ว่าด้วยเรื่อง"ประเภทของภาพยนตร์"

ภาพยนตร์หรือหนัง (Movie) คือสื่อที่เรารับชมเพื่อความบันเทิงหรือความรู้ อะไรก็ตาม ซึ่งแต่ละคนก็คงจะมี"แนว"ของภาพยนตร์ที่ชอบแตกต่างกันไป ตอนเริ่มดูแรกๆ ผมก็ไม่ได้รู้อะไรมากนัก หนังรัก หนังผี หนังตลก.. จนพอได้เปิดโลกการดู ทำให้รู้ว่ามีผลงานมากมายในโลกนี้ที่มนุษย์สร้างขึ้น มันทั้งตื่นตาตื่นใจ บางเรื่องก็ให้ความสดใหม่ ประสบการณ์ที่ไม่เคยสัมผัส ทำให้สนใจที่จะค้นคว้าหาข้อมูลและก็ทำให้ได้พบว่าประเภทของภาพยนตร์นั้นมีมากมายต่างกันออกไปแล้วแต่รสนิยมของผู้สร้างและผู้ชม ซึ่งวันนี้ผมได้จำแนกและย่อยมาเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายที่สุด

ก่อนจะเริ่มต้องขออธิบายก่อนว่า ภาพยนตร์หนึ่งเรื่องนั้น อาจจะไม่จำเป็นต้องจำกัดว่าอยู่ประเภทใดประเภทหนึ่ง หนึ่งเรื่องอาจจะมีหลายแนวก็ได้ ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบต่างๆ ในภาพยนตร์ ซึ่งจะแบ่งหลักๆ ได้ 3 อย่าง ดังนี้

ฉาก หมายถึง สถานที่และสิ่งแวดล้อมที่เรื่องราวในภาพยนตร์ดำเนินไป

อารมณ์ หมายถึง ความรู้สึกที่ผู้ชมได้รับตลอดการชมภาพยนตร์

รูปแบบ หมายถึง อุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายทำและวิธีดำเนินเรื่อง

ซึ่งทุกอย่างไม่ได้มีอะไรตายตัว ไม่มีผิดถูก ขึ้นอยู่กับภาพรวมทั้งหมด เสมือนงานศิลปะที่แต่ละคนก็จะได้รับความรู้สึกที่ต่างกันออกไป โดยประเภทของภาพยนตร์นั้นแบ่งกว้างๆได้ 18 ประเภท ไปเริ่มกันเลยครับ

1.ภาพยนตร์แอ็กชั่น (Action Film)
ภาพยนตร์แนวบู๊ ต่อสู้ ระทึกใจ เน้นสร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับผู้ชมผ่านการใช้ความรุนแรง โดยเนื้อหาอาจจะย่อยง่ายหรือซับซ้อนก็ขึ้นอยู่กับเรื่องนั้นๆ แต่ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือความมันส์แบบระเบิดภูเขาเผากระท่อม

2.ภาพยนตร์สงคราม (War Film)
ที่มีการอ้างอิงเหตุการณ์สงครามที่เกิดขึ้นในอดีต เน้นจุดๆหนึ่งในสงครามนั้นๆ โดยตีแผ่ออกมาผ่านมุมมองต่างๆ อาจจะมีการเสริมเหตุการณ์หรือสร้างขึ้นมา ซึ่งส่วนมากภาพยนตร์แนวนี้มันแฝงมาด้วยความสะเทือนใจ บางทีเห็นโปสเตอร์สวยๆกะเข้ามาดูเอามันส์ แต่กลับน้ำตาร่วงก็เป็นได้

3.ภาพยนตร์ผจญภัย (Adventure Film)
ภาพยนตร์แนวผจญภัย ตะลุยป่าฝ่าดง เจอปัญหาอุปสรรคมากมาย และต้องมีการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ สร้างความลุ้น ตื่นเต้นให้กับผู้ชมผ่านการเอาตัวรอดของตัวละคร ตามสูตรในกลุ่มจะต้องมีคนฉลาดกับตัวโจ๊กคู่กัน

4.ภาพยนตร์คาวบอยตะวันตก (Western)
เป็นหนังที่แสดงวิถีชีวิตของคนอเมริกันยุคบุกเบิกที่เข้าไปตั้งรกรากในดินแดนป่าเถื่อนแถบตะวันตกของสหรัฐอเมริกาเมื่อร้อยกว่าปีก่อน เน้นเรื่องราวของคนที่มีอาชีพรับจ้างขี่ม้าต้อนวัว หรือเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ ที่ต้องสู้กับแก้งโจรผู้ร้าย นายทุน หรือเจ้าหน้าที่รัฐที่ชั่วร้าย การดวลปืน พวกนอกกฎหมาย สเน่ห์ของหนังคาวบอยก็คือ ความเท่ ความเก่งในการชกต่อย ฉากทะเลาะกันในบาร์ ฉากดวลปืน ซึ่งพล๊อตเรื่องมักจะวนๆซ้ำๆ ทำให้ปัจจุบันหนังแนวนี้ไม่ค่อยมีให้ชม

5.ภาพยนตร์ตลก (Comedy)
หนังตลกโปกฮา ขายขำ เบาสมอง เน้นความสนุกสนานและเสียงหัวเราะ สำหรับดูเพื่อพักผ่อน ไม่ต้องคิดอะไรมาก เน้นฮากลิ้งลูกเดียว

6.ภาพยนตร์ดราม่า (Drama)
ส่วนมากจะเป็นเรื่องราวชีวิตที่เข้มข้น สร้างความตื่นตัวตื่นใจ ความเศร้าสลด ผ่านเส้นเรื่องและการแสดง ดูแล้วจะรู้สึกอินไปกับตัวละคร สัมผัสได้ถึงความรู้สึกซึ้งเศร้า เคล้าน้ำตา เข้าถึงได้ง่ายเพราะมีความคล้ายกับเรื่องราวที่เสามารถเกิดขึ้นได้

7.ภาพยนตร์อีโรติก (Erotic Film)
อย่างที่รู้ๆกัน เป็นภาพยนตร์ที่ไม่เหมาะกับผู้ที่มีอายุไม่ถึง 18 ปี มักจะมีฉากวาบหวิวชวนสยิว เรื่องราวจะเกี่ยวกับเรื่องรัก เรื่องเพศ

8.ภาพยนตร์เพลง (Musical)
เป็นหนังที่ตัวละครมักจะเต้นรำทำเพลง เน้นความไพเราะ ละมุน ของเพลงที่เข้ากันกับบรรยากาศในหนัง ส่วนมากก็จะเป็นเพลงที่ถ่ายทอดตามเนื้อหาไม่ว่าจะเป็นความรัก ความฝัน

9.ภาพยนตร์รักโรแมนติก (Romance)
ชาวไทยเราน่าจะคุ้นเคยกันดี เรียกติดปากกันว่า"หนังรัก" ส่วนใหญ่มักมีเนื้อหาย่อยง่าย เกี่ยวกับวัยรุ่น ความรักฉันชู้สาว เน้นไปที่อารมณ์ของหนังเป็นหลัก จะมีตัวละครพระนางที่เป็นจุดเด่น ตัวชูหลักของเรื่อง หนังสามารถให้ได้ทั้งฟีลแบด-ฟีลกู๊ด แล้วแต่เรื่อง

10.ภาพยนตร์นิยายเหนือจริง : แฟนตาซี (Fantasy)
เนื้อหาจะเกี่ยวข้องกับเวทมนตร์ การผสมจินตนาการ และเรื่องเหนือจริง เรื่องในฝัน เน้นโทนภาพสีสันที่สวยงาม หวือหวา สร้างความสนุกสนาน ตื่นตาตื่นใจ ด้วยฉากและเนื้อเรื่องที่ไม่อยู่ในความเป็นจริง

11.ภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ หรือ ไซไฟ (Science fiction หรือ sci-fi)
ภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาอ้างอิงวิทยาศาสตร์ หรือใช้ความรู้เชิงวิทยาศาสตร์หรือเทคโนโลยีเข้าช่วยในการอธิบาย ฉาก พฤติกรรมของตัวละคร หรือความเป็นไปของเนื้อเรื่อง มักเป็นเรื่องราวของโลกในอนาคต หรืออวกาศ ที่มีเทคโนโลยีที่เกิดจากวิทยาศาสตร์สมัยใหม่เป็นองค์ประกอบ เน้นอะไรที่อลังการ ล้ำยุค สร้างความสนุกตื่นเต้น

12.ภาพยนตร์สยองขวัญ (Horror Film)
บางคนอาจเหมารวมว่าหนังผี ซึ่งจริงๆคือรวมหมดทุกอย่างที่สร้างอารมณ์ตื่นเต้น หวาดกลัว บรรยากาศที่กดดัน ตึงเครียด บางเรื่องอาจมีฉากสยองชวนแหวะ เลือดสาด เน้นความรุนแรง บางเรื่องก็เป็นผีล้วนๆ สะดุ้งตุ้งแช่ไปเลย

13.ภาพยนตร์ระทึกขวัญ (Thriller)
คอนเซ็ปต์คล้ายๆกับหนังสยองขวัญ แต่อาจไม่ได้เน้นไปที่ฉากไล่ล่าฆ่าแกง และไม่จำเป็นต้องหนังผีหรือหนังฆาตรกร แค่มวลรวมบรรยากาศในหนังเน้นไปที่ความตื่นเต้น ลุ้นระทึก บางเรื่องอาจมีตอนจบที่หักมุม

14.ภาพยนตร์ลึกลับ (Mystery)
เนื้อหามักเกี่ยวกับเรื่องลึกลับ เรื่องราวแปลกๆ ที่หาข้อพิสูจน์ไม่ได้ สร้างความฉงนงงงวย และความรู้สึกท้าทายในการแก้ไขปริศนา บางเรื่องก็เน้นไปที่การสืบสวนสอบสวน พ่วงไปกับการให้อารมณ์ระทึกขวัญ

15.ภาพยนตร์อาชญากรรม (Crime)
เนื้อหานำเสนอเกี่ยวกับอาชญากรรม ตีแผ่มุมมองผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ฆาตกรรม ค้ายา แก็งค์มาเฟีย หรือกลุ่มผู้ก่ออาชญากรรม การสูญเสียและการแก้แค้น ตัวเอกมักเป็นส่วนหนึ่งของอาชญากรรม หรือตำรวจสืบสวน

16.ภาพยนตร์การ์ตูน (Animation)
Walt Disney หรือ Pixar ที่เราคุ้นเคย งานภาพเป็นการ์ตูนตามจินตนาการจะ 2D หรือ 3D ก็ได้ ใช้เสียงพากย์ เนื้อหาสามารถดูได้ทุกเพศทุกวัย บางเรื่องก็เน้นเจาะกลุ่มไปที่ตลาดเด็กเป็นหลัก

17.ภาพยนตร์แนวสารคดี (Documentary Film)
นำเสนอเรื่องราวเป็นสารคดี ข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความเข้าใจในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ไม่ได้แต่งขึ้นใหม่ ส่วนมากมักใช้ฟุตเทจวีดีโอมาปะติดปะต่อกัน อาจมีเสียงสัมภาษณ์ผู้อยู่ในเหตุการณ์หลักของเรื่อง

18.ฟิล์มนัวร์ (Film-Noir)
โทนภาพมักใช้แสงสีมืดทึบ ขาวดำเป็นหลัก เน้นการใช้ภาพเป็นตัวสื่อ เนื้อหาแสดงให้เห็นถึงด้านมืดของคนเรา ตัวละครอาจไม่ได้ดีหรือเลวไปกว่ากัน เทาๆบ้างปนกันไป ดูง่ายหรือยากขึ้นแล้วแต่คนชอบ

จบไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับการแบ่งประเภทหนังคร่าวๆนะครับ ซึ่งหากใครชอบแนวไหนก็จะได้สามารถหาดูหรือรับชมได้ตรงตามที่ต้องการ ไม่ต้องโดนหน้าปกหลอก หากชอบบทความความรู้เกี่ยวกับภาพยนตร์สามารถแสดงความคิดเห็นเข้ามาคุยกันได้ที่เพจ "เรื่องนี้เคยดูแล้ว" นะครับ 
ที่สำคัญอย่าลืมฝากกดแชร์เป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ

"คนเราอาจมีรสนิยมไม่เหมือนกัน ขอให้รับชมด้วยความบันเทิง เพลิดเพลิน เสมือนการท่องไปในโลกของภาพยนตร์

ได้หยุดคิดและพักผ่อนไปในตัว ไม่ว่าหนังแนวไหน งานทุกงานล้วนมีคุณค่าและคนชอบในตัวมันเอง"