หนุ่มโรงงานช้ำรัก! ทำงานหามรุ่งหามค่ำ เก็บเงินแต่งงาน สุดท้ายสาวมาบอกเลิกเพราะท้องกับคนอื่น พอทวงเงินคืน โดนด่า "หน้าตัวเมีย"

        เขาบอกตนว่า ถ้ารักก็ต้องมาแต่งงานกัน ให้เก็บเงินสินสอดมา 1 แสนบาท ทองคำ 4 บาท ให้ตนทำงานหาเงิน ตนก็ยอมทำตามทุกอย่าง ต้องทำโอที ได้เงินมารวมโอทีแล้วเดือนละประมาณ 24,000 บาท ส่งให้เขาเก็บเดือนละ 1 หมื่นบาท จนครบ 1 ปี ตนยังไปทวงเขาว่า ครบปีแล้วนะ เขายังตอบกลับมาว่า หนึ่งปีแล้วยังไง?ต่อมา เดือนเมษายน เขามาบอกเลิกเรา บอกว่าเราดีเกินไป เขาไม่ดีพอจะคบหาตนต่อ ตนก็ช็อก แต่ก็บอกว่าถ้าเขาคิดมาดีแล้วก็คงไม่รั้ง ก่อนจะมารู้ความจริงว่า เขาไปท้องกับผู้ชายอื่น ที่เป็นซัพพลายเออร์ส่งของในโรงงาน

        น้องออย น้องสาวของนุ บอกว่าพี่ชายซื่อมาก ตนแปลกใจตั้งแต่แรกแล้ว เพราะคุยกันยังไม่ถึงเดือน ผู้หญิงก็ขอทอง 1 บาท ขอนาฬิกา พี่เราก็ให้เขาหมด แล้วบอกว่าจะเก็บเงินแต่งงาน ขอทอง 4 บาท ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องขอมากมายขนาดนั้นออยป่วยเป็นมะเร็งรังไข่ ต้องรักษาตัว ให้คีโม นุจึงขอเงินคืนกลับมาเพื่อรักษาน้องสาว ขอทวงเงิน เขาด่าตนว่าตนหน้าตัวเมีย ควรไปเอาผ้าถุงมาใส่ได้แล้วนะ เกิดมาไม่เคยเจอคนหน้าตัวเมียแบบนี้มาก่อน เขาบอกว่าเขาเป็นหนี้เยอะ ถ้ามีเงินก็จะคืน ถ้าไม่มีก็ไม่คืน แต่ตนบอกว่าเรื่องตกลงคืนเงินให้ไปคุยกันที่โรงพัก ให้มีตำรวจเป็นคนกลาง

        ขณะที่ฝ่ายหญิง ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ที่เลิกรากับนุไป เพราะเขาไม่เป็นสุภาพบุรุษ เขามักจะไม่พอใจเวลาเราออกไปเที่ยวไหนกับเพื่อน ชอบมากระชากแขนเรา เราเลยบอกให้เขาไปเจอคนที่ดีกว่าเรา ส่วนเรื่องเงินเราไม่เคยไปบังคับให้เขาโอนมาให้ เขาเต็มใจโอนเอง

ส่วนเรื่องสร้อยคอทองคำที่ให้ไป อาจจะถือเป็นของหมั้น ตกลงว่าจะแต่งงานกัน พอไม่แต่งกันแล้ว เขาก็ต้องส่งคืน เรื่องนี้ไปแจ้งความเป็นคดีอาญาไว้ก่อนได้ แล้วถ้าเขามาเคลียร์ มาคืนเงิน ค่อยถอนแจ้งความก็ยังได้ขณะที่พี่ชายของสา เมื่อได้ดูรายการ ก็ส่งข้อความมาหาออย น้องสาวของนุ บอกว่าวันอาทิตย์นี้จะคืนเงินให้ แต่ขอคืนแค่เงินได้ไหม ทองคำที่นุให้สา ขอไม่คืน ซึ่งเรื่องนี้ ทนายบอกว่า ให้ไปเจรจาที่โรงพักดีกว่า