หัวอกคนเป็นครูเจอคำตอบแบบนี้จากนักเรียนจะรู้สึกเช่นไร
ครูสาวท่านหนึ่งโพสผ่านเฟซบุ๊คตัดพ้อ น้อยใจนักเรียน หวังดีกับนักเรียนตั้งใจติดตามให้มาสอบปลายภาค
จึงส่งข้อความเข้าไปในกลุ่มไลน์ของนักเรียนว่า "ติดต่อขอสอบปลายภาคด่วน วันนี้ครูอยู่ทั้งวัน" พร้อมกับแท็กชื่อนักเรียน
นักเรียนคนที่ถูกแท็กคนหนึ่งตอบกลับมาว่า "หนูต้องทำไงบ้างอ่ะคะ"
ครูจึงตอบกลับว่า "ให้มาโรงเรียนเพื่อมาหาครู แล้วมาติดต่อขอสอบปลายภาค มาวันนี้จะดีมากเพราะครูอยู่ครบ"
แล้วนักเรียนก็ตอบกลับมาว่า "จะให้หนูเอาหีดีดไม้ไผ่ไปเหรอคะ รถแม่ก็เอาไปธุระ"
หลังจากนั้นครูสาวได้ออกมาโพสระบายความรู้สึกของตนเอง ด้วยข้อความต่อไปนี้
เมื่อเราอยากให้โอกาสเด็ก แต่เด็กไม่ให้แม้กระทั้งโอกาสตัวเอง
เมื่อหนูไม่มาสอบในวันที่โรงเรียนจัดสอบ ครูตามให้มาสอบกลับได้รับคำตอบแบบนี้
แล้ววันนี้คือวันเสาร์ ครูมาโรงเรียนทั้งวันเพื่อรอให้หนูมาเพื่อติดต่อขอสอบ แต่หนูกลับไม่มา
ถือว่าครูทำดีที่สุดแล้วนะ หากใครก็ตามเป็นพ่อคนแม่คน หรือในอนาคตอยากมีลูก
ท่านคงคิดว่าครูทำไมไม่สอนเด็ก นอกจากให้ความรู้ครูยังต้องสอนคุณธรรมและจริยะธรรมอีกด้วย
แน่นอนว่าสอนตลอด หรือ สอดแทรกอยู่ในชั้นเรียนเสมอ
แต่ถ้าหากท่านคิดว่าครูไม่ใส่ใจมากพอ ในห้องเรียนมีนักเรียนอย่างน้อย 20 คน ต่อครู 1 คน
สอนหลายห้อง และใน 1 วัน ครูมีงานหลายอย่างนอกเหนือจากงานสอนยังมีงานอื่น ๆ ที่ต้องทำอีกมากมาย
ถ้าใส่ใจเพียงคนใดคนหนึ่งแล้วที่เหลือต้องปล่อยเค้าไว้หรือ
สิ่งที่คนเป็นครูอยากฝากคือ อยากให้ท่านดูแลลูกหลานของท่าน
ช่วยกันดูแลในที่นี่ไม่ใช่ดูแลด้วยการให้ข้าว น้ำ เงินทอง
หากแต่เป็นการอบสั่งสอน สร้างค่านิยมอันดีให้กับบุตรหลานของท่าน
การอบรมไม่ใช่เพียงแค่พูดด้วยลมปากเท่านั้น
แต่ต้องประพฤติปฏิบัติให้เค้าเห็นด้วย ดังสุภาษิตที่ว่า
"ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน"
"ดูช้างให้ดูหางดูนางให้ดูแม่"
"สำเนียงส่อภาษากิริยาส่อสกุล"
ไม่ว่าจะพูดสอนแค่ไหน แต่ถ้าไม่ปฏิบัติให้เค้าดู
พฤติกรรมที่เค้าแสดงออกก็ล้วนเลียนแบบเราทั้งนั้น
สถาบันครอบครัวถือเป็นสถาบันแรกที่สำคัญที่สุดที่เขาจะเรียนรู้และเลียนแบบ
ส่วนสถาบันการศึกษาจะเป็นส่วนช่วยขัดเกลาขึ้นอีกระดับกว่าจะเป็นเพชรเม็ดงาม
ก็ต้องผ่านการขัดเกลามาอย่างหนัก
จุดประสงค์ของโพสต์นี้ไม่ได้แขวนเด็กให้ใครติหรือด่า
แต่เพียงรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ได้รับตอบกลับมาทั้งที่ตัวเราหวังดี
และท้ายที่สุดคืออยาก ฝากไปถึงผู้ปกครองให้ช่วยกันดูแล
ใช่จะให้ครูดูแลฝ่ายเดียว เพราะครูก็คน มีความรู้สึก ผิดหวัง เสียใจ เป้าหมายที่อยากเป็นครูมาตลอด
บางที่พอเข้ามาเป็นจริงๆแล้วมาเจอแบบนั้ มันบันทอนความรู้สึก
ไม่แปลกใจเลยที่ใครจะลาออก จะรู้สึกมีความสุขหรือทุกข์ในชีวิตของคนเป็นครู
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตัวแปรนั้นคือนักเรียนเป็นหลัก
ถึงแม้งานอื่นจะเหนื่อยจนสาหัส แต่ถ้านักเรียนมาช้ำให้ความรู้สึกของคนเป็นครูดิ่งลงไปอีก
เส้นทางเกษียณหรือลาออกก่อนวัยอันควรคงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม...
ขออภัยหากในรูปภาพมีคำหยาบ"


