คืนนี้ .. ผีอาฆาต
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตของผม ซึ่งจะจำไม่ลืม ไปจนวันตาย !!!
เรื่องมันมีอยู่ว่า ... ในวันปีใหม่ของทุก ๆ ปี ผมจะมีทริปไปทำบุญที่ต่างจังหวัดอยู่บ่อย ๆ ซึ่งภาคเหนือเอง เป็นตัวเลือกลำดับต้น ๆ ของผม เป้าหมายการเดินทางของผมในครั้งนี้ คือ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย (ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ "ล้านนา")
ผมเดินทางออกจากกรุงเทพ ฯ ด้วยรถ วีไอพี 20 ที่นั่งของ บ.สมบัติทัวร์ ในเวลา 19.15 น. และไปถึงปลายทาง คือ เชียงแสน เวลาประมาณ 7.45 น. ซึ่งใช้เวลาเดินทางเกือบทั้งหมด 13 ชั่วโมง
ผมเดินไปที่ตลาดเช้าของ อ.เชียงแสน และหาอาหารเช้าลงท้อง ซึ่งก็คือ โจ๊กหมู ตามด้วยกาแฟดำอีก 1 แก้ว หลังจากนั้น ผมก็ได้จัดแจงไปหา รถมอเตอร์ไซด์เช่า และทำการขับรถมอเตอร์ไซด์เพื่อไปหาที่พักภายในตัวเมืองนี้ ซึ่งที่พักอยู๋ติดกับริมแม่น้ำโขง บรรยากาศดีมาก ๆ และฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำ คือ ประเทศลาว เพื่อนบ้านของเรานี่เอง
ทริปวันแรกของผม คือ ตระเวณทำบุญที่วัดในตัวเมืองเชียงแสนท้้งหมด เพราะอีกวันก็จะเป็นวันคล้ายวันเกิดผมแล้ว ผมขับรถมอไซด์ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาถึงรอบ ๆ กำแพงเมือง เอ่ะ .. ทำไม ใจผมมันหวิว ๆ แปลก ๆ แต่ผมก็ยังขับมอไซด์ไปเรื่อย ๆ โดยไม่คิดอะไรจนกระทั่งกลับมาถึงที่พัก คืนนั้นเอง..ผมรู้สึกเพลียมาก เพราะเดินทางมาไกล เลยรีบอาบน้ำแล้วรีบเข้านอน ผมนอนแบบไม่รู้สึกตัวเลย แล้วจู่ ๆ ได้นอนฝันไปว่า มีชายชุดขาวท่านหนึ่งได้มาเตือนผมในความฝัน ว่า "พรุ่งนี้ .. ไม่ต้องไปไหน ให้อยู่ที่เชียงแสนเท่านั้น แล้วจะปลอดภัย" ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที หันไปดูนาฬิกา เป็นเวลาประมาณ ตี 3 กว่า ๆ เลยไม่ได้นอนต่อ จนกระทั่งถึงเวลาเช้าตรู่
วันนี้ ..เป็นวันคล้ายวันเกิดผม ผมมีความตั้งใจที่จะไปทำบุญที่วัดพระธาตุดอยตุง อำเภอแม่สาย่ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองเชียงแสนไปประมาณ 30 กว่าโล ผมขับมอไซด์โดยเริ่มต้นที่เชียงแสน ไปทางสามเหลี่ยมทองคำ ข้ามภูเขาสูง และผ่านหมู่บ้านต่าง ๆ ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาถึงแยกแม่สาย ผมเองได้แวะเข้าปั๊มน้ำมัน ปตท. ตรงใกล้แยกแม่สาย เพื่อเติมน้ำมัน เพราะการขับรถขึ้นเขานั้นเปลืองน้ำมันมากเอาการ ผมได้คิดถึงความฝันเมื่อคืน และคิดว่า.. วันนี้ผมจะเจออะไร ?
ผมขับรถออกจากปั๊มน้ำมัน มุ่งหน้าไปสู่ดอยตุง ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกันกับที่จะไปถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ผมขับรถมอไซด์ไปได้ประมาณสัก 3 กิโลกว่า ๆ จู่ ๆ ก็มีรถบัสเขียว (แม่สาย) หักหลบเข้าซ้ายเพื่อรับผู้โดยสาร ผมเองก็ขับเลนซ้ายอยู่แล้ว จึงได้หักหลบเข้าข้างทางจนประสพอุบัติเหตุ สภาพร่างกายผมก็ไม่ได้เป็นอะไรมากมาย แต่เอ่ะ ทำไมขาข้างซ้ายผม .. ถึงมีเลือดไหลออกมา ผมก็สังเกตดูที่ขา และพบว่า เล็บหัวแม่เท้าข้างซ้ายของผมหายไปทั้งแถบ ผมครุุ่นคิดในใจถึงฝันเมื่อคืนว่า หรือนี่จะเป็นคำเตือน หรือฝันบอกเหตุ เพื่อที่จะไม่ให้เดินทางในวันนี้
ด้วยตัวผมเองเป็นคนที่ค่อนข้างดื้อรั้น คิดอยู่อยู่ในใจ .. วันนี้วันเกิดกรู ใครหน้าไหนจะห้ามกรูไปทำบุญฝ่ะ ไม่รอช้า..ผมรีบขับรถมอไซด์มุ่งหน้าไปสู่ดอยตุงโดยทันที ทั้งที่มีเลือดที่ขาไหลไม่หยุด
จนกระทั่งมาถึงที่วัดพระธาตุดอยตุง ผมได้ทำการไหว้พระ สวดมนตร์ ทำสังฆทาน อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร และห่มผ้าพระธาตุ (ลืมบอกไปว่า ที่เล็บเท้าผมนั้น ผมได้แวะซื้อแอลกอฮอล์ และพลาสเตอร์ยามาเกือบ 20 อัน เพื่อปิดแผล และห้ามเลือด) หลังจากกิจกรรมทุกอย่างเสร็จสิ้น ผมได้รีบขับรถมอไซด์ออกจากวัด เพราะตอนนี้เป็นเวลาประมาณ 5 โมงเย็น การขับรถลงเขามันอันตราย เพราะมันจะมืดมาก ผมได้ขับมอไซด์ลงเขาไปเรื่อย ๆ โค้งแล้วโค้งเล่า กระทั่งมาถึงทางลงเขา ซึ่งสูงชันมาก จู่ ๆ ผมได้กลิ่นเหมือนมีอะไรไหม้ ๆ ผมรีบใข้สติและสำรวจไปเรื่อย ๆ พบว่า เบรคล้อหน้าของมอไซด์ไม่ทำงาน (แต่เบรคหลังพอใช้งานได้อยู่) คิดอยู่ในใจว่า ทำยังไงดีหนอ ..หรือวันนี้ผมต้องมาจบชีวิตที่นี่
ผมพยายามใช้สติ แล้วรีบประคองรถมอไซด์ลงเขาอย่างระมัดระวัง "เบรคหน้าไม่ได้ ใช้เท้านี่แหล่ะว่ะ .. ตายเป็นตาย" จนกระทั่งถึงตีนเขาอย่างปลอดภัย คิดซ้ำไปซ้ำมา หรือวันนี้อาจจะเป็นวันซวยของผมจริง ๆ หนอ
ผมขับมอไซด์จากดอยตุง อำเภอแม่สาย เพื่อกลับไปยังเชียงแสน ระหว่างทางผมได้แวะปั๊มน้ำมัน เพื่อเติมน้ำมัน และซื้อของกินต่าง ๆ เพื่อเป็นเสบียงกลับที่พัก ผมขับรถมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงสามเหลี่ยมทองคำ ในเวลานั้นผมเหลือบไปเห็นพระธุดงค์รูปหนึ่ง กำลังเดินธุดงค์มุ่งหน้าไปยังแม่สาย ผมเลยรีบจอดรถเข้าข้างทาง และนิมนตร์ท่านว่า "หลวงพี่ครับ นิมนตร์ครับ .. ผมขอทำบุญหน่อยครับ" ผมจัดแจงถวายของกินต่าง ๆ ที่ซื้อมาทั้งหมดให้แก่พระรูปนั้น ท่านก็ให้พรผม แล้วพระรูปนั้นก็ได้เอ่ยกับผมว่า "โยม ..อย่าไปอาฆาตเขาน่ะ มันเป็นกรรมที่โยมจะต้องรับ หนีไม่พ้นหรอก.." ผมน้ำตาซึม แล้วตอบกลับไปว่า "ครับ หลวงพี่. ผมจะจำคำพูดนี้ไว้ครับ"
และแล้วผมก็ได้ขับรถถึงที่พักสักที "ปลอดภัยแล้วเรา คิดในใจ" สิ่งศักดิ์สิทธิ์อุตส่าห์มาเข้าฝัน แต่ทำไมรั้นน่ะเรา แล้วเป็นไงล่ะ เล็บหายเลย เห้อ !!!! ผมรีบจัดแจงอาบน้ำเพื่อที่จะเข้าที่พัก เพราะวันนี้เหนื่อยหนักทั้งกายและใจ ผมหลับไปได้สักพัก จู่ ๆ ได้ฝันเห็นผู้หญิงขาวเขาคนหนึ่ง ขึ้นคร่อมที่ตัวผม แล้วทำการบีบคอ จนผมหายใจไม่ออก ในฝันหญิงคนนั้นได้ตะโกนบอกว่า "กูเกลียดมึง !! มึงกลับมาที่นี่อีกทำไม ไอ้คนโลเล ไปตายซะ !! อย่าอยู่เลย" ผมหายใจไม่ออกอยู่สักพัก จู่ ๆ ในฝันก็ได้ยินเสียงก้องขึ้นมา เป็นเสียงสวดท่องนะโม และบทสวดชินบัญชร ผมเหลือบไปมองที่มาของเสียงสวดมนตร์ดังกล่าว เสียงนั้น คือ เสียงสวดมนตร์ของพระธุดงค์รูปที่ผมได้ทำบุญมาก่อนหน้า ท่านได้เจรจาต่อรองกับหญิงชาวเขา จนกระทั่งหญิงคนนั้นใจอ่อน แล้วก็หายวับไปโดยทันที
พระธุดงค์รูปนั้นท่านได้พูดกับผมในฝันว่า "ให้โยมทำบุญให้กับสีกาคนนั้นบ่อย ๆ น่ะ หนักจะได้เป็นเบา ชาติที่แล้วโยมทำกับเขาไว้เยอะเหมือนกัน เขาจึงอาฆาตโยมข้ามภพข้ามชาติ ไม่จบไม่สิ้นกันสักที" ผมน้อมรับคำสั่งสอนของพระธุดงค์ แล้วท่านก็หายไปจากฝันนั้นทันที
เช้าตรู่ของวันต่อมา ผมรีบตื่นนอน และไปใส่บาตรให้หญิงคนนั้นโดยทันที เพื่อที่จะให้เขาอโหสิกรรมให้ และอย่าอาฆาตกันอีกเลย .. สาธุ