แอมบุกห้องดับจิต สั่งเปิดตาศพนายแด้ เอามือถือสแกนม่านตาคิดจะโยกทรัพย์
จากกรณี คดีที่นางสาวแอมได้ให้ยาไซยาไนด์กับนายแด้กิน ซึ่งอ้างว่าเป็นยาแก้ริดสีดวง
สุดท้ายนายแด้นั้นล้มหมดสติที่ปั๊มน้ำมันที่ อ.หนองหาน และได้มาเสียชีวิตในห้องพักที่อำเภอเมืองอุตรธานี
ก่อนตำรวจออกหมายจับแอม ไซยาไนด์ ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบประจักษ์พยานทั้งที่ปั๊มน้ำมัน หอพักที่อยู่
มีพยานบุคคลและหลักฐานอย่างอื่น รวมทั้งสิ่งของนายแด้ ที่นางสาวแอมส่งไปให้ญาติที่ จังหวัดราชบุรี
ซึ่งมียาไซยาไนด์ด้วย ทำให้ศาลได้ออกหมายจับนางสาวแอมหลังจากเกิดเหตุการณ์ของนายแด้
จากข้อมูลช่วงวันที่ 18 มีนาคม 2566 นางสาวแอมได้เดินทางมาจากจังหวัดอุดรธานีครั้งหนึ่ง
แล้วได้นำทองของนายแด้ไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งที่จังหวัดอุดรธานี ทางตำรวจได้ตรวจสอบแล้วพบว่า
รถเชฟโรเลตของนายแด้สวมทะเบียน มีคนสนิทของนางสาวแอมเดินทางมาช่วยจัดการเรื่องรถ โดยขับกลับแล้วเอาไปจำนำ
และศาลได้ออกหมายจับไปแล้วเมื่อวานนี้ ซึ่งคนสนิทที่ว่านั้น คือรองผู้กำกับฯ วิฑูรย์ อดีตสามีของนางสาวแอม นั่นเอง
ต่อมา นายพจปรีชา สารสิทธิ์ ซึ่งเป็นพนักงานกู้ภัยฉุกเฉิน มูลนิธส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ไปเก็บศพวันแรก
ได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญว่า บ่ายวันที่ 12 ได้รับแจ้งจากศูนย์กู้ชีพ 1669 ว่ามีเหตุคนเสียชีวิตที่หอพักแห่งหนึ่ง ในจังหวัดอุดรธานี
ซึ่งเมื่อไปตรวจสอบแล้ว ได้ไปพบผู้ตายนอนเสียชีวิตในลักษณะเปลือยกาย มีกางเกงในเพียงตัวเดียว ใบหน้าเขียวช้ำ
แต่เห็นผู้หญิงใส่เสื้อเหลืองนั่งร้องไห้อยู่ข้าง ๆ หลังตำรวจและหมอมาชันสูตรศพ ตนเองก็ได้นำมาที่ห้องเก็บศพของโรงพยาบาล
ศูนย์อุดรธานี ไม่นึกว่าที่หมอบอกว่าเคสนี้เป็นเพียงหัวใจล้มเหลว จะเป็นข่าวดังและยืดยาวของนางสาวแอมในวันนี้
มิน่าล่ะ วันที่หมอจะผ่าศพชันสูตรนางสาวแอมบอกไม่ยอมท่าเดียว และยังมาขอเปิดม่านตา เพื่อใช้ไอโฟนสแกนม่านตาผู้ตาย
กู้ภัยเราเลยบอกไปว่า คนตายมาหลายชั่วโมงแล้ว ตอนนี้ไม่สามารถเปิดม่านตาได้แล้ว นางสาวแอมจึงไม่สามารถสแกนม่านตาได้