10 วิธีแก้ผมร่วง ด้วยวิธีธรรมชาติและทางการแพทย์ หมดปัญหาผมร่วงกวนใจ
วิธีแก้ผมร่วงด้วยวิธีธรรมชาติและทางการแพทย์ วิธีดูแลผมร่วงเพื่อการบำรุงหนังศีรษะ ผมร่วงมีสาเหตุมาจากอะไร หาคำตอบได้ที่นี่
ผมร่วง เป็นปัญหากวนใจที่มักเกิดขึ้นได้เยอะในปัจจุบัน อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งปัญหาผมร่วงส่งผลให้เสียมั่นใจ ไม่ค่อยอยากพบเจอกับใคร อาจทำให้เข้าสังคมได้ลำบากขึ้น โดยในปัจจุบันมีการคิดวิธีแก้ปัญหาผมร่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพและหลากหลายมากขึ้น ทั้งแบบวิธีธรรมชาติ หรือวิธีทางการแพทย์ ล้วนทำให้ปัญหาผมร่วงลดลง ส่งผลให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติ
สาเหตุของผมร่วงเกิดจากอะไร
โดยก่อนที่จะพูดถึงวิธีแก้ผมร่วง ต้องรู้ถึงสาเหตุของผมร่วงก่อนว่าเกิดจากอะไร ซึ่งอาจมีสาเหตุหลายประการ ได้แก่
1. พันธุกรรม
ผมร่วงที่เกิดจากพันธุกรรม (Androgenetic Alopecia) เป็นอาการผมร่วงที่พบได้บ่อยที่สุด โดยผมร่วงแบบแอนโดรเจนเนติกส์ส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ชายและผู้หญิง และมีลักษณะเฉพาะคือผมบนหนังศีรษะจะบางลงทีละน้อย เกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรมและฮอร์โมนร่วมกัน
ในผู้ที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรมที่ทำให้ผมร่วง รูขุมขนจะไวต่อฮอร์โมนไดไฮโดรเทสโทสเตอโรน (DHT) มากขึ้น ซึ่งทำให้รูขุมขนหดตัวเมื่อเวลาผ่านไป ส่งผลให้ขนสั้นลง ละเอียดขึ้น และในที่สุดรูขุมขนก็หยุดสร้างเส้นผมโดยสิ้นเชิง ต้องหาวิธีแก้ผมร่วงในทันที
2. อายุ
ผมร่วงเป็นส่วนหนึ่งตามธรรมชาติของกระบวนการชรา เมื่อเราอายุมากขึ้น รูขุมขนของเราจะค่อย ๆ หดตัวลง ทำให้ผมเส้นเล็กลงและสั้นลง นอกจากนี้ระยะการเจริญเติบโตของรูขุมขนจะสั้นลง ส่งผลให้เส้นผมโดยรวมเติบโตน้อยลง การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจทำให้ผมบางโดยเฉพาะบนหนังศีรษะ มีวิธีแก้ผมร่วงเพื่อช่วยชะลอกระบวนการนี้ คือต้องรักษาสุขภาพผมให้แข็งแรงอยู่เสมอ
3. การขาดสารอาหาร
การขาดสารอาหารที่เหมาะสมอาจทำให้ผมร่วงได้ เส้นผมของเราต้องการวิตามินและแร่ธาตุบางชนิดในการเจริญเติบโตและมีสุขภาพดี ดังนั้นการขาดสารอาหารเหล่านี้อาจส่งผลให้ผมบางหรือผมร่วงได้ เช่น โปรตีน ธาตุเหล็ก วิตามินดี วิตามินบี หรือสังกะสี เป็นต้น วิธีแก้ผมร่วงจากการขาดสารอาหาร คือต้องปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอาหารหรืออาหารเสริมเพื่อช่วยให้แน่ใจว่าได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อสุขภาพของเส้นผม
4. ความเครียด
ความเครียดอาจทำให้ผมร่วงได้ แม้ว่าจะไม่ใช่สาเหตุหลักของผมร่วงก็ตาม ประเภทของผมร่วงที่เกี่ยวข้องกับความเครียดเรียกว่า Telogen Effluvium ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของผมร่วงชั่วคราวที่เกิดขึ้นเมื่อรูขุมขนจำนวนมากเข้าสู่ระยะพัก (Telogen) ของวงจรการเจริญเติบโตของเส้นผมในเวลาเดียวกัน
ซึ่งอาจส่งผลให้เส้นผมบนหนังศีรษะบางลงอย่างเห็นได้ชัด สามารถกระตุ้นได้จากเหตุการณ์ตึงเครียดต่าง ๆ เช่น การผ่าตัดใหญ่ การเจ็บป่วย การกระทบกระเทือนทางอารมณ์ หรือการลดน้ำหนักอย่างมาก ในบางกรณี แม้แต่ความเครียดในชีวิตประจำวันก็มีส่วนทำให้ผมร่วงได้ อาการผมร่วงเนื่องจากความเครียดจะเกิดขึ้นชั่วคราวหรือถาวรนั้น ขึ้นอยู่กับว่ารูขุมขนได้รับความเสียหายมากน้อยแค่ไหน
วิธีแก้ผมร่วงจากความเครียด คือต้องจัดการความเครียดผ่านกลไกการเผชิญปัญหาที่ดี เช่น การออกกำลังกาย การทำสมาธิ การบำบัด และการนอนหลับให้เพียงพอ เป็นต้น
5. สารเคมีที่ใช้กับเส้นผมหรือหนังศีรษะ
ผมร่วงอาจเกิดจากการสัมผัสสารเคมีรุนแรง เช่น ที่พบในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมหรือทรีทเม้นท์จัดแต่งทรงผมบางชนิด สารเคมี เช่น เปอร์ออกไซด์ แอมโมเนีย และซัลเฟตสามารถทำลายรูขุมขน ทำให้ผมขาดหรือหลุดร่วงได้
วิธีแก้ผมร่วงจากการสัมผัสสารเคมีรุนแรง คือต้องลดความเสียหายให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งอาจรวมถึงการเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่อ่อนโยน หลีกเลี่ยงอุปกรณ์จัดแต่งทรงผมที่ใช้ความร้อนมากเกินไป หรือลดความถี่ในการทำทรีทเม้นท์
ซึ่งในผู้ชาย อาการผมร่วงมักจะเริ่มต้นด้วยแนวผมที่ถอยร่นและบางลงที่บริเวณกระหม่อม ส่วนในผู้หญิง อาการผมร่วงมักจะกระจายตัวมากขึ้น ส่งผลให้ผมบางส่วนกว้างขึ้นหรือผมโดยรวมบางลง มีวิธีแก้ผมร่วงและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม เช่น ทานยา minoxidil และ finasteride หรือการผ่าตัดปลูกผม เป็นต้น
5 วิธีรักษาผมร่วง ด้วยวิธีธรรมชาติ
5 วิธีแก้ผมร่วง ด้วยการรักษาตามธรรมชาติ ทำได้ดังนี้
1. ใช้แชมพูสูตรธรรมชาติ
การใช้แชมพูสูตรธรรมชาติเป็นหนึ่งในวิธีแก้ผมร่วงได้ โดยการที่แชมพูมีส่วนผสมของสารบำรุงเส้นผม เช่น ไบโอติน คาเฟอีน หรือน้ำมันโรสแมรี่ ส่วนผสมเหล่านี้สามารถช่วยส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดไปยังหนังศีรษะ ที่ช่วยในการเจริญเติบโตของเส้นผม
รวมถึงต้องเลือกแชมพูที่อ่อนโยนและมีค่า pH ที่สมดุล เพราะหากค่า pH ของหนังศีรษะไม่สมดุลอาจทำให้ผมร่วงได้ ดังนั้นการใช้แชมพูที่มีค่า pH สมดุลสามารถช่วยให้หนังศีรษะมีสุขภาพดีได้
2. ลดความเครียด
การลดความเครียดเป็นวิธีแก้ผมร่วงที่ได้ผลในการช่วยป้องกันผมร่วงที่เกิดจากความเครียด เช่น การหายใจลึก ๆ การทำสมาธิ โยคะ การทำกิจกรรมที่ชอบ การพูดคุยกับนักบำบัด สามารถช่วยลดความเครียดและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม รวมถึงการออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ซึ่งส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผมเช่นกัน
3. สระผมให้ถูกวิธี
การสระผมให้ถูกต้องเป็นหนึ่งในวิธีแก้ผมร่วงและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผมให้แข็งแรง เช่น เลือกแชมพูที่อ่อนโยนและปราศจากซัลเฟต และใช้น้ำอุ่นในการสระผม จากนั้นใช้ปลายนิ้วนวดหนังศีรษะขณะสระผม สิ่งนี้สามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังหนังศีรษะและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม
ล้างผมให้สะอาดหลังสระผมเพื่อขจัดสิ่งตกค้างหรือสิ่งสะสม เพราะสามารถอุดตันรูขุมขนและทำให้ผมร่วงได้ และอย่าสระผมบ่อยเกินไป ให้สระผมทุก ๆ 2-3 วัน สามารถใช้ครีมนวดผมช่วยบำรุงและทำให้ผมแข็งแรงขึ้นได้ ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการขยี้ผมแรง ๆ
4. หลีกเลี่ยงการมัดผมแน่นเกินไป
การหลีกเลี่ยงการมัดผมแน่นเกินไปเป็นหนึ่งในวิธีแก้ผมร่วงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไว้ทรงผมแน่น ๆ เช่น เปีย หางม้า หรือมวยผม ควรถักเปียหลวม ๆ หางม้าต่ำ หรือมวยผมยุ่ง ๆ ใช้ยางรัดผมที่ทำจากวัสดุอ่อนนุ่ม เช่น ผ้า โดยใช้แทนยางยืด เพราะยางยืดสามารถดึงผมและทำให้ผมร่วงได้ หรือลองใช้สิ่งป้องกัน เช่น ผ้าโพกศีรษะ หมวกไหมหรือผ้าซาติน เพื่อเก็บและปกป้องเส้นผม
5. นอนให้เพียงพอ
การนอนให้เพียงพอมีความสำคัญต่อสุขภาพโดยรวม และยังเป็นหนึ่งในวิธีแก้ผมร่วงอีกด้วย โดยต้องนอนหลับให้ได้ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน มีการจัดกิจวัตรเข้านอนเป็นประจำสามารถช่วยส่งสัญญาณให้ร่างกายรู้ว่าถึงเวลานอนแล้ว สิ่งนี้สามารถช่วยให้หลับได้ง่ายขึ้นและหลับสบายตลอดทั้งคืน
ต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการนอนหลับ เช่น การใช้ม่านทึบแสงเพื่อกันแสง รักษาอุณหภูมิให้เย็น และใช้เครื่องนอนที่นุ่มสบาย หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนเข้านอน รวมถึงหลีกเลี่ยงคาเฟอีนและแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมงก่อนนอน
แต่วิธีแก้ผมร่วงตามธรรมชาติเหล่านี้ อาจไม่ได้ผลกับทุกคน หากมีอาการผมร่วงอย่างมาก สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผมร่วงเพื่อระบุสาเหตุที่แท้จริงของอาการและแนวทางการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับในแต่ละสถานการณ์ของแต่ละคน
5 วิธีรักษาผมร่วง ด้วยวิธีทางการแพทย์
5 วิธีแก้ผมร่วง ด้วยการรักษาทางการแพทย์ ทำได้ดังนี้
1. ฉีด PRP ผม
การฉีด PRP ผมเป็นวิธีแก้ผมร่วงแบบไม่ผ่าตัด โดยการฉีดสารละลายเข้มข้นของเกล็ดเลือดของผู้ป่วยเองเข้าไปในหนังศีรษะ ซึ่งต้องมีการปรึกษาหารือกับแพทย์ โดยจะประเมินอาการผมร่วงและพิจารณาว่าการฉีด PRP เป็นทางเลือกการรักษาที่ดีสำหรับเราหรือไม่ จากนั้นแพทย์จะเริ่มต้นด้วยการเก็บตัวอย่างเลือด และจะถูกใส่ในเครื่องหมุนเหวี่ยง ซึ่งจะแยกเกล็ดเลือดออกจากส่วนประกอบอื่น ๆ ของเลือด
เมื่อแยกเกล็ดเลือดออกแล้ว แพทย์จะฉีดสารละลายเข้มข้นไปยังบริเวณหนังศีรษะที่เกิดผมร่วง โดยทั่วไปกระบวนการฉีดจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที และมีการติดตามผล ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ต้องการการรักษาหลายครั้งโดยเว้นระยะห่างกันหลายสัปดาห์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
2. ฉีดสเต็มเซลล์ผม
การฉีดสเต็มเซลล์ผมเป็นวิธีแก้ผมร่วงที่ค่อนข้างใหม่ ซึ่งเป็นการฉีดสเต็มเซลล์เข้าไปในหนังศีรษะโดยตรงเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ซึ่งต้องมีการปรึกษาหารือกับแพทย์ โดยจะประเมินอาการผมร่วงและพิจารณาว่าการฉีดสเต็มเซลล์ผมเป็นทางเลือกการรักษาที่ดีสำหรับเราหรือไม่ จากนั้นแพทย์จะเริ่มด้วยการเก็บตัวอย่างผิวหนังหรือรูขุมขนเพียงเล็กน้อย ตัวอย่างนี้จะใช้ในการแยกเซลล์ต้นกำเนิดของเส้นผม
เมื่อแยกเซลล์ต้นกำเนิดของเส้นผมได้แล้ว แพทย์จะฉีดเข้าไปในบริเวณหนังศีรษะที่เกิดผมร่วง โดยทั่วไปกระบวนการฉีดจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที และมีการติดตามผล ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ต้องการการรักษาหลายครั้งโดยเว้นระยะห่างกันหลายสัปดาห์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
3. เลเซอร์ LLLT
เลเซอร์ LLLT (Low-Level Laser Therapy) เป็นวิธีแก้ผมร่วง โดยการใช้เลเซอร์พลังงานต่ำหรือไดโอดเปล่งแสง (LED) เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ซึ่งต้องมีการปรึกษาหารือกับแพทย์ โดยจะประเมินอาการผมร่วงและพิจารณาว่าเลเซอร์ LLLT เป็นทางเลือกการรักษาที่ดีสำหรับเราหรือไม่ จากนั้นแพทย์จะให้หมวกพิเศษที่มีแสงเลเซอร์หรือไฟ LED แก่เรา โดยทั่วไปเราจะสวมหมวกเป็นระยะเวลา 20-30 นาที 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
ซึ่งอุปกรณ์ LLLT จะปล่อยพลังงานเลเซอร์ระดับต่ำหรือพลังงานแสง LED ลงบนหนังศีรษะของเรา พลังงานนี้จะถูกดูดซึมโดยรูขุมขนและกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม และมีการติดตามผล โดยทั่วไปจะต้องใช้อุปกรณ์ LLLT เป็นเวลาหลายเดือนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะสังเกตเห็นการเจริญเติบโตของเส้นผมที่ดีขึ้นภายใน 6-12 เดือนหลังจากเริ่มการรักษา
4. ปลูกผม FUE
การปลูกผม FUE (Follicular Unit Extraction) เป็นวิธีแก้ผมร่วง โดยการผ่าตัดเอารูขุมขนออกจากบริเวณหนังศีรษะของผู้บริจาค และปลูกถ่ายไปยังบริเวณหนังศีรษะที่เกิดผมร่วง ซึ่งต้องมีการปรึกษาหารือกับแพทย์ โดยจะประเมินอาการผมร่วงและพิจารณาว่าการปลูกผม FUE เป็นทางเลือกการรักษาที่ดีสำหรับเราหรือไม่ จากนั้นแพทย์จะโกนหนังศีรษะของผู้บริจาคและฉีดยาชาเฉพาะที่เพื่อทำให้บริเวณนั้นชา และแพทย์จะใช้เครื่องมือเจาะขนาดเล็กเพื่อแยกรูขุมขนออกจากบริเวณที่บริจาค
เมื่อดึงรากผมออกแล้ว แพทย์จะทำแผลเล็ก ๆ ในบริเวณหนังศีรษะบริเวณที่ผมร่วง รูขุมขนจะถูกปลูกถ่ายเข้าไปในรอยบากเหล่านี้ทีละเส้น จากนั้นจะต้องดูแลเพื่อหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก และปกป้องรูขุมขนที่ปลูกถ่ายจากการถูหรือกระแทก จะมีการติดตามผลผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเริ่มเห็นการเจริญเติบโตของเส้นขนที่ดีขึ้นภายใน 6-12 เดือนหลังจากปลูกผม
5. ปลูกผม FUT
การปลูกผม FUT (Follicular Unit Transplantation) เป็นวิธีแก้ผมร่วง โดยการผ่าตัดลอกผิวหนังที่มีขนออกจากด้านหลังของหนังศีรษะและผ่าเข้าไปในรูขุมขนแต่ละส่วน จากนั้นจึงทำการปลูกถ่ายไปยังบริเวณหนังศีรษะที่มีผมร่วงที่เกิดขึ้น ซึ่งต้องมีการปรึกษาหารือกับแพทย์ โดยจะประเมินอาการผมร่วงและพิจารณาว่าการปลูกผม FUT เป็นทางเลือกการรักษาที่ดีสำหรับเราหรือไม่
จากนั้นแพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะที่เพื่อทำให้หนังศีรษะของเราชา และแพทย์จะใช้มีดผ่าตัดเพื่อเอาผิวหนังที่มีขนออกจากด้านหลังหนังศีรษะของเรา เมื่อลอกแถบผิวหนังออกแล้ว แพทย์จะใช้กล้องจุลทรรศน์เพื่อผ่าแถบออกเป็นรูขุมขนแต่ละข้างอย่างระมัดระวัง โดยแพทย์จะทำแผลเล็ก ๆ ในบริเวณหนังศีรษะที่เกิดผมร่วง รูขุมขนจะถูกปลูกถ่ายเข้าไปในรอยบากเหล่านี้ทีละเส้น
จากนั้นจะต้องดูแลเพื่อหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก และปกป้องรูขุมขนที่ปลูกถ่ายจากการถูหรือกระแทก จะมีการติดตามผลผู้ป่วยส่วนใหญ่จะเริ่มเห็นการเจริญเติบโตของเส้นขนที่ดีขึ้นภายใน 6-12 เดือนหลังจากปลูกผม
ปรึกษาปัญหาผมร่วง ที่ Dr.Tarinee Hair Clinic
เมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับผมร่วง และต้องการวิธีแก้ผมร่วงที่ได้ผลดี สามารถปรึกษาปัญหาผมร่วงได้ที่ Dr.Tarinee Hair Clinic ซึ่งเป็นคลินิกรักษาผมร่วงที่น่าเชื่อถือ สะอาด ปลอดภัย มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ด้านการปลูกผมโดยเฉพาะ
สรุป
ปัญหาผมร่วงในปัจจุบัน เป็นปัญหาที่ทำให้เสียความมั่นใจอย่างมาก จึงมีการคิดหาวิธีแก้ผมร่วงมากมายทั้งวิธีตามธรรมชาติ เช่น การใช้แชมพูจากธรรมชาติ หรือลดความเครียด และวิธีทางการแพทย์ เช่น การฉีด PRP การฉีดสเต็มเซลล์ของเส้นผม การบำบัดด้วยเลเซอร์ LLLT และการปลูกผม (FUT หรือ FUE)
ซึ่งตัวเลือกการรักษาผมร่วงที่ดีที่สุดจะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและสาเหตุของผมร่วง สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านผมร่วงเพื่อกำหนดแนวทางการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับแต่ละสถานการณ์ของแต่ละคน