ยังจำไม่เคยลืมเลือน

หลังจากที่วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม 2566 เป็นวันประกาศยุบสภาจบสิ้นรัฐบาลภายใต้แกนนำอย่าง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และมีพรรคร่วมรัฐบาลเป็นรัฐบาลผสมที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 19 พรรคการเมืองที่ผ่านมาได้ยุติบทบาทในการทำหน้ากันไปแล้วได้แต่ครองรักษาการตำแหน่งรัฐมนตรีต่างๆ กันเอาไว้และสำหรับผลงานโครงการต่างๆ ที่ค้างคากันในรัฐบาลชุดนี้ ก็ไว้ค่อยส่งต่อมอบให้กับรัฐบาลชุดต่อไป ที่ไม่รู้ว่าจะเป็นใครได้สานต่องานที่เหลือกันอีกต่อไป 

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ประชาชนได้ทราบเห็นผลงานของคณะรัฐบาลชุดนี้มาบ้างพอสมควรแล้ว ซึ่งขอประมวลภาพความทรงจำของรัฐบาลนี้ มาตอกย้ำความรู้สึกกันอีกสักครั้ง เพื่อที่จะได้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกนักการเมืองและพรรคการเมืองชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศให้ได้ดีที่สุด ตามแบบฉบับที่ประชาชนต้องการ 

สำหรับผลงานของรัฐบาลที่ผ่านมาอย่างที่บอก สร้างความทรงจำให้กับพี่น้องประชาชนชาวไทยเป็นจนยากจะลืมได้ลง  จะมีผลงานอะไรบ้างเราลองมาฟื้นความจำกัน 

ผลงานแรกคงหนีไม่พ้นเรื่องความผิดพลาดในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ประมาทและดูถูกโรคโควิด 19 ว่าเป็นแค่ “ไข้หวัดกระจอก” แค่โรคหนึ่งเท่านั้น สามารถควบคุมได้ แต่ท้ายสุดก็ไม่สามารถควบคุมและยับยั้งโรคระบาดนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับคนไทยเป็นอย่างมาก เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่หลายๆ ด้าน เศรษฐกิจพัง คนตกงานไม่มีงานทำมากมายจากการปิดประเทศ มีทั้งคนป่วยคนเจ็บล้มตาย การรักษาที่เข้าไม่ถึงโรงพยาบาลบุคลากรทางการแพทย์ขาดแคลน พร้อมทั้ง ยารักษาวัคซีนต่างๆ ไม่เพียงพอกับต่อความต้องการของคนไทยทั้งประเทศจนทำให้เกิดวิกฤตใหญ่ของประเทศเลยก็ว่าได้จากคำพูดทีว่า “ก็แค่ไข้หวัดกระจอกๆ” คนไทยคงจำได้เป็นอย่างดี 

ส่วนอีกเรื่องที่จะไม่กล่าวไม่ได้คงเป็นเรื่องงามไส้สำหรับรัฐบาลชุดนี้ ที่บอกได้เลยว่า แพงทั้งแผ่นดิน สำหรับการแก้ไขปัญหาราคาข้าวของแพง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภค บริโภค แก๊สหุ้งต้ม น้ำมัน ค่าไฟ ค่าน้ำ  ค่ารถค่าเรือต่างๆ ที่ทยอยปรับขึ้นราคา  ซึ่งสวนทางกับรายได้ของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก สำหรับทางด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาปากท้อง ข้าวของแพงต่างๆ ได้เลย มีแต่ผลักภาระให้กับพี่น้องประชาชน ให้ดิ้นรนสู้ชีวิตหาทางออกกันเองไปวันๆเท่านั้นเอง 

อย่างที่เกริ่นนำมาจบไปแล้วสำหรับรัฐบาลชุดนี้ที่เหมือนจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้เลย ซึ่งคงต้องฝากความหวังไว้กับรัฐบาลชุดหน้าที่แม้ยังไม่รู้ว่าจะเป็นใครเข้ามาบริหารและจะทำได้ดีแค่ไหน ถูกใจประชาชนหรือไม่ ก็ต้องเป็นสิ่งที่ต้องดูกันต่อไปแบบยาวๆ แต่อย่างน้อย การเลือกตั้งที่ใกล้จะมาถึงครั้งนี้ ก็ถือเป็นทางเลือกหนึ่งให้ประชาชนได้ตัดสินใจในการเลือกคนดีๆ พรรคการเมืองดีๆ เข้ามาบริหารประเทศให้ประชาชนได้รับประโยชน์กลับมาให้มากที่สุด