ทุเรียนนอกฤดู
ทุเรียนหมอนทอง ลักษณะทั่วไป
ทุเรียนหมอนทอง เป็นทุเรียนเพาะจากเมล็ดกำปั่นเหลือง ลักษณะเป็นไม้ยืนต้น ทรงพุ่มสูงโปร่ง คล้ายรูปกรวยคว่ำ กิ่งใหญ่ตั้งฉากกับลำต้น ส่วนกิ่งอ่อนจะลู่ลงด้านล่าง ใบเป็นใบเดี่ยว มีลักษณะเรียวยาวแหลม ออกตรงข้ามกัน ส่วนดอก ออกเป็นช่อ กลีบดอกมีสีขาว รูปทรงคล้ายระฆัง
ส่วนผล เป็นผลเดี่ยว มีขนาดใหญ่ เมื่อโตและสุกเต็มที่ จะมีสีน้ำตาลปนเขียว น้ำหนักประมาณ 3 – 4 กิโลกรัม ฐานหนามเป็นเหลี่ยม ระหว่างหนามใหญ่ จะมีหนามเล็กขึ้นแซมอยู่ทั่วไป เรียกกันว่า เขี้ยวงู เนื้อทุเรียนข้างใน พูมักไม่ค่อยเต็มทุกพู เนื้อหนาสีเหลืองอ่อนละเอียด เนื้อแห้งไม่แฉะติดมือ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เฉพาะตัว รสชาติหวานมันกำลังพอดี
ต้น ทุเรียนหมอนทอง ปลูกกี่ปี
ต้น ทุเรียนหมอนทอง ใช้เวลาปลูก 4 – 6 ปี ถึงจะให้ผลผลิต เมื่อเริ่มออกผลได้แล้ว ก็จะออกต่อจากนั้นเรื่อย ๆ และ ดกขึ้นทุกปี ถ้าดินอุดมสมบูรณ์ ได้รับการดูแลรักษาดี และ ได้รับน้ำอย่างเพียงพอ
สภาพดินที่เหมาะกับการปลูกทุเรียนหมอนทอง
อยากปลูก ทุเรียนหมอนทอง ให้โตเร็ว ให้ปลูกในดินที่สามารถระบายน้ำและอากาศได้ดี ได้แก่ ดินร่วน ดินร่วนปนทราย ดินเหนียวปนทราย และ ต้องมีหน้าดินลึกด้วย เพราะทุเรียนเป็นพืชที่อ่อนแอต่อสภาพน้ำขัง โดยความเป็นกรดด่างของดิน ควรอยู่ระหว่าง 5.5 – 6.5 ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องปลูกทุเรียนในสภาพดินทราย จะต้องนำหน้าดินจากแหล่งอื่นมาเสริม แล้วปรับสภาพดิน โดยใส่ปุ๋ยคอก และ ต้องมีการดูแลเรื่องการให้น้ำมากเป็นพิเศษ มีแหล่งน้ำเพียงพออยู่ใกล้ ๆ ด้วย
ฤดูที่เหมาะกับการปลูกทุเรียนหมอนทอง
ฤดูที่เหมาะกับการปลูกทุเรียนหมอนทอง คือ ฤดูร้อน ช่วงเดือนมีนาคม – เดือนเมษายน แต่ถ้าหากจัดระบบน้ำไม่ทัน หรือ ยังไม่อาจดูแลเรื่องน้ำได้ ควรจะปลูกในช่วงต้นฤดูฝน
ทุเรียนหมอนทอง ราคา
ราคาของ ทุเรียนหมอนทอง อยู่ที่ 120 – 150 กิโลกรัม โดยหากเป็น หมอนทองเบอร์เล็ก ราคาอยู่ที่ 120 บาท/กิโลกรัม ส่วนหมอนทองเบอร์ใหญ่ ราคา 150 บาท/กิโลกรัม
1. เลือกต้นกล้าที่มีอายุไม่เกิน 1 ปี
หากไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน แนะนำให้ปลูกทุเรียนหมอนทอง โดยการปลูกจากต้นกล้าจะดีที่สุด เพราะจะได้ไม่เสียเวลาเพาะเมล็ด รวมถึง ต้องเสียบยอดอ่อน เพื่อพัฒนาระบบรากด้วยตัวเอง โดยต้นกล้าทุเรียนหมอนทอง ควรมีอายุไม่เกิน 1 ปี ลักษณะต้นควรมีความสมบูรณ์แข็งแรง ไม่แคระแกรน ใบมีสีเขียวสด ความสูงของต้นพันธุ์ ไม่ควรเกิน 60 – 70 เซนติเมตร เพราะถ้าสูงกว่านี้ แสดงว่า อยู่ในถุงชำนานมากกว่า 1 ปี ทั้งนี้ จะใช้แบบกิ่งข้าง หรือ กิ่งกระโดง ก็ได้
2. เตรียมพื้นที่ปลูกให้เป็นโคกสูง
ถ้าไร่สวนของใครเป็นพื้นที่ราบ ให้เตรียมพื้นที่ปลูกเป็นโคกสูง โดยนำดินบริเวณที่จะปลูก 1 ส่วน ผสมแกลบดิบ 1 กระสอบ และ ปุ๋ยคอก 1 กระสอบ เพื่อทำให้ร่วนซุย เสร็จแล้ว พูนดินสูงขึ้นจากดินเดิม ราว 50 เซนติเมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เมตร ซึ่งหากใครไม่อยากพูนดินสูงเป็นจุด ๆ จะขุดยกร่อง ปรับพื้นที่เป็นเนินลูกฟูก ตลอดแนวเลยก็ได้ โดย ระยะห่างระหว่างลำต้น และ ระยะห่างระหว่างแถว ควรอยู่ที่ 9 เมตร เพื่อให้สะดวกต่อการนำเครื่องจักร หรือ ยานพาหนะต่าง ๆ เข้าไปทำงานในพื้นที่ เฉลี่ยแล้ว 1 ไร่ จะปลูกได้ไร่ละ 20 ต้น
3. ตัดรากที่ขดออก ก่อนลงปลูก
เมื่อเตรียมพื้นที่เสร็จแล้ว ให้ขุดหลุมปลูกตรงกลางโคก หรือ บริเวณที่กำหนดไว้ แล้วย้ายต้นกล้าลงปลูก โดยก่อนจะย้ายลงไป ให้เอาดินด้านล่างออก อย่างน้อย 1 ใน 5 พร้อมกับทำการตัดปลายรากที่ขดออก แล้วแผ่รากฝอยออกไปรอบ ๆ ต้น จะช่วยให้รากแก้วเจอกับดินใหม่ได้ง่าย หาอากาศหายใจได้ดี และ ปรับตัวได้เร็วขึ้น พอทำเสร็จแล้ว จึงกลบดินให้พอมิดโคนต้น (ทั้งนี้ ควรระมัดระวังอย่าให้ตุ้มดินแตก เพราะอาจทำให้รากขาดได้)
4. ปักไม้ค้ำ และ คลุมโคนต้นด้วย ฟางข้าว
หลังจากย้ายต้นกล้าลงหลุมปลูกเรียบร้อยแล้ว ให้ปักไม้ค้ำไว้ข้าง ๆ แล้วผูกเชือกเข้ากับต้นกล้าให้แน่น เพื่อไม่ให้ลมพัด จนต้นกล้าโยก วิธีนี้จะทำให้ทุเรียนปลูกใหม่ตั้งตัวได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ ควรคลุมโคนต้นด้วยฟางข้าว เพื่อรักษาความชื้น ทำให้ต้นทุเรียนไม่รู้สึกร้อนจนเกินไป และ ปกป้องรากทุเรียนที่หาน้ำและอากาศบนผิวดิน
5. รดน้ำอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
วางระบบการให้น้ำ โดยจะใช้ระบบสปริงเกอร์ หรือ เจาะสายยาง ก็ได้ รดน้ำให้ต้นทุเรียนอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ในช่วง 1 เดือนแรก โดยควรให้เวลาเดิมทุก ๆ วัน และ ไม่ควรรดน้ำโดยตรง เพราะอาจทำให้ดินแฉะ จนรากต้นทุเรียนเน่าได้ หลังจากปลูกได้แล้ว 1 ปี จึงค่อยลดความถี่ลง เหลือ 2 – 3 วัน/ครั้ง แต่ถ้าเป็นช่วงฤดูฝน ก็งดการให้น้ำได้
6. พรางแสงให้กับต้นทุเรียน ด้วยสแลนกันแดด
เพราะต้นทุเรียนหมอนทองปลูกใหม่ ไม่ชอบที่โล่งแจ้ง หรือ แดดจ้า หากไม่ปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อให้ร่มเงา ให้ทำโครงไม้ แล้วคลุมสแลนกันแดดแทน โดยโครงไม้ควรปักให้ห่างจากลำต้น เพื่อให้อากาศถ่ายเท และ สแลนกันแดด ควรคลุมสูงเหนือต้นทุเรียนอย่างน้อย 1 ฟุต เพื่อพรางแสงให้กับต้นทุเรียนได้ทั้งต้น
7. การใส่ปุ๋ยและทำโคน
การใส่ปุ๋ยและทำโคน (การกำจัดวัชพืช) ควรทำเดือนเว้นเดือน หลังจากปลูกต้นทุเรียนหมอนทองได้แล้ว 1 เดือน เพราะในช่วงแรกต้นทุเรียนยังตั้งตัวไม่ติด หากให้ปุ๋ยทันที จะไม่เกิดประโยชน์ และ ยังทำให้ทุเรียนอาจตายได้ โดยการใส่ปุ๋ย ให้ขุดเป็นร่อง ๆ รอบต้นทุเรียน อย่าใส่ตรงโคนต้นโดยตรง สามารถแบ่งได้เป็น 4 ช่วง / 1 ปี คือ
ช่วงที่ 1 – ช่วงที่ 3 ใส่ปุ๋ยคอก อย่างน้อย 5 กิโลกรัม ต่อต้น
ช่วงที่ 4 ใส่ปุ๋ยคอก 5 กิโลกรัมต่อต้น ร่วมกับปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 ประมาณ 150-200 กรัมต่อต้น
8. การตัดแต่งกิ่ง
เพื่อให้ต้นทุเรียนมีโครงสร้างและทรงพุ่มที่ดี ให้ตัดแต่งกิ่ง หลังจากปลูกแล้วประมาณ 1 – 1.5 ปี มีเทคนิค คือ จะต้องเว้นลำต้นเดี่ยว และ เว้นกิ่งประธานกิ่งแรก สูงจากพื้นดินประมาณ 1 เมตร เลือกตัดแต่งกิ่ง แต่กิ่งเล็กกิ่งน้อย เพื่อให้กิ่งเรียงเป็นระเบียบ เหมาะแก่การไว้ผล และ ไม่บดบังแสงแดดซึ่งกันและกัน
9. การตัดแต่งดอก
หลังจากออกดอกได้ 5 สัปดาห์ ควรตัดแต่งช่อดอกบนกิ่งขนาดเล็ก หรือ ดอกที่อยู่ปลายกิ่งทิ้ง ให้เหลือเฉพาะดอกรุ่นเดียวกันในกิ่งเดียวกัน ให้มีจำนวนช่อดอกประมาณ 3 ถึง 6 ช่อดอก ต่อ ความยาวกิ่ง 1 เมตร และ ห่างกันอย่างน้อยประมาณ 30 เซนติเมตร ทั้งนี้ ควรจดบันทึกวันดอกบานของแต่ละรุ่น แต่ละต้นไว้ เพื่อความสะดวกในการตัดแต่งดอก
อ้างอิงจาก: https://www.sgethai.com/article/วิธีปลูกทุเรียนหมอนทอง/