กล้องวงจรปิดมัดตัว "แอมและอดีตสามี" หลังหอบทองนายแด้ไปขาย
นายสุทธิ์ศักดิ์ พูนวงศ์ เสียชีวิตจากการถูกวางยาไซยาไนด์ โดยฝีมือของแอม
เพราะแอมนั้นได้หลอกว่าเป็นยาแก้ริดสีดวง แล้วให้นายแด้กิน จนกระทั้งนายแด้ได้เป็นลมล้มหมดสติที่ปั้ม อ. หนองหาน
และเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่ห้องพัก
เมื่อตำรวจได้เชื่อมโยงหลักฐาน พยาน กล้องวิงจรปิด เพื่อเอามายืนยันมัดตัว นางสาวแอมและอดีตสามี
ได้พบว่า หลังการเสียชีวิตของนายแด้ 1 วัน นางสาวแอมได้นำทองรูปพรรณน้ำหนัก 45.5 กรัม ไปขาย แล้วได้เงินมา 85,800 บาท
แล้วได้เดินทางกลับมาที่อุดรอีกครั้งหนึ่งมีน้ำหนักประมาณ 45.3 กรัม หรือทองประมาณ 3 บาท ขายได้เป็นเงิน จำนวน 79,000 บาท
ซึ่งงานนนี้ต้องขอบคุณร้านทองเป็นอย่างยิ่งที่ให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างดี
ส่วนการอายัดทองที่นางสาวแอมเอาไปขายนั้น ขอชี้แจงว่า ทองเราแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ญาติทางผู้ตายไม่ติดใจ กับ ญาติติดใจ
ตอนนี้ทางตำรวจจะสอบถามทางญาติของนายแด้ว่าติดใจทองในส่วนนี้หรือไม่ เบื้องต้นทางตำรวจได้ทราบว่า
ทางแม่และยายจะมอบทองให้กับนางสาวแอมหลังจากนายแด้ตายบางส่วน เพราะคิดว่าลูกในท้องคือลูกของนายแด้
ถ้าเป็นเจตนาที่ทั้งแม่และยายตั้งใจมอบให้นางสาวแอม นั่นก็หมายความว่านางสาวแอมนั้นไม่ได้มีความผิดอะไร
แต่เข้าใจว่า แม่และยายนั้นคิดว่า แอมมีลูกกับนายแด้จริง ๆ
สำหรับทองที่แอมเอามาขาย ต้องถามญาติว่า คิดใจทรัพย์ที่ถูกประทุษร้ายหรือไม่ ถ้าติดใจตำรวจก็จะรวบรวมหลักฐานเพื่อ
แจ้งข้อหาเพิ่มเติม รวมทั้งเร่งดำเนินคดี แต่ถ้าญาติไม่ติดใจก็จะไม่มีข้อหานี้อยู่ในสำนวนของคดีนายแด้
ส่วนทองรูปพรรณที่ตำรวจไม่ได้ยึดเอามา เพราะร้านทองเขาซื้อมาถูกต้องและบริสุทธิ์ใจ และทางร้านให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ก็ต้องถามญาติว่า เขาติดใจในทรัพย์เหล่านี้หรือไม่
ทั้งนี้ ตำรวจได้ไล่ไทม์ไลน์ต่อก็พบว่า หลังนาวสาวขายทองได้แล้ววันที่ 18 มีนาคม 2566 นางสาวแอมได้นำเชฟโรเลตสีขาวขับกลับ
จังหวัดนครปฐม ทางตำรวจมีหลักฐานเป็นภาพวงจรปิดเห็น นางสาวแอมกับผู้ชายคนหนึ่งมานำรถเชฟโรเลตที่นายแด้ใช้ไปด้วย
สำหรับรถคันนี้มีเจ้าขของรถตัวจริงได้ไปร้องทุกข์ที่ จังหวัดนครปฐมแล้ว ส่วนกรณี มีตำรวจยศรองผู้กำกับฯ คนใกล้ชิดเดินทางมา
จังหวัดอุดรธานีนั้น ทางตำรวจตรวจสอบพบว่า รถของนายแด้ มีการสวมทะเบียน และมีคนสนิทของนางสาวแอม เดินทางขึ้นมาเอารถ
เอากลับไปแล้วไปจำนำและศาลได้ออกหมายจับไปแล้ว