วิธีอ่านหนังสือ ให้จำแม่น ฉบับคนที่มีเวลาน้อย
เมื่อการสอบใกล้เข้ามาไม่ว่าจะเป็นการสอบ มิดเทอม หรือไฟนอล การย่อยข้อมูลที่สำคัญจะทำให้เราดูดซึมข้อมูลได้มากที่สุด
วันนี้จึงขอแนะนำเคล็ดลับการอ่านหนังสือที่เราใช้เองในตอนเรียน (ตอนนั้นเรียนนิติศาสตร์นะ) และปัจจุบันก็ยังใช้วิธีนี้อยู่ในการอ่านหนังสือต่าง ๆ ค่ะ
มาเริ่มกันเลยนะคะ
1. จับประเด็นสำคัญ และหัวข้อที่สำคัญ
ก่อนที่เราจะอ่านหนังสือนั้น เราควรแยกประเด็นสำคัญในแต่ละหัวข้อเรียงออกมาก่อนว่าในเรื่องที่เรากำลังอ่านนั้นมีหัวข้อสำคัญอะไรบ้าง เนื่องจากเนื้อหาของแต่ละหัวข้อนั้นมีความต่อเนื่องกัน การที่เราแยกหัวข้อออกมาก่อนที่จะเริ่มอ่านเนื้อหาจะทำให้เราสามารถเห็นภาพรวมของเนื้อหาได้ชัดเจนขึ้น สามารถจับประเด็นสำคัญได้ว่า อะไรที่ควรรู้ อะไรที่สำคัญและน่าจะออกสอบ และอาจจะโน้ตหัวข้อนั้นไว้ จะได้ไม่หลงประเด็น
2. อ่านพร้อมกับจดโน้ตสั้น ๆ ไปพร้อม ๆ กัน
วิธีการจดโน้ตนั้นสามารถทำได้หลายรูปแบบ บางคนอาจชอบการจดโน้ตที่มีสีสันเยอะ หรือจดเพียงใช้ปากกาแท่งเดียว ซึ่งการจดโน้ตนั้นสามารถทำได้โดยเลือกหัวข้อคีย์เวิร์ดที่สำคัญ และห้ามจดเยอะจนเกินไปเพราะจะทำให้จำไม่ได้ การจดโน้ตควรจน 1 บทใน 1 หน้า A4 สำหรับเนื้อหาที่เยอะ หรือ จด 1 บทใน 2-3 โพสต์อิท ซึ่งการจดโน้ตสั้น ๆ นี้จะทำให้เราอ่านทบทวนได้หลายรอบนั้นเอง
3. อ่านด้วยความเข้าใจ เชื่อมโยงได้
ในการอ่านหนังสือนั้น หากต้องการจำให้แม่น จะต้องมีความ “เข้าใจ” เนื้อหานั้น และสามารถ “เชื่อมโยงได้” เช่น การยกตัวอย่าง “ให้เห็นภาพ” ว่าทำไมจึงเกิดผลลัพธ์เช่นนี้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจและจำได้ดียิ่งขึ้น
4. อ่านสลับพักเป็นช่วง ๆ
การอ่านหนังสือจะต้องมีเวลาสำหรับการพักผ่อนเพื่อคลายสมองด้วย เช่น การอ่านหนังสือ 30 นาที และพัก 5 นาทีสลับกันไป เพราะหากเราเร่งอ่านติดๆ กันหลายๆ ชั่วโมงจะทำให้สมองเราล้าและไม่สามารถโฟกัสกับเนื้อหาได้เป็นเวลานาน ๆ
5. การนอนหลับอย่างมีคุณภาพ
การอ่านและทำทุกอย่างนั้นจะเสียหมด หากเราไม่ได้นอนหลับพักผ่อน หรืออดนอน เพราะอาจจะทำให้เราเบลอคิดอะไรไม่ออกระหว่างการทำข้อสอบได้ ดังนั้นแม้จะมีความเครียดแค่ไหนก็ต้องนอนให้มีคุณภาพ เพราะการนอนหลับจะเปลี่ยนความทรงจำระยะสั้นเป็นความทรงจำระยะยาวและทำให้เรามีความจำที่ดีขึ้น
6. ทบทวน
เมื่อเราอ่านเนื้อหาและทำโน้ตสรุปสั้นๆ แล้ว ช่วง 1 อาทิตย์ก่อนสอบควรนำสรุปโน้ตสั้น ๆ ของเรามาทวนซ้ำพลิกดูทุกวัน เพื่อให้จำขึ้นใจ
ทั้งหมดนี้ทุกคนลองนำไปปรับใช้กันดูนะคะ เป็นกำลังใจให้น้อง ๆ นักเรียนทุกคนให้ผ่านอุปสรรคทุกอย่างไปได้ค่ะ