ลูกบอลยางอายุ 1000 กว่าปี ถูกค้นพบในแอ่งน้ำในแหล่งโบราณคดี El Manatí ในประเทศเม็กซิโก!!

ลูกบอลยางอายุ 1000 กว่าปีที่ถูกทำขึ้นมาจาก Olmec ถูกค้นพบในแอ่งน้ำในแหล่งโบราณคดี El Manatí ในประเทศเม็กซิโก…🇲🇽

หลักฐานทางโบราณคดีที่เก่าแก่ที่สุดของการใช้ยางธรรมชาติมาจาก Olmec ซึ่งใช้มันสำหรับทำลูกบอลสำหรับการเล่น Mesoamerican ballgame หรือ Pok-A-Tok คือเกมส์ที่ถือกำเนิดจากความเชื่อของคนใน ยุคต้นๆวัฒนธรรมของโคลัมเบียในดินแดน Mesoamerica

ซึ่งก็คือ อเมริกากลาง หรือดินแดนตอนใต้และตอนกลาง ของประเทศเม็กซิโก ซึ่งเดิมทีเป็นที่อยู่อาศัยของชาว Maya และ Aztec ก่อนที่ชาวโปรตุเกสและชาวสเปนเดินทางมาถึง

Mesoamerican Ball Game หรือ Pok-A-Tok นั้นเป็น กีฬาของชาว Maya และ Aztec เมื่อประมาณ 1000 ปีมา แล้ว จากหลักฐานที่พบสนามบอล ( Stone Court) กระจัดกระจายอยู่ที่ประเทศเม็กซิโกและเก่าแก่ที่สุดนั้นอยู่ บริเวณที่ราบสูงEtlatongo ในหุบเขา Oaxaca ทางตอนใต้ ของเม็กซิโก ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1374 หรือ พ.ศ. 1917

การเล่นประเภทนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อความบันเทิงของชาวMaya และ Aztec เพียงเท่านั้น ยังมีเรื่องของศาสนาและความเชื่อเข้ามา เกี่ยวข้องด้วยเพราะชาวMaya เชื่อในเรื่องของความตาย รวมถึงชีวิตหลังความตายและการเสียสละเพื่อพระเจ้าถือเป็นความสมบรูณ์ของชีวิต

จากหลักฐานตัวอักษรของชาวAztec บนแผ่นป้ายที่สนาม บอล มีคำจารึกว่า “Tzompantli” แปลว่า"โครงกระดูก" ทั้งยังมีการพบซากโครงกระดูกมากกว่า 1000 ชิ้นขึ้นไป โดยทั้งนักบวชและบรรดาผู้พิชิตดินแดนชาวสเปนที่เดินทาง มาถึงตอนกลางของประเทศเม็กซิโก

ในช่วงศตวรรษที่ 16 ได้ทำการบันทึกไว้ว่า เกมส์การเล่นที่อันตรายแก่ชีวิตนี้ ผู้เล่นอาจบอบช้ำ บาดเจ็บ หรือตายได้ทุกนาที ในสนามบอลพื้นหินที่มีแนวกั้นเป็น กำแพงลาดเอียงทั้ง2แนวมีพื้นที่ตรงกลางใช้แข่งขันและมี ห่วงหินแขวนห้อยไว้สำหรับให้บอลลงไปในห่วง

ผู้เล่นสองฝ่ายจะใช้สะโพกเป็นตัวรับและส่งลูกบอลที่มีน้ำหนักถึง 3.6 กิโลกรัมเท่านั้นห้ามใช้มือหรือเท้า ด้วยความเร็วมากๆประกอบกับน้ำหนักของบอลที่พุ่งเข้าใส่ผู้เล่นอันตรายที่จะเกิดจึงรวดเร็วได้เช่นกัน

ชาวมายา มีความเชื่อในเทพเจ้าและการแข่งขันกีฬาประเภท นี้จัดเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมความเชื่อด้วย ลูกบอลที่เคลื่อนไหวอยู่นั้นเปรียบเปรยคล้ายกับการเคลื่อนที่ของดวงดาว ดวงอาทิตย์ และดวงดาวที่หมุนเวียน สับเปลี่ยนกันมาเฉกเช่น แสงสว่างและความมืด

ในศตวรรษที่16 ภายหลังจากการมาเยือนของชาวสเปนใน ดินแดนอเมริกากลางจึงได้มีการสั่งห้ามกีฬาประเภทนี้ เนื่องจากมีการค้นพบหลักฐานที่เป็นซากโครงกระดูกซึ่งคาด การณ์ว่าเสียชีวิตจากการแข่งขัน

ปัจจุบันพบว่าในชุมชน Sinaloa ทางตอนเหนือของประเทศ เม็กซิโก ยังมีการเล่นสืบทอดประเพณีนี้อยู่เรียกว่า “Ulama” โดยมีผู้เล่น 2 ทีมๆ ละ 3 คน แต่ใช้ปลายแขนที่มี ปลอกผ้าสวมทับกันกระแทกเล่นรับ ส่งลูกบอล แทนการใช้ สะโพกของยุคโบราณ เรียกว่า “Ulama de Brazo"

ส่วนทางตอนใต้ของประเทศใช้ผู้เล่น 5 คน หรือมากกว่านั้น การตีบอลยังคงนิยมใช้สะโพก เรียกว่า “Ulma de Caderlal"