ตำรวจคิดยังไง??? แอมคนเดียว หรือ มีพรรคพวก ช่วยฆ่า!!!
ขณะนี้นางสาวสรารัตน์ หรือ แอม ผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและข้อหาลักทรัพย์
ตาย 13 คน รอด 1 คน รวม 14 ราย ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ นั้นอยู่ในระหว่างสืบสวนหาข้อเท็จจริง
ส่วนในเรื่องหมายจับนั้น ยังคงมี 3 หมายเท่านั้น โดยเป็นคดีของนางศิริพร ขันวงษ์ หรือ ก้อย
คดีของ พันตำรวจตรีหญิง นิภา แสงจันทร์ หรือ สารวัตปู และคดีของนางรสจรินทร์ นิงห้อย หรือ น้อยผัก
นายเอนก เตาสุภาพ ผบก.ป. กล่าวว่า วันนี้ได้มีพยานเข้ามาให้ปากคำเรื่องแอม เพราะบางรายเคยพูดคุยกับแอม
ส่วนนายกอล์ฟได้เข้ามาให้ข้อมูลเรื่องถุงดำใส่กระปุกสารไซยาไนด์
ส่วนญาติของก้อยก็ได้มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางการเงินของก้อยก่อนเสียชีวิต
ส่วนจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ในตอนนี้ยังไม่พบว่ามีผู้ร่วมมือกับนางสาวแอมกระทำความผิด
กรณีของ พ.ต.ท วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ รอง ผกก. สภ. สวนผึ้ง อดีตสามีของแอมนั้น
ขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับ และยังคงเลื่อนสถานะการเป็นผู้ต้องหาออกไปก่อน
แต่ได้มีการเรียกตัวมาสอบสวนแล้ว ต่อไปหากมีหลักฐานหรือพยานเพิ่มเติมอาจจะมีการเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติม
ส่วนเรื่องเส้นทางการเงินนั้น ยังอยู่ในระหว่างตรวจสอบ และยังไม่พบพิรุจที่น่าสงสัย
ทางอดีตสามีของแอมบอกว่า ในเรื่องการกระทำผิด เขาไม่ได้มีส่วนรู้เห็นด้วย เพียงแต่คบหาอยู่กินกันเท่านั้น
เรื่องเงินของแอม เขาก็ไม่ได้ระบุรายละเอียดอะไร
เมื่อถูกถามมาว่า คดีแบบนี้แอมจะทำคนเดียวหรือไม่ หรือมีผู้ร่วมก่อการด้วย
พ.ต.อ. เอนก ได้กล่าวว่า ลักษณะของคดีแม้จะมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แต่การกระทำให้เรื่องแผยประทุษกรรมนั้น
ผู้ต้องหาต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจของเหยื่อ แล้วที่เจอในขณะนี้จะเห็นได้ว่า
การที่จะดำเนินการกับเหยื่อนั้น มักจะเดินทางไปเพียงลำพัง อาจมีการลวงหรือนัดหมายไปทำบุญ กินข้าว ดื่มกาแฟ
จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์อันน่าสลดใจขึ้น ดังนั้นจะเห็นร่องรอยว่า
แม้จะมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก แต่ไม่จำเป็นต้องมีผู้กระทำผิดหรือผู้ร่วมลงมือหลายคน
ในเรื่องของหมายจับอื่น ๆ นั้น ต้องรอ ผลการตรวจจากนิติเวชและหลักฐานที่เป็นปัจจับอื่น ๆ อีกหลายอย่าง
เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการออกหมายจับ
ขณะนี้รูปคดีมีความคืบหน้า 70-80% แล้ว ยังรอหลักฐานเพิ่มเติมบางส่วนจึงจะสรุปสำนวนส่งอัยการได้