพียงแค่ส่วนเล็กน้อยของคุณสมบัติของดาวจันทร์ที่จะนำมาใช้ในการทำนายดวงชะตา
ยังจะมีผลอันสืบเนื่องจากดาวจันทร์หรือดวงจันทร์ข้างขึ้นหรือข้างแรมอีกด้วยต่างหาก ที่ส่งผลต่อดวงชะตาผู้คนต่างกัน ดังที่เรามักได้ยินคำกล่าวถึงคนที่ทำอะไรเดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ร้ายว่าเขามีอาการดุจเดียวกับจันทร์ข้างขึ้นข้างแรม
ซึ่งหากจะนำมาเล่าเสียในคราวเดียวกัน ก็ดูออกจะยืดยาวทำให้น่าเบื่อ จึงขอเก็บเอาไว้บอกเล่าในคราวต่อไป
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ท่านที่ได้อ่านบ้างตามสมควร
เขียนและเรียงโดย
loongmeeyai