“คาปิบารา” หมาที่ไม่ใช่หมา!
เรื่องของหมาที่ไม่ใช่หมา “คาปิบารา”
หลายวันที่ผ่านมาบางคนอาจจะได้ยินเรื่องราวของ “หมามะพร้าว” กันมาบ้าง และคงมีบางคนที่รู้สึกสนใจและชอบใจในความน่ารักของพวกมัน งั้นวันนี้จะชวนมาทำความรู้จักกับพวกมันเสียหน่อยเป็นไร
“หมามะพร้าว” ที่ว่านี่คือสัตว์ที่เรียกว่า “คาปิบารา” (Capybara) หรือบางครั้งในภาษาอังกฤษจะเรียกว่า หมูน้ำ (Water Hog) แต่ความจริงแล้วพวกมันไม่ใช่ทั้งหมาและหมู แต่เป็นสัตว์ในอันดับสัตว์ฟันแทะ (Rodent) ต่างหาก โดยอยู่ในวงศ์หนูตะเภา (Cavidae) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Hydrochoerus hydrochaeris เป็นสัตว์ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในอเมริกาใต้ฝั่งตะวันออกของเทือกเขาแอนดีส ตั้งแต่ตอนเหนือสุดในประเทศเวเนซูเอลา ไปจนถึงตอนกลางของอาร์เจนตินา ชื่อ Capybara ก็มาจากภาษาทูปิ (Tupi) หมายถึง “สัตว์ที่กินใบไม้เรียวหรือหญ้า
คาปิบาราจัดเป็นสัตว์ฟันแทะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ลำตัวเป็นทรงกระบอกและหัวสั้น ตัวเต็มวัยมีความยาวตั้งแต่หัวถึงปลายลำตัวได้ถึง 1-1.30 เมตร และมีความสูงเมื่อยืนสี่เท้าประมาณ 50-60เซนติเมตร น้ำหนักตัว 25-80 กิโลกรัม มีขนสีน้ำตาลแดงเป็นเส้นหยาบ ๆ มองดูคล้ายใยมะพร้าว ซึ่งกลายเป็นที่มาของชื่อเล่น “หมามะพร้าว”
แม้ว่าจะเป็นสัตว์บก แต่คาปิบาราก็ชอบอาศัยอยู่ใกล้แหล่งน้ำ ไม่ว่าจะเป็นริมแม่น้ำ ห้วยหนองคลองบึง หรือแม้แต่ตามพื้นที่ชุ่มน้ำ (จนเป็นที่มาของชื่อวิทยาศาสตร์ Hydro = น้ำ cholros = หมู) และว่ายน้ำรวมถึงดำน้ำได้เป็นช่วงสั้น ๆ ประมาณ 5 นาที ในเวลากลางวัน พวกมันมักจะแช่ตัวในน้ำ ทั้งเพื่อซ่อนตัวจากศัตรูและเพื่อระบายความร้อนออกจากร่างกาย และมักจะออกหากินในเวลากลางคืน อาหารของพวกมันคือหญ้าหรือพืชน้ำ รวมถึงเมล็ดธัญพืชและลูกผลไม้ได้อีกด้วย ตัวเต็มวัยจะกินอาหารวันละประมาณ 2-3 กิโลกรัม และเช่นเดียวกับสัตว์ฟันแทะอื่น ๆ คือพวกมันจะมีฟันงอกยาวขึ้นตลอดเวลา พวกมันจึงต้องแทะต้นไม้แข็ง ๆ เพื่อช่วยลับฟันไม่ให้งอกยาวเกินไป
คาปิบาราสามารถออกหากินตามลำพัง หรือบางครั้งก็อยู่กันเป็นฝูง ที่เคยพบมากสุดคือประมาณ 40 ตัว โดยมักจะพบตัวเต็มวัยตัวผู้ราว 2-3 ตัว ตัวเมีย 4-7 ตัว คาปิบาราจะสามารถสืบพันธุ์ได้เมื่อมีอายุราว 1.5 ปีครึ่ง ตัวเมียจะใช้เวลาอุ้มท้องประมาณ 150 วันจึงจะคลอด ลูกแต่ละครอกมีจำนวนเฉลี่ยประมาณ 5 ตัว ลูกคาปิบาราแรกเกิดจะมีน้ำหนักราว 1-1.5 กิโลกรัม และจะหย่านมแม่เมื่อมีอายุได้ราว 4 เดือน
คาปิบาราในธรรมชาติมีอายุขัยเฉลี่ย 8-10 ปี ศัตรูในธรรมชาติของพวกมันได้แก่สัตว์นักล่า เช่น งู แมว นกกินเนื้อ และแน่นอนที่สุดคือ มนุษย์ ที่ทั้งล่าพวกมันเพื่อเอาหนังและขน รวมถึงบางแห่งก็ล่าเป็นอาหาร รวมถึงการทำลายถิ่นที่อยู่ของพวกมัน อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันสถานภาพของคาปินาราก็ยังจัดอยู่ในกลุ่มสัตว์ที่มีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ระดับต่ำ เนื่องจากพวกมันขยายพันธุ์ได้เร็ว รวมถึงสามารถปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมได้ดี ในอเมริกาใต้หลายแห่งยังอาจพบคาปิบาราตามพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำในเมืองใหญ่ได้ด้วย นอกจากนั้นก็มีผู้นำคาปิบารามาเลี้ยงทั้งในฐานะสัตว์เศรษฐกิจ รวมถึงเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้าน
🤔🤔🤔
อ้างอิงจาก: https://a-z-animals.com/animals/capybara/
และ https://animals.sandiegozoo.org/animals/capybara
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอม



