จับตาภัยแล้งจาก "เอลนีโญ" ที่อาจส่งภัยร้ายรอบด้านทั้งประเทศ!
ประเทศไทย อาจจะต้องเผชิญปรากฎการณ์เอลนีโญ่ หรือฝนทิ้งช่วง ที่จะก่อให้เกิดภัยแล้ง มีความรุนแรงที่สุดในรอบ 8 ปี และอาจลากยาวไปจนถึงปี 2567
บทความโดย รศ.ดร.วิษณุ อรรถวานิช...
ระดับความรุนแรงของปรากฎการณ์เอลนีโญ ปี 2566-67 มีแนวโน้มเป็นอย่างไร?
และเศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใดจากปรากฎการณ์เอลนีโญ?
เพื่อตอบ 2 คำถามนี้ ผมได้ลองรวบรวมข้อมูลจากแบบจำลองทั่วโลกที่มีการพยากรณ์ปรากฏการณ์เอนโซ่และข้อมูลย้อนหลังในอดีต รวมถึงงานวิจัยล่าสุด ซึ่งสามารถสรุปสั้นๆ ได้ ดังนี้
ภาพที่ 1 บอกเราว่า ค่าเฉลี่ยจาก 7 แบบจำลองทั่วโลกที่ประเมินกำลังของเอลนีโญ (ร้อนและแล้งกว่าปกติ)
บ่งชี้ว่า...กำลังเอลนีโญจะเพิ่มแบบเร่งตัวจากนี้ไปสู่ระดับรุนแรงใน ส.ค. 66 (1.6°C)
และเพิ่มเป็น 2.0°C ใน ต.ค. 66
ภาพที่ 2 บอกเราว่าเอลนีโญที่ระดับ 2°C เกิดขึ้นเพียง 5 ครั้งในรอบ 73 ปี ได้แก่ ค.ศ. 1965/66, 1972/73, 1982/83, 1997/98, และ 2015/16 และช่วงปีนี้และปีหน้า (ค.ศ. 2023/24) อาจเป็นครั้งที่ 6 ในรอบ 74! สะท้อนให้เห็นว่าปลายปีนี้ถึงปีหน้าประมาทไม่ได้เลยกับระดับความรุนแรงที่ไม่ธรรมดาของเอลนีโญ
และภาพที่ 3 งานวิจัยล่าสุดจากวารสาร Science พบว่า ที่ผ่านมา เอลนีโญช่วงปี ค.ศ. 1982-83 และ 1997-98 ได้ทำให้รายได้ต่อหัวของไทยลดลง 5.0-7.5% ต่อปี
นอกจากนั้น ในอนาคตช่วงปี ค.ศ. 2020-2099 งานวิจัยยังจัดให้ประเทศไทยติดโผกลุ่มเสี่ยงสูงมากต่อความเสียหายทางเศรษฐกิจในอนาคตจากปรากฎการณ์เอลนีโญ! (สีแดงเข้มในภาพ c และ d)
โดยรายได้ต่อหัวของไทยคาดว่าจะลดลงมากกว่า 5.0% ต่อปี เลยทีเดียว
ทุกภาคส่วนคงต้องรีบลงทุนเพื่อรับมือกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปรากฎการณ์เอลนีโญกันนะครับ ก่อนที่ความเสียหายจะมากขึ้นไปกว่านี้ ในระยะสั้นควรวางแผนการใช้น้ำและกักเก็บน้ำในฤดูฝนปีนี้ได้มากที่สุดนะครับ






















