การเตรียมดินเพื่อปลูกทุเรียน
ดินทุกที่สามารถปลูกทุเรียนได้ แต่ดินที่มีความเหมาะสมจะช่วยให้การลงทุนปลูกทุเรียนได้ผลที่คุ้มค่า เพราะทุเรียนเป็นพืชที่อ่อนแอต่อโรครากเน่าโคนเน่าซึ่งโรคนี้มีน้ำเป็นพาหะที่สำคัญ ดังนั้นการพิจารณาดินในแต่ละพื้นที่ต้องดูที่ปัจจัยเรื่องความสามารถในการระบายน้ำเป็นลำดับแรก ถ้าพื้นที่เป็นที่น้ำท่วมขัง การปลูกทุเรียนให้ได้ผลผลิตที่ดีก็คงทำได้ยาก ดินที่เหมาะสมกับการปลูกทุเรียนควรมีลักษณะอย่างไร
ดินร่วนปนทรายมีความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งมีลักษณะที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการปลูกทุเรียน แต่ในความเป็นจริง ดินร่วนหรือดินทรายก็สามารถปลูกทุเรียนได้ดีเช่นกัน แต่เราต้องมีการเตรียมดินให้พร้อมสำหรับการปลูกทุเรียนซะก่อน เช่นดินทราย เป็นดินที่ขาดอินทรีย์วัตถุ แต่มีความสามารถในการระบายน้ำดี ดังนั้นจึงมีความสามารถในการเก็บกักปุ๋ยได้น้อยและสูญเสียความชื้นได้ง่าย ดังนั้นในดินทรายถ้าจะปลูกทุเรียนควรเพิ่มความสมบูรณ์ของดินโดยการปลูกพืชตระกูลถั่วแล้วทำการไถกลบเป็นการเพิ่มความสมบูรณ์ให้ดิน ก่อนทำการปลูกทุเรียนและที่สำคัญการปลูกทุเรียนในดินทรายที่ระบายน้ำได้ดีจึงสูญเสียปุ๋ยได้ง่าย การให้ปุ๋ยสำหรับทุเรียนที่ปลูกในดินทรายจึงต้องให้ครั้งละน้อยๆ แต่ให้บ่อยๆแทนซึ่งปกติการให้ปุ๋ยในไม้ผลจะให้ทุกๆ 15 วันครั้ง แต่สำหรับดินทรายควรให้ทุกๆ 10 วันครั้ง
มีความสามารถในการระบายน้ำได้ดี สำหรับดินที่มีความสามารถในการระบายน้ำได้ยากการปลูกทุเรียน มีความจำเป็นต้องยกโคก หรือการปลูกบนลูกฟูก เพื่อแก้ปัญหาเรื่องน้ำขัง เพราะรากทุเรียนที่แช่น้ำส่งผลให้รากหายใจไม่ได้ และอ่อนแอจึงถูกเชื้อราเข้าทำลายเป็นสาเหตุให้เกิดโรครากเน่าโคนเน่าในทุเรียน ดังนั้นดินและสภาพพื้นที่ปลูกที่มีความสามารถในการระบายน้ำได้ดีจะช่วยลดปัญหาเรื่องโรครากเน่าโคนเน่าในทุเรียน
มีหน้าดินลึกมากกว่า 50 เซนติเมตร ทุเรียนเป็นไม้ผลที่รากหากินบริเวณผิวดินและลงลึกไม่เกิน 30 – 50 เซ็นติเมตร
มีระดับน้ำใต้ดินลึกมากกว่า 75 cm เพราะถ้าระดับนำ้ใต้ดินตื้น ระบบรากของทุเรียนซึ่งลงลึกที่ระดับความลึกประมาณ 30 -50 เซ็นติเมตร ก็เสี่ยงต่อปัญหาโรครากเน่าโคนเน่า
มีค่าพีเอช หรือค่าความเป็นกรด-ด่าง ของดินที่ 5.5 – 6.5 เป็นค่า Ph ที่ทำให้ทุเรียนสามารถดูดซับสารอาหารได้ดี จึงทำให้ทุเรียนเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการปลูกทุเรียนควรมีการตรวจเช็คค่าความเป็นกรด-ด่าง ในแปลงปลูกเสมอเมื่อพบว่าดินในแปลงปลูกมีค่าความเป็นกรด-ด่างที่รุนแรงเกินไปให้รีบปรับค่าความเป็นกรด-ด่าง ด้วยสารปรับปรุงดิน การใช้ปุยอินทรีย์เป็นประจำช่วยรักษาค่าความเป็นกรด-ด่างในดินให้เกิดความสมดุล
เป็นพื้นที่ไม่มีน้ำท่วมขัง เพราะทุเรียนไม่ชอบแฉะและพื้นที่มีน้ำท่วมขังทำให้ทุเรียนเป็นโรครากเน่าโคนเน่าได้ง่าย ซึ่งโรครากเน่าโคนเน่าเป็นปัญหาหลักสำหรับชาวสวนทุเรียน มีน้ำเป็นพาหะในการนำพาเชื้อราไฟทอบธอร่าแพร่กระจายไปยังพื้นที่ต่างๆในสวนทุเรียน ดังนั้นการจัดการเรื่องการระบายน้ำ สำหรับการปลูกทุเรียนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
จะเห็นได้ว่าไม่ว่าดินอะไรก็ตามสามารถที่จะปลูกทุเรียนได้ทั้งหมด เพียงแต่ว่าการปลูกทุเรียนให้ได้ผลดีและมีปัญหาในการดูแลน้อยที่สุด จึงควรเลือกดินหรือพื้นที่ปลูกที่เหมาะสมกับการปลูกทุเรียน จะช่วยลดปัญหาเรื่องโรคในทุเรียนและการจัดการดูแลทำได้ง่าย ส่งผลให้ได้ผลผลิตดี มีคุณภาพ แต่ถ้าไม่สามารถเลือกพื้นที่สำหรับปลูกทุเรียนได้ ก็อาจจะดำเนินการดังต่อไปนี้ได้
1.มีการเก็บตัวอย่างดินไปวิเคราะห์ หาความเป็นกรดด่างของดิน
2.ไถปรับพื้นที่ ด้วยผาน 3 แล้วตากดิน 1 เดือนเลย
3.ไถพรวนด้วย ผาน 7 ใส่ปูนตามค่าวิเคราะห์ดิน ใส่ปุ๋ยคอก 1.5-2.0 ตัน/ไร่
4 ยกเนินหลังเต่าในที่ราบ สูง 40 เซนติเมตร ร่องกว้าง 3เมตร หรือยกโคกสูง 40 เซนติเมตร วงกลมกว้าง
3 เมตร กำหนดระยะปลูกบนเนินหลังเต่า 8X8 เมตร
5.การเตรียมดินปลูก ไถหรือพรวน ยกโคกแล้ว
5.1 ปลูกบนโคก เพื่อการระบายน้ำดี โดยทำหลุม 50X50X50 เซนติเมตร ผสมหินฟอสเฟต 300-500 กรัม ปุ๋ยคอกเก่า 5.0กิโลกรัม ผสมกับหน้าดิน ในหลุมประมาณ 2/3 ของหลุม นำต้นกล้าตัดก้นถุงออก จัดคายรากแก้วที่ขดออกหรือตัดปลายเล็กน้อย ตั้งต้นกล้าบนดินผสมแล้วกรีด ด้านข้างถุงออกด้านใดด้านหนึ่ง กลบดินจท่วมระดับดินในถุงกล้าทุเรียนประมาณ 1 นิ้ว
5.2 การเลือกต้นพันธุ์ ควรเป็นต้นจากกิ่งกะโดง หากเป็นกิ่งข้างเวลาปลูกต้องขนาบไม้ให้ยอดตรง ไม่เป็นต้นค้างปี มีการเปลี่ยนถุงไม่เก่าขาดง่าย ต้นอวบใบหนาเข้ม แข็งแรงสมบุรณ์ ไม่มีโรคและแมลงติดมา
6.การดูแลเอาใจใส่ต้องดี มีการพลางแสงปักไม้ยึดลำต้น
7. ทำการรดยาราไฟทอปธอรา เนื่องรากกระทบกระเทือน
8.วันรุ่งขึ้นให้น้ำ 3 วันติดต่อ จากนั้นเว้นเป็น 3 วันครั้ง เพราะทุเรียนชอบชื้นแต่ไม่ชอบแฉะ
9.ป้องกันจัดโรคและแมลงโดยเฉพาะโรคโคนเน่า หว่านเชื้อไตรโคเดอรมาบริเวณโคน
10. การให้ปุ๋ยทุเรียนเล็ก มีดังนี้
10.1ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก ปุ๋ยมูลสัตว์ โดยจัดลำดับความเข้มข้นของเนื้อปุ๋ยจากมากไปหาน้อย ขี้ค้างคาว ขี้ไก่ ขี้หมู ขี้วัว ขี้แพะ ขี้ม้า และขี้ช้าง โดยปุ๋ยมูลสัตว์นอกจากจะปลดปล่อยเนื้อปุ๋ยแล้วยังช่วยจับเนื้อปุ๋ยเคมี แล้วช่วยปรับสภาพและโครงสร้างดินให้ร่วนซุย เกิดจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ปริมาณ 5.0กิโลกรัม/ต้น ปีละครั้ง
10.2ปุ๋ยเคมี ยังแนะนำ17-17-17หรือ 16-16-16+15-0-0+26.5 CaO หรือปุ๋ยสำเร็จรูป 25-7-7ทั้งนี้ อย่าลืมธาตุอาหารรองซึ่งพืชเล็กต้องการเพื่อการเจริญเติบโต
- การตัดแต่งกิ่ง ควบคุมทรงพุ่มเตี้ย เพื่อให้ทุเรียนเตี้ยหลังปลูกไปแล้ว 1ปี ที่ระดับ 1.0และ 2.0และ3.0โดยรวมมีความสูงไม่เกิน 5.0เมตรทุเรียนต้นเตี้ย ง่ายต่อการจัดการ เก็บผล ห่อผล พ่นยา
- ทำการเสริมราก หลังลำต้น ประมาณ 1นิ้ว เพื่อให้ออกผลเร็ว